เปรียบเทียบ HIFU vs Ultraformer สองเทคโนโลยียกกระชับต่างกันอย่างไร?
สรุปสาระสำคัญ
- HIFU คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่มีความเข้มข้นสูง
- พลังงานคลื่นเสียงทำให้คอลลาเจนและเส้นใยต่าง ๆ ในชั้นผิวหดตัว และเกิดการกระตุ้นให้ผลิตคอลลาเจนใหม่
- Ultraformer คือ HIFU ที่ได้รับการพัฒนาแล้ว โดยเรียกว่าเทคโนโลยี MMFU ซึ่งมีความแม่นยำและเสถียรกว่า HIFU
- Ultraformer ช่วยกระชับสัดส่วนได้ โดยการส่งคลื่นพลังงานไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
- Ultraformer ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนานกว่า HIFU
HIFU คืออะไร
HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่มีความเข้มข้นสูงค่ะ โดยเมื่อยิงพลังงานจะทำให้เกิดความร้อนในจุดเล็ก ๆ (Thermal Coagulation Point) ส่งผลให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นหดตัวและกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับและเรียบเนียนยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดค่ะ
HIFU เป็นหัตถการยกกระชับที่ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่สร้างแผล และไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและความเสี่ยงต่ำมาก ๆ ทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดูแลผิวและเสริมความมั่นใจที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจค่ะ
HIFU เหมาะกับใคร
- คนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป และเริ่มมีปัญหาริ้วรอย หรือผิวหย่อนคล้อย
- คนที่ต้องการให้กรอบหน้าที่เรียวและชัดขึ้น
- คนที่ไม่ต้องการผ่าตัด หรือไม่ต้องการหัตถการที่ต้องพักฟื้นนาน
Ultraformer คืออะไร
Ultraformer คือ เครื่อง HIFU ประเภทหนึ่งที่ได้รับการพัฒนาขึ้นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ โดยใช้เทคโนโลยี MMFU หรือ Micro & Macro Focused Ultrasound ที่ส่งพลังงานได้ลึกและแม่นยำลงสู่ชั้นผิวที่ต้องการ เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ยกกระชับผิว อีกทั้งสลายไขมันใต้ผิวหนังซึ่งช่วยให้ปรับได้ทั้งรูปหน้าและสรีระบางส่วนค่ะ
จุดเด่นของ Ultraformer ก็อยู่ที่ความแม่นยำที่มากกว่า HIFU ค่ะ โดยหัวปล่อยพลังงานที่มีหลายขนาด สามารถปรับระดับความลึกและพลังงานให้เหมาะกับบริเวณที่รักษาได้ อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า HIFU ค่ะ
.png)
Ultraformer เหมาะกับใคร
- คนที่มีผิวหย่อนคล้อย รูขุมขนกว้าง และมีปัญหาริ้วรอย
- คนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว หรือเป็นทรง V-shape
- คนที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด และต้องการกระชับสัดส่วน เช่น เหนียง ต้นแขน ต้นขา
HIFU กับ Ultraformer ทำงานกับผิวชั้นไหน
ทั้ง HIFU และ Ultraformer เป็นเทคโนโลนีที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงเข้มข้นยิงไปยังชั้นเนื้อเยื้อใต้ผิวเพื่อให้ยกกระชับผิวค่ะ โดยชั้นเนื้อเยื่อที่ทั้งสองหัตถการเข้าถึงได้แก่: ผิวชั้นหนังแท้ และชั้น SMAS ซึ่งความแตกต่างของหัตถการทั้งสองตัวนี้อยู่ที่ความแม่นยำ ความลึกของการยิง และความหลากหลายของการรักษาค่ะ
- ชั้นหนังแท้ (Dermis): ความลึก 1.5 - 3.0 mm
ถึอเป็นความลึกมาตรฐานที่ใช้ในการยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณใบหน้าค่ะ โดยทั้ง HIFU และ Ultraformer จะกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นนี้ด้วยพลังงานคลื่นเสียงที่แปรเปลี่ยเป็นความร้อน มวลคอลลาเจนที่มีอยู่จะเกิดการหดตัว และเข้าสู่กระบวนการผลิตคอลลาเจนใหม่ ซึ่งช่วยให้ผิวกระชับ พร้อมลดเลือนริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ เช่น ริ้วรอยรอบดวงตาได้ค่ะ
- ชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System): ความลึก 4.5 mm
ชั้น SMAS เป็นผิวชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า (Facelift) ค่ะ โดยเป็นชั้นพังผืดที่อยู่ใต้มัดกล้ามเนื้อ เมื่อยิงคลื่นเสียงลงไปแล้ว ก็จะเกิดการหดตัว ซึ่งช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล่อยได้ดี เช่น ช่วยลดเลือนร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และลิฟต์กรอบหน้าให้เรียวขึ้นค่ะ
- ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat Tissue): ความลึก 6.0 -13.0 mm
เป็นชั้นที่มีสะสมไขมันตามชื่อเลยค่ะ โดยทั่วไปจะมีเฉพาะ Ultraformer ที่มีหัวยิงที่ความลึกระดับนี้ พลังงานที่ถูกส่งเข้าไปจะทำให้ไขมันเกิดการสลายตัวเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ และถูกกำจัดไปทางระบบขับถ่ายค่ะ Ultraformer จึงช่วยยกกระชับได้ทั้งผิวบริเวณใบหน้าและสัดส่วนของร่างกาย เช่น ต้นแขน ต้นขา และหน้าท้องค่ะ
.jpg)
HIFU vs Ultraformer ต่างกันอย่างไร
HIFU กับ Ultraformer ต่างกันที่ความแม่นยำและความสามารถในการรักษาค่ะ โดยทั้งสองตัวเป็นตัวเลือกการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องใช้เข็ม ไม่มีการฉีดตัวยา และไม่ต้องผ่าตัดเหมือนกัน เพียงแต่ Ultraformer เป็นเวอร์ชันที่ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพและความหลากหลายในการรักษามากขึ้น รวมถึงมีระดับความลึกที่ปรับให้เหมาะสมกับพื้นที่ได้ และมีผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าค่ะ
- Ultraformer ยิงได้ทั้งลึกและกว้าง HIFU ด้วยเทคโนโลยี MMFU ให้พลังงานสม่ำเสมอและแม่นยำกว่า
- HIFU มีจำนวนหัวจำกัด เหมาะกับการรักษาบริเวณกว้าง เช่น กรอบหน้าและแก้ม ในขณะที่ Ultraformer มีหัวหลายขนาด รองรับจุดเล็ก เช่น ใต้ตาหรือรอบปากได้ดีกว่า
- Ultraformer สามารถทำได้ทั้งยกกระชับได้ทั้งใบหน้า ลำคอ ต้นแขน ต้นขา และหน้าท้อง
ซึ่งหากต้องสรุปจริง ๆ หมอคิดว่า HIFU เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย ริ้วรอยไม่ลึกมาก และมีงบประมาณจำกัดให้กับหัตถการ ในขณะที่ Ultraformer เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน คงอยู่นาน และกระชับสัดส่วนค่ะ
.jpg)
HIFU vs Ultraformer: ผลลัพธ์และระยะเวลาเห็นผล
- HIFU: เห็นผลบางส่วนหลังทำ และค่อย ๆ ชัดเจนขั้นภายใน 2–3 เดือน อายุของผลลัพธ์อยู่ 3–4 เดือน
- Ultraformer: เห็นผล 10-20% ทันทีหลังทำ โดยผลลัพธ์ที่ชัดเจนเห็นได้ภายใน 2–3 เดือน และมีอายุราว ๆ 6 เดือน