โบท็อกซ์

ฉีดโบท็อกซ์คืออะไร ช่วยทำให้หน้าเล็ก น่องขาเรียว และแขนเล็กได้จริงไหม?

บิวตี้เทรนด์สาวสวยยุคนี้ต้องหน้าเรียวเล็ก ไม่มีเหนียงใต้คาง และมีน่องขาที่เรียวสวย ใครที่คิดว่าตัวเองยังสวยไม่พอ ก็มาฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ได้ที่ EY Clinic ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้ความรู้ คำแนะนำการเตรียมตัว-ดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ ข้อดี ข้อจำกัด และการเลือกโบท็อกซ์ให้เหมาะกับปัญหาต่าง ๆ อย่างเหมาะสม

โบท็อกซ์คืออะไร ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?

โบท็อกซ์ หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า โบทูลินุ่ม ท็อกซิน เกิดจากเชื้อแบคทีเรียคอสตริเดียม โบทูไลนุม เมื่อฉีดสารตัวนี้เข้ากล้ามเนื้อ จะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและลีบเล็กลง แพทย์จึงนำจุดเด่นของสารนี้มาฉีดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ เล็กลง เพื่อทำให้กล้ามเนื้อน่องขาเรียว ฉีดลดกราม และยังเป็นตัวช่วยลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าให้เรียบเนียนขึ้นภายใน 7-14 วัน

โบท็อกซ์ช่วยรักษาโรคอะไร?

นอกจากจะทำให้คุณสวยสมใจได้แล้ว แพทย์จะใช้โบท็อกซ์ในการรักษาโรคตาเหล่ โรคกล้ามเนื้อเกร็งผิดปกติต่าง ๆ เช่น โรคเกร็งบิด โรคตากะปริบ และโรคใบหน้ากระตุกครึ่งซีก รวมถึงช่วยลดอาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อหลัง และโรคอัมพฤกษ์ได้อีกด้วย

ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์

• ปลอดภัย ทำได้โดยไม่ต้องดมยาสลบ
• เป็นที่ยอมรับสำหรับนำมาใช้ในการรักษาโรคและยกกระชับกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายและใบหน้าให้สวยขึ้น
• มีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนเมื่อเทียบกับการผ่าตัดศัลยกรรมพลาสติก

ข้อจำกัด

• การรักษาไม่ถาวร เพราะสารในโบท็อกซ์จะช่วยให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงลงได้ไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของโบท็อกซ์ที่ใช้ จึงต้องฉีดเติมโบเรื่อย ๆ เพื่อคงความสวยในแบบที่คุณต้องการ
• มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เพราะต้องทำอย่างต่อเนื่อง
• ถ้าฉีดบ่อยเกินไป อาจมีอาการดื้อ Botox ทำให้ฉีดแล้วไม่เห็นผลความเปลี่ยนแปลง แต่สามารถยืดระยะเวลาการฉีดให้นานขึ้น และกลับมาฉีดโบอีกได้
• หลังฉีด Botox อาจเคี้ยวอาหารไม่ถนัด เพราะจะรู้สึกเมื่อยปากเวลาเคี้ยวอาหารเหนียว ๆ ทำให้

EY Clinic คัดสรรโบท็อกซ์แบรนด์ชั้นนำระดับโลก

ฉีดแล้วหน้าสวย แขนเล็ก ขาเรียว ไม่ต้องพักฟื้นนาน

โบท็อกซ์เหมาะกับใครบ้าง?

1. คนที่มีริ้วรอยบนใบหน้า แก้มหย่อนคล้อย และผิวแห้งเสีย

ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าและส่วนอื่น ๆ ของร่างกายเกิดจากการแสดงอารมณ์ และเกิดจากอายุที่มากขึ้น จึงทำให้ผิวเสื่อมสภาพลง ซึ่งการทาครีมราคาแพงจะสามารถกู้ความอ่อนเยาว์ แต่การฉีดโบท็อกซ์กับแพทย์ที่ EY Clinic จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาอิ่มฟู ผิวกระชับ และช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้หน้าดูเด็กขึ้นภายใน 2 สัปดาห์

2. คนที่มีปัญหากรอบหน้าซ้ายขวาไม่เท่ากัน หน้าบาน และหางคิ้วตก

แพทย์ของเราจะวิเคราะห์ปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้า วางแผนการรักษา และให้คำแนะนำในการฉีดโบท็อกซ์เข้ากล้ามเนื้อบริเวณกราม เพื่อทำให้ใบหน้าของคุณเรียวเล็กขึ้น พร้อมทั้งช่วยยกกระชับหางคิ้วทำให้ดวงตาของคุณกลมโตขึ้นได้อีกด้วย

3. คนที่มีแขนและน่องขาใหญ่ ไม่สมส่วนกับรูปร่าง

บางคนมีกล้ามเนื้อขาและแขนที่ใหญ่เกินไป ไม่สมส่วนขนาดของส่วนสูง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้รูปร่างดูตัน หุ่นไม่เพรียว แต่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยการฉีดโบท็อกซ์ที่กล้ามเนื้อมักที่มีปัญหาได้โดยตรง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะจุดที่เห็นผลเร็วกว่าการออกกำลังกายเฉพาะส่วน ที่อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนถึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลง

4. คนที่มีรูขุมขนกว้าง เป็นสาเหตุที่ทำให้มีสิวอุดตัน

ลองสังเกตดูว่าคุณมีรูขุมขนบนใบหน้าที่เห็นชัดด้วยตาเปล่าไหม โดยเฉพาะบริเวณ T-zone ประกอบด้วยหน้าผาก จมูก และคาง ที่เป็นจุดที่หน้ามันที่สุด เมื่อฉีดโบท็อกซ์ รูขุมขนบนใบหน้าจะกระชับขึ้น และช่วยลดปัญหาผิวมันบริเวณหน้าแก้มได้

หลังฉีดโบท็อกซ์ จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าชัดเจนเลยว่า ผิวกระชับ รูขุมขนเล็กลง ทำให้ผิวของคุณละเอียดและเรียบเนียนมากขึ้น พร้อมช่วยลดโอกาสการเกิดสิวอุดตันได้อย่างตรงจุด

5. คนที่มีกลิ่นตัวแรง เหงื่อออกเยอะ

หนุ่ม ๆ คนไหนที่มีปัญหากลิ่นตัวแรงและเหงื่อออกเยอะ ซึ่งบางครั้งก็เป็นอุปสรรคกับชีวิตประจำวันของคุณ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะแพทย์ของเราจะช่วยแก้ปัญหาด้วยการฉีดโบท็อกซ์ลดการระบายของต่อมผลิตเหงื่อ เพื่อทำให้เหงื่อออกน้อยลง ช่วยลดกลิ่นตัวได้สบาย ๆ

แก้ปัญหาอย่างตรงจุด วิเคราะห์ปัญหา พร้อมวางแผนการรักษาอย่างถูกต้อง

และปลอดภัย โดยแพทย์จาก EY Clinic

โบท็อกซ์ทำงานยังไง?

สารโบทูลินัมท็อกซินในโบท็อกซ์จะส่งผลโดยตรงกับเซลล์ปลายประสาทของร่ายกาย ทำให้เซลล์ประสาทขอบกล้ามเนื้อบริเวณนั้นอ่อนแรงชั่วคราว และกล้ามเนื้อที่เป็นมัดแข็งแรงจะค่อย ๆ คลายตัวลง ซึ่งคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงหลังฉีดได้ตั้งแต่สัปดาห์แรก

หลังฉีดโบท็อกซ์แล้ว กล้ามเนื้อจะค่อย ๆ หดตัวเล็กลง และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้นหลายวัน เมื่อเวลาผ่านไป สารโบทูลินัมท็อกซินก็จะสลายหายไปเอง และสามารถฉีดเติมได้ในปริมาณและระยะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งคุณจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการดื้อโบ

ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม? 

โดยทั่วไปคนที่ได้รับสารโบทูลินัม ท็อกซิน หลังฉีดโบท็อกซ์มักไม่มีอาการข้างเคียงอะไรที่อันตรายเลย แต่ถึงอย่างไร ก็มีโอกาสน้อยมากที่อาจมีอาการปวดหัว ปวดบวมกล้ามเนื้อ หรือรู้สึกเจ็บ ๆ คัน ๆ หรือมีรอยช้ำเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด ซึ่งคุณไม่ต้องกังวลไป เพราะอาการข้างเคียงเหล่านี้ไม่ได้ร้ายแรงและหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์

ถึงแม้การฉีดโบท็อกซ์จะไม่ได้อันตรายอย่างที่หลายคนคิด แต่คุณก็ยังต้องระวังและตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าฉีด Botox แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทย ฉีดกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านโบท็อกซ์ที่คลินิกที่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย

หลังฉีดโบท็อกซ์ กล้ามเนื้อจะตายไหม?

เมื่อฉีดโบท็อกซ์ กล้ามเนื้อจะอ่อนแรงลงชั่วคราว ซึ่งสารโบทูลินัมท็อกซินจะไม่ทำให้เนื้อเน่า หรือเนื้อตายได้ ซึ่งในช่วงแรก ๆ จะรู้สึกตึงบริเวณที่ฉีด แต่หลังผ่านไป 1 สัปดาห์ คุณก็จะสามารถแสดงอารมณ์ทางสีหน้าได้ปกติ และ Botox จะสลายไปจนหมดเมื่อครบ 8 เดือน

อาการดื้อโบท็อกซ์เป็นยังไง?

เมื่อฉีดโบท็อกซ์ซ้ำ ๆ ติดต่อกันหลายปีอาจทำให้มีอาการดื้อยาได้ ซึ่งการเว้นระยะเวลาฉีดโบจะทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายกลับมาเป็นปกติ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายเดือน ดังนั้นจึงไม่ควรฉีด Botox บ่อยเกินไป และควรปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับการบริการอย่างปลอดภัย

ใครไม่ควรฉีดโบท็อกซ์?

• คนที่มีอาการหรือโรคผิดปกติด้านกล้ามเนื้อและระบบประสาท เพราะฉีดแล้วอาจทำให้ป่วยมากกว่าเดิม
• คนท้องหรืออยู่ในช่วงให้นมลูก

โบท็อกซ์อยู่ได้นานแค่ไหน?

โดยทั่วไป การฉีดโบท็อกซ์เพื่อความสวยงามจะอยู่กับคุณได้เฉลี่ยประมาณ 4-6 เดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด ปริมาณโบท็อกซ์ ช่วงอายุ ความยืดหยุ่นของผิว และความลึกของริ้วรอยบนใบหน้า เมื่อฉีดเติมโบบ่อย ๆ ก็จะทำให้โบท็อกซ์อยู่ได้นานขึ้น เพราะกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดจะหดตัวเล็กลง จึงไม่จำเป็นต้องเติมโบมากเท่ากับครั้งแรกที่ฉีด แถมยังเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวอีกด้วย

ปัจจัยที่มีผลทำให้โบท็อกซ์อยู่ได้ไม่นาน

1. ยี่ห้อและรุ่นของโบท็อกซ์

เพราะโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อผลิตจากเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนกัน ความยืดหยุ่น และมีสัดส่วนสารอื่น ๆ ไม่เท่ากัน จึงทำให้อยู่ได้นานไม่เท่ากัน

2. ตำแหน่งที่ฉีดโบท็อกซ์

แต่ละจุดของใบหน้า แขน และขา มีมัดกล้ามเนื้อขนาดไม่เท่ากัน แพทย์จึงต้องคำนวณปริมาณโบท็อกซ์สำหรับฉีดแต่ละจุดอย่างเหมาะสม เพราะการฉีดโบเข้ากล้ามเนื้อมัดใหญ่จะอยู่ได้สั้นว่ามัดเล็ก ๆ อย่าง กล้ามเนื้อหน้าผาก กราม เมื่อฉีดโบแล้วจะอยู่ได้นานกว่าตอนฉีดเข้ากล้ามเนื้อน่องขา

3. ปริมาณโบท็อกซ์ต้องเหมาะสม

แพทย์จะต้องคำนวณปริมาณโบท็อกซ์ที่ควรฉีดให้พอดีกับปัญหาที่ต้องการแก้ไข ไม่ฉีดมาก หรือน้อยเกินไป จะทำให้ Botox ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์

ควรทำตามคำแนะนำและข้อห้ามต่าง ๆ ที่แพทย์บอก เพื่อทำให้โบท็อกซ์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและอยู่ได้นาน

5. เทคนิคการฉีดโบท็อกซ์ของแพทย์

ประสบการณ์ฉีดโบท็อกซ์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงอันตรายต่าง ๆ เทคนิคการฉีดโบที่ถูกต้อง แม่นยำ รวมถึงคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลัง เพื่อทำให้โบท็อกซ์อยู่กับคุณได้นานที่สุด

จุดไหนที่คนชอบฉีดโบท็อกซ์มากที่สุด?

1. โบท็อกซ์หน้าผาก

ช่วยลดริ้วรอยบนหน้าผากที่เป็นเส้นริ้ว ๆ ได้ทั้งที่เกิดจากการแสดงสีหน้าและปัญหาผิวที่เสื่อมสภาพลงตามอายุ

2. โบท็อกซ์กราม

ใครอยากมีใบหน้าเรียวเล็กลงกว่าเดิม หรือมีปัญหากรอบหน้าไม่เท่ากัน ก็สามารถฉีดโบท็อกซ์กับแพทย์ของเราที่คลินิก เพื่อทำให้กรอบหน้าดูมีมิติ และมีใบหน้าที่สมส่วนได้รูปมากขึ้นได้

3. โบท็อกซ์ลิฟต์หน้าเรียว

เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหน้าและลำคอหย่อนคล้อย แพทย์ของเราจะใช้เทคนิค Derma lift และ Nefertiti lift ในการยกกระชับคางไปจนถึงไหปลาร้าขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเด็กลงอย่างชัดเจน

4. โบท็อกซ์รักแร้

เป็นการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อลดปัญหาต่อมเหงื่อและกลิ่นตัว เหมาะสำหรับคนที่เหงื่อออกง่ายและมีกลิ่นตัวแรง ฉีดแล้วได้ผลจริงประมาณ 80%

5. โบท็อกซ์ระหว่างคิ้วและรอบดวงตา

ริ้วรอยระหว่างหัวคิ้วเกิดขึ้นได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเกิดจากการแสดงสีหน้า ริ้วรอยรอบดวงตาที่เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น ก็ล้วนเป็นริ้วรอยที่เห็นได้ชัดด้วยตาเปล่า ซึ่งสามารถแก้ปัญหาอย่างตรงจุดด้วยการฉีด Botox

ฉีดโบท็อกซ์ vs HIFU vs Filler อันไหนดีกว่ากัน?

ใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะฉีดโบท็อกซ์ ทำ HIFU หรือฉีดฟิลเลอร์ดี เพราะทั้งสามอย่างนี้เป็นนวัตกรรมด้านความสวยความงามสุดล้ำที่ได้รับความนิยมดีมาตลอดหลายสิบปี ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด ไม่ต้องพักฟื้นนาน ไม่ต้องวางยาสลบ และไม่ทำให้มัแผลเป็น แต่ทั้งสามอย่างนี้มีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน ดังนี้

ข้อดีและข้อจำกัดของการฉีดโบท็อกซ์ vs HIFU

• HIFU เป็นนวัตกรรมที่ใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูงยิงใต้ผิวหนังชั้น SMAS โดยตรง จึงทำให้ใบหน้ายกกระชับได้มากกว่าโบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้า
• HIFU สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวได้ แต่โบท็อกซ์ทำให้ผิวชั้นบนตึงขึ้นและกระชับขึ้นเท่านั้น
• HIFU มีประสิทธิภาพยาวนาน 6 เดือน - 1 ปี แต่โบท็อกซ์อยู่ได้สั้นกว่า เพราะเป็นการฉีดเข้าชั้นผิวหนังที่ตื้นกว่านั่นเอง
• ค่าใช้จ่ายในการฉีด Botox เริ่มต้น (เกาหลี) ถูกกว่าการทำ HIFU
• อาจมีอาการดื้อโบเมื่อฉีดบ่อย ๆ แต่ไม่พบอาการดื้อ HIFU
• ทั้งสองนวัตกรรมนี้เป็นการแก้ปัญหาชั่วคราว แต่สามารถทำซ้ำ ๆ ได้

ข้อดีและข้อจำกัดของการฉีดโบท็อกซ์ vs Filler

• โบท็อกซ์ช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อให้เล็กลง แต่ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่ช่วยทำให้ใบหน้าดูอิ่มขึ้น ริ้วรอยร่องลึกตื้น และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
• โบท็อกซ์เน้นแก้ปัญหาริ้วรอย ส่วนฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มเนื้อเยื่อ ปรับรูปหน้า เช่น การแก้ปัญหาใต้ตาลึก คางสั้น และรูปหน้าไม่สมส่วน
• ทั้งสองวิธีนี้เป็นเพียงการแก้ไขรูปหน้าและเติมเต็มเนื้อเยื่อชั่วคราว ไม่ถาวร เพราะสารในฟิลเลอร์และโบท็อกซ์จะสลายไปตามธรรมชาติ

ก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์ เตรียมตัวยังไง?

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์

• เลือกฉีดโบแท้เท่านั้น
• ควรให้แพทย์ผสม Botox ให้ดูทุกครั้ง เพื่อแน่ใจว่าคุณจะได้รับปริมาณโบท็อกซ์และน้ำเกลืออย่างถูกต้องและเหมาะสม
• ฉีดกับคลินิกที่มีใบรับรองการเปิดคลินิกความงามอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์

• ขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง ทันทีหลังฉีด
• ไม่ควรนอนราบอย่างน้อย 3 ชม.
• หลีกเลี่ยงที่จะเข้าใกล้ความร้อน ไม่ทำอาหารหน้าเตา หรืออยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนจนทำให้หน้าแดง
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
• งดนวดหน้า 2 สัปดาห์
• ฉีดเติมโบครั้งต่อไปในระยะเวลาที่เหมาะสมตามความเห็นของแพทย์
• งดทานอาหารที่รสเผ็ด
• งดทานอาหารหมักดอง
• งดสูบบุหรี่

เราใส่ใจทุกรายละเอียด พร้อมมอบคำแนะนำก่อนและหลังฉีดโบ

ที่จะทำให้ Botox อยู่กับคุณได้นานที่สุด

ฉีดโบท็อกซ์ราคาเท่าไร ดูยังไงว่าเป็นของแท้?

EY Clinic พร้อมให้บริการฉีดโบท็อกซ์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทย ในราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบราคาและคุณภาพของ Botox ได้ดังนี้

วิธีตรวจสอบโบท็อกซ์แท้

1. ต้องผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทย ซึ่งสามารถเช็กเลขทะเบียนและเอกสารกำกับภาษาไทยได้
2. เลข Lot ข้างกล่องและที่ขวดโบท็อกซ์ตรงกัน และจะต้องเป็นเลขทะเบียนที่สามารถตรวจสอบความถูกต้องกับบริษัทที่จำหน่าย Botox ได้ 
3. โบท็อกซ์ที่ยังอยู่ในขวดต้องเป็นยาเคลือบที่ก้นขวด ไม่มีน้ำปนอยู่

ราคาโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อที่ EY Clinic

• Nabota 1 ยูนิต                  150 บาท
• Nabota 50 ยูนิต            4,999 บาท
• Nabota 100 ยูนิต      8,499 บาท
• Allergan 50 ยูนิต     11,999 บาท
• Allergan 100 ยูนิต     17,999 บาท
• Xeomin 100 ยูนิต        15,499 บาท

โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี และฉีดที่ไหนหน้าเป๊ะ?

จุดเด่นของโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติพิเศษแตกต่างกันตามเทคโนโลยีที่บริษัทผู้ผลิตนำมาใช้ ตั้งแต่กรรมวิธีการผลิตไปจนถึงส่วนผสมสำคัญที่เป็นปัจจัยหลัก ทำให้โบแต่ละยี่ห้อมีอายุการใช้งานและความยืดหยุ่นไม่เท่ากัน เช่น ชนิดของโปรตีนเชิงซ้อนและขนาดโมเลกุล

ที่ EY Clinic เราคัดเลือกโบท็อกซ์แท้ยี่ห้อ Allergan, Xeomin และ Nabota ซึ่งทั้ง 3 ยี่ห้อนี้ผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทยแล้ว และยังเป็น Botox ที่ได้รับความนิยมอย่างยาวนานทั่วโลกอีกด้วย ซึ่งจุดเด่นของโบแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกัน ดังนี้

โบท็อกซ์ Allergan แบรนด์ประเทศสหรัฐอเมริกา

ข้อดี

• ผลิตจากโปรตีนเชิงซ้อนส่วนที่ 1 และ 2 ทำให้มีโอกาสดื้อโบน้อยมาก
• ฉีดเข้ากล้ามเนื้อได้แม่นยำ มีความบริสุทธิ์มาก ไม่มีส่วนผสมของไขมันสัตว์ 
• เหมาะกับการฉีดเฉพาะจุดบริเวณเล็ก ๆ

ข้อจำกัด

• เนื้อค่อนข้างแข็งและยืดหยุ่นน้อยกว่าโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น แพทย์ที่ฉีดจึงจะต้องมีประสบการณ์สูง เพื่อควบคุมให้ผลลัพธิ์ออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด

โบท็อกซ์ Xeomin แบรนด์ประเทศเยอรมนี

ข้อดี

• มีความบริสุทธิ์สูง เนื้อ Botox กระจายง่าย มีความยืดหยุ่นสูง 
• ฉีดแล้วสามารถขยับใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ สบายผิว ไม่หนักหน้า และทำให้โบเข้าที่เร็ว
• จากงานวิจัยพบว่า โบยี่ห้อ Xeomin ใช้กับคนที่ดื้อโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นได้ดี

โบท็อกซ์ Nabota แบรนด์ประเทศเกาหลีใต้

ข้อดี

• ราคาย่อมเยากว่าแบรนด์ที่ผลิตในยุโรปและอเมริกา
• ผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศสหรัฐอเมริกา U.S.FDA 2018
• เห็นผลเร็ว เข้าที่ไวกว่าโบเกาหลียี่ห้ออื่น ๆ

รีวิวฉีดโบท็อกซ์ที่ EY Clinic

ฉีดโบท็อกซ์ลดอายุ ลดเลือนริ้วรอย กระชับผิวหน้าให้ดูเด็กลง โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี

จะอุ่นใจแค่ไหน ถ้าคุณได้รับคำปรึกษาที่ถูกต้องจากแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการฉีด Botox ที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี นอกจากจะได้ความรู้และเคล็ดลับดี ๆ แล้ว แพทย์ของเราจะเป็นผู้วิเคราะห์ใบหน้า วางแผนการแก้ปัญหารักแร้มีกลิ่นแรง กล้ามเนื้อแขนและขาที่ไม่สมส่วน ด้วยโบแท้ที่มีคุณภาพสูงและผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทย นัดหมายฉีดโบท็อกซ์กับเรา โทร 061 594 1923, LINE Official: @EyclinicTH