ฉีด Profhilo กระตุ้นคอลลาเจน ปรับโครงสร้างผิว
- ฟื้นฟูอย่างล้ำลึก ให้ผิวสุขภาพดี
- กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินในทุกชั้นผิว
- เติมความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ
- ปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรง
- กระชับผิวที่หย่อนคล้อยอย่างเป็นธรรมชาติ
Profhilo
2cc per 1 ea
การฉีด Profhilo ถือเป็นทางเลือกการฟื้นฟูผิวที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ โดยมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในการกระตุ้นคอลลาเจน-อีลาสติน ปรับโครงสร้างผิว (Bio-remodeling) และกระชับผิวในส่วนที่หย่อนคล้อยค่ะ
Profhilo คืออะไร ทำงานอย่างไร
Profhilo [โปร-ฟิ-โล] คือ ไฮยาลูรอนิก แอซิดบริสุทธิ์ มีคุณสมบัติเป็น Biostimulator ที่จะกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินค่ะ โดยผลิตด้วย NAHYCO® technology ทำให้โมเลกุลไฮยาที่มีความเสถียร มีเนื้อที่เหลว และ Active ต่อเซลล์ได้นานค่ะ การฉีด Profhilo จึงเป็นเหมือนการบูสต์ผิวให้อ่อนเยาว์ ชุ่มชื้น และมีสุขภาพดีในระยะยาวค่ะ
เมื่อฉีด Profhilo แล้ว ตัวเจลไฮยาจะกระจายไปทั่วบริเวณผิว และจะกระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblasts) ค่ะ โดยจุดเด่นของการฉีด Profhilo คือ สามารถกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินได้ในทุกชั้นผิว (Biostimulator ส่วนใหญ่จะกระตุ้นคอลาเจนได้เฉพาะในชั้นหนังแท้) ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น แข็งแรง และกระชับยิ่งขึ้นค่ะ

Profhilo ต่างจากฟิลเลอร์ HA อย่างไร
Profhilo ต่างจากฟิลเลอร์ ตรงที่ ไฮยาลูรอนิก แอซิด ของ Profhilo ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นเซลล์ผิว (Bioremodeling) โดยเฉพาะ ในขณะที่ฟิลเลอร์ เช่น Neuramis หรือ Restylane จะเป็นไฮยาที่ใช้เติมเต็มปริมาตรผิว (Volumizing) ค่ะ
Profhilo ประกอบด้วยไฮยา 2 ประเภท: โมเลกุลสั้นและโมเลกุลยาว (High and low molecular weight HA) และมีโครงสร้างแบบ Hybrid Cooperative Complex (HCC) ที่ทำให้โมเลกุลของไฮยามีความเสถียรมากขึ้น และทำให้กระบวนการ Bio-remodeling และการให้ความชุ่มชื้นต่อผิวมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปด้วยค่ะ
ไฮยาใน Profhilo ยังไม่มีการ Cross-link ทำให้มีลักษณะเป็นของเหลว กระจายตัวได้ดี และไม่ขึ้นรูปหรือจับเป็นก้อนเหมือนฟิลเลอร์ทั่วไป การฉีด Profhilo จึงจะไม่ใช่การเติมเต็มผิว แต่เป็นการกระตุ้นเซลล์ให้ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในระยะยาวค่ะ
ฉีด Profhilo ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
1. กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน
Profhilo มีคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจน (ชนิดที่ 1,3, และ 4 ) และอีลาสตินในทุกชั้นผิวค่ะ ซึ่งเป็นเส้นใยโปรตีนหลักของโครงสร้างผิวและกระบวนการสมานแผล อีกทั้งยังช่วยให้ผิวกระชับ ไม่หย่อนคล้อยด้วยค่ะ
2. ปรับโครงสร้างผิว (Bio-remodelling)
การกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินจะทำให้ผิวเกิดการปรับโครงสร้างใหม่ หรือ Bio-Remodelling ค่ะ ซึ่งส่งผลให้ผิวมีความยืดหยุ่น แข็งแรง และเรียบเนียนยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยปรับสมดุลให้เกราะป้องกันผิวด้วยค่ะ
3. ให้ความชุ่มชื้น ลบเลือนริ้วรอย และยกกระชับ
คอลลาเจน ช่วยให้ผิวมีความอิ่มแน่นและชุ่มชื้น ส่วนอีลาสติน ช่วยในเรื่องของความยืดหยุ่นและกระชับยิ่งขึ้นค่ะ การฉีด Profhilo จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่มีปัญหาริ้วรอยก่อนวัย ผิวหย่อนคล้อย และผิวแห้งกร้านค่ะ
4. ฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพจากแสงแดดและมลภาวะ
การฉีด Profhilo ช่วยฟื้นฟูผิวที่ดูโทรมให้กระจ่างใสและสุขภาพดีขึ้นค่ะ โดยนอกจากเพิ่มความชุ่มชื้นและกระชับผิวแล้ว Profhilo ยังช่วยซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพจากแสงแดดและมลภาวะ ช่วยลดรอยดำ-รอยแดง แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอค่ะ
หมอขอแนะนำว่า การฉีด Profhilo ควรทำติดต่อกันอย่างน้อย 2 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 1 เดือนค่ะ โดย Profhilo ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนในช่วง 1-2 เดือนหลังฉีดแล้ว หลังจากฉีดครบ 2 แรก สามารถกลับมาฉีดกระตุ้นเพื่อคงผลลัพธ์ได้ทุก ๆ 6 เดือนค่ะ หลังจากฉีดครบ 2 ครั้ง ได้นาน 6-12 เดือนโดยประมาณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และการดูแลรักษาของคนไข้ผู้เข้ารับบริการ

Profhilo รักษาหลุมสิว
การฉีด Profhilo สามารถช่วยรักษาหลุมสิวได้ค่ะ โดยเฉพาะหลุมสิวประเภท Rolling ที่กว้างและมีขอบหลุมไม่ชัดเจน โดยพบว่า การฉีด Profhilo ควบคู่ไปกับ การตัดพังผืด (Subcision) ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจต่อผู้รักษามากกว่าถึง 2 เท่า (นับจาก VAS score) เมื่อเทียบกับการรักษาด้วย Subcision เพียงอย่างเดียวค่ะ
[อ้างอิงข้อมูล: Journal of Cosmetic Dermatology ]

Responses of different subtypes to Profhilo + subcision combination.
Profhilo ฉีดตรงไหนได้บ้าง
การฉีด Profhilo สามารถทำได้ทั่วใบหน้า เพื่อปรับสภาพผิวและลดริ้วรอยค่ะ อีกทั้งยังฉีดเพื่อลดความหย่อนคล้อยบริเวณลำคอ มือ แขน ขา และหน้าท้องได้ด้วยค่ะ

Profhilo เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย และมีริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้าหรือลำคอ
- ผู้ที่มีผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น หรือผิวหยาบกร้าน
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ เสื่อมสภาพจากแสงแดดและมลภาวะ
- ผู้ที่มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง
- ผู้ที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจน โดยไม่ต้องการเปลี่ยนรูปหน้า
- ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว โดยการฉีด Profhilo สามารถทำร่วมกับเลเซอร์รักษาหลุมสิว เช่น Venus Viva MD เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาได้ค่ะ

Profhilo ต่างจาก Sculptra, Radiesse และ Juvelook อย่างไร
Profhilo, Sculptra, Radiesse และ Juvelook เป็น Biostimulator ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนเหมือนกัน แต่มีองค์ประกอบ กลไกการทำงาน และจุดประสงค์จะแตกต่างกันค่ะ โดย Profhilo มีส่วนประกอบหลักเป็น HCC Hyaluronic Acid ที่กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินในทุกชั้นผิว ทั้งชั้นตื้นและชั้นลึก ในขณะที่ Sculptra เป็น Poly-L-lactic Acid (PLLA) เน้นการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวลึก เพื่อเพิ่มความแน่นกระชับและปรับโครงสร้างผิวแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วน Radiesse เป็น Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ให้ผลลัพธ์ในการเติมเต็มร่องลึกทันที พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนในผิวชั้นลึกค่ะ
ส่วน Juvelook หรือ ไหมน้ำ จะมีความแตกต่างออกมาเล็กน้อย เนื่องจากเป็น Hybrid Biostimulator ที่มีองค์ประกอบเป็น Hyaluronic Acid ที่จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวทันที และ Poly-D,L-lactic acid (PDLLA) ซึ่งออกฤทธิ์ทำให้เซลล์ผิวชั้นลึกเกิดการอักเสบอ่อน ๆ เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ผลิตคอลลาเจนมากขึ้นค่ะ โดยตัว PDLLA ยังช่วยเพิ่มโครงสร้างตาข่ายรอบเซลล์ (Extracellular Matrix, ECM) ทำให้ผิวกระชับ ฟูเด้ง ดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ และมีผลลัพธ์ที่ยืนยาวค่ะ
Profhilo จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม ในขณะที่ Sculptra จะเน้นการยกกระชับและความอิ่มฟูของผิว, Radiesse เหมาะกับคนที่ต้องการแก้ไขริ้วรอยโดยทันทีพร้อมฟื้นฟูผิวในระยะยาว และ Juvelook เหมาะกันคนที่ต้องการแก้ปัญหาผิวไม่เรียบเนียน แห้งกร้าน และอยากเพิ่มความเด้งให้ผิวอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
ความแตกต่างของ Profhilo, Sculptra, Radiesse, Juvelook และ ฟิลเลอร์ทั่วไป
จากตารางนี้ หมอขอสรุปว่า ทั้ง Profhilo, Sculptra, Radiesse, Juvelook และ ฟิลเลอร์ มีข้อดี-ข้อจำกัดที่ต่างกันค่ะ ก่อนตัดสินใจเลือก เราจึงควรมีการปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิว และพูดคุยถึงแผนการรักษาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการค่ะ
ตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ การฉีด Profhilo
Profhilo ต้องฉีดกี่ครั้ง
การฉีด Profhilo ครั้งแรก ควรทำติดต่อกัน 2 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างครั้งละ 1 เดือน เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจที่สุดค่ะ หลังจากฉีดครบ 2 ครั้งแล้ว สามารถฉีดกระตุ้นทุก ๆ 6 เดือนได้ เพื่อคงผลลัพธ์ค่ะ
ฉีด Profhilo กี่วันเห็นผล
Profhilo จะใช้เวลา 1-2 เดือนก่อนจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนค่ะ จะเข้าไปกระตุ้นคอลลาเจนในทุกชั้นผิว เพื่อปรับโครงสร้าง เพิ่มความชุ่มชื้น และกระชับผิว โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 6-12 เดือน อีกทั้งยังให้ช่วยลบเลือนรอยแผลเป็นหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อทำควบคู่กับ เลเซอร์หลุมสิว หรือ Subcision หลุมสิว ค่ะ

P1: Baseline photo, first session of treatment before initiating any procedure (male and female). P2: Follow-up photo, 3 months after the second treatment (male and female).
ฉีด Profhilo มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
ผลข้างเคียงของการฉีด Profhilo ที่พบได้บ่อย คือ อาการบวมช้ำจากเข็มเพียงเล็กน้อยค่ะ โดยจะหายไปเองในช่วง 2-3 ชั่วโมงหลังฉีด และไม่มีผลข้างเคียงในระยะยาวค่ะ
ฉีด Profhilo ราคาเท่าไหร่
การฉีด Profhilo ที่ EY Clinic มีราคาเริ่มต้นที่ 24,999.- ต่อการฉีด 1 ครั้ง (2cc) ค่ะ และมีแพ็กเกจ ฉีด Profhilo 2 ครั้ง ที่ราคา 47,599.- (คิดเป็นครั้งละ 23,800.-) ค่ะ
โดยที่ EY Clinic ก่อนทำหัตถการใด ๆ แพทย์จะทำการประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาก่อนเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่า คุณได้รับการดูแลที่ตรงจุดและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจที่สุดค่ะ
ฉีด Profhilo กระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟูผิว ที่ EY Clinic
ที่ EY Clinic เราเข้าใจดีถึงความท้อใจ และความไม่มั่นใจที่ปัญหาหลุมสิวนำมาให้คุณค่ะ เราจึงมุ่งมั่นที่จะวางแผนการรักษา และอยู่กับคุณในทุกขั้นตอนเพื่อให้มั่นใจว่า คุณได้รับผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ และได้ผิวที่มีสุขภาพดีขึ้นจากเราค่ะ
- เครื่องมือได้มาตรฐาน ใช้ยาจริงผ่านอย.ทุกตัว - คลินิกของเราได้การรับรองมาตรฐานคลินิกเวชกรรมอย่างชัดเจน มีเครื่องมือ ตัวยา และห้องทำหัตถการที่ปลอดภัยและคุณภาพเชื่อถือได้ค่ะ
- แพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ - เรา คือ ทีมแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง และ Anti-Aging ที่มีประสบการณ์รวมกว่า 30 ปีจากสถาบันชั้นนำของประเทศค่ะ
- รักษาตรงอาการ ใส่ใจอย่างเป็นมืออาชีพ - รับประกันการรักษาที่ออกแบบเฉพาะตัวบุคคล มีการติดตามผล และให้คำแนะนำอย่างใส่ใจค่ะ
- ให้ความสบายใจ ไม่มีการยัดเยียดคอร์ส - เรามุ่งมั่นที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณโดยไม่มีการยัดเยียดการรักษาที่ไม่จำเป็น และไม่มีการผูกมัดค่ะ
EY Clinic เป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านสิว หลุมสิว และ ชะลอวัย
เพราะเรา คือ ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์รวมกันมากกว่า 30 ปี นำทีมโดย หมอผึ้ง (พญ.พัจนภา เวชอนุรักษ์) แพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง สถาบันโรคผิวหนัง Board of Dermatology and Dermatosurgery และ หมอโบว์ (พญ. พันธลี ชื่นสัมพันธ์) เวชศาสตร์ชะลอวัย American Board of Anti-Aging & Regenerative Medicine แพทยศาสตรบัณฑิตโรงพยาบาลรามาธิบดี ยินดี ให้คำปรึกษาและช่วยดูแลให้ผิวของคุณมีสุขภาพดีมากขึ้นค่ะ
แวะเข้ามาปรึกษาคุณหมอ ได้ที่ EY Clinic หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ @EYClinicTH ค่ะ