ฉีด SCULPTRA รักษาหลุมสิว
- ช่วยให้รอยหลุมสิวแบบ rolling และ boxcar ตื้นขึ้น
- ช่วยให้ริ้วรอยจางลง คืนความอ่อนวัย
- ฟื้นฟูผิวหน้าให้แข็งแรง และกระชับผิวหน้าให้เรียบเนียน
- กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนด้วยกลไกธรรมชาติของร่างกาย
- มีความเสี่ยงต่ำ ทำได้ง่าย ไม่ต้องพักฟื้น
Sculptra
แถม Free (รวมมูลค่า)
การฉีด Sculptra เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในรักษาริ้วรอยและหลุมสิวที่ได้รับการไว้ใจจากผู้ใช้ทั่วโลก ซึ่ง Sculptra ถือเป็น Collagen Stimulator ที่ช่วยให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้มากขึ้นและสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวที่มากับอายุที่มากขึ้นได้เป็นอย่างดี เรามาเรียนรู้ไปด้วยกันว่า Sculptra คืออะไร มีกระบวนการทำงานอย่างไร พร้อมให้คำตอบทุกเรื่องที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดหลุมสิวด้วย Sculptra ค่ะ
Sculptra คืออะไร
Sculptra คือสาร Poly-l-lactic acid (PLLA) ที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนภายในร่างกาย ซึ่งช่วยในกระบวนการสมานแผล การรักษาแผลเป็น การกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวเด้งฟู กระจ่างใส และการลบเลือนริ้วรอยให้ผิวดูอ่อนวัยนั่นเองค่ะ
Sculptra สามารถเพิ่มการผลิตคอลลาเจนได้ถึง 66.5% ในร่างกาย
PLLA คือ สารประเภทเดียวกับ ไหมละลาย (Suture thread) ที่ใช้เย็บแผลหลังผ่าตัด ซึ่ง PLLA ถูกอยู่กับวงการการแพทย์ตั้งแต่ปี 1999 และตัว Sculptra เองก็ได้รับการรับรองจาก US FDA ใน ปี 2004 ในฐานะ สารฉีดกระตุ้นคอลลาเจน (Collagen Biostimulator) เพื่อจุดประสงค์ของความงามเราจึงมั่นใจได้ว่า Sculptra มีความปลอดภัยและสามารถทำงานกับเซลล์ในร่างกายของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
คอลลาเจนคืออะไร ทำไมถึงสำคัญต่อการรักษาหลุมสิว และริ้วรอย
คอลลาเจน (Collagen) คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่พบในเกือบทุกส่วนของร่างกายมนุษย์ มีความสำคัญในการเพิ่มความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และความชุ่มชื้นให้กับเนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ โดยคอลลาเจนในชั้นผิวของเรา คือ คอลลาเจน type 1 (Type I Collagen) ที่ทำงานคู่กับไฮยาลูรอนิก แอซิด และอีลาสติน เพื่อคงความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของผิวนั่นเองค่ะ
คอลลาเจนยังเป็นตัวเก็บความความชุ่มชื้นให้กับเซลล์ ทำให้เซลล์ไม่ขาดน้ำและทำงานได้เต็มที่และ เป็นองค์ประกอบสำคัญในกระบวนการสมานแผล เมื่อร่างกายมีแผล ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ คอลลาเจนจะเป็นตัวที่เข้ามาซ่อมแซมและทดแทนเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายค่ะ
กระบวนการทำงานของ Sculptra ในการรักษาหลุมสิว
ในการรักษาหลุมสิว แพทย์จะฉีด Sculptra เข้าผิวชั้น subcutaneous (ใต้หนังแท้) โดยสารจะเข้าไปกระตุ้นการอักเสบของเซลล์แบบเบา ๆ เพื่อพาผิวหนังเข้าสู่กระบวนการซ่อมแซมและสมานแผล
ในกระบวนการนี้ เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) จะถูกกระตุ้น ส่งผลให้มีการผลิตคอลลาเจนออกมามากขึ้น โดยพบว่า เพียง 3 เดือนหลังฉีด Sculptra แล้ว ปริมาณคอลลาเจนใต้ชั้นผิวเพิ่มขึ้นถึง 66.5% ส่งผลให้หลุมสิวดูจางลงอย่างชัดเจน และยังช่วยลดปัญหาริ้วรอยหรือผิวหย่อนคล้อยจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นได้อย่างดีด้วย
Sculptra ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
เพราะกระบวนการทำงานที่ช่วยเพิ่มปริมาณคอลลาเจนใต้ชั้นผิวด้วยกลไกธรรมชาติ การฉีด Scupltra จึงช่วยแก้ปัญหาผิวได้หลากหลายค่ะ
- การฉีด Sculptra ช่วยแก้ปัญหาหลุมสิว โดยเฉพาะหลุมสิวประเภท rolling และ boxcar
- การฉีด Sculptra ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกและร่องตื้น
- การฉีด Sculptra ช่วยกระชับผิวหย่อนคล้อยที่มากับอายุที่มากขึ้น เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการผลิตคอลลาเจนก็น้อยลงไปด้วย
- การฉีด Sculptra ช่วยให้ผิวแข็งแรง กระจ่างใส และอิ่มน้ำอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยคอลลาเจนที่ช่วยล็อกความชุ่มชื้นและเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
การฉีด Sculptra ถือเป็นการรักษาที่มีความเสี่ยงต่ำ ไม่ต้องการเวลาพักฟื้น และความโดดเด่นของ Sculptra ยังอยู่ที่ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ และคงอยู่ได้ยาวนานถึง 25 เดือนค่ะ
Sculptra เหมาะกับใคร
- คนที่มีปัญหาหลุมสิวประเภท rolling และ boxcar
- คนที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
- คนที่ต้องการการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกและเป็นธรรมชาติ
- คนที่ต้องการผิวที่อิ่มฟู เต่งตึง และชุ่มชื้น
- คนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการดูแลผิวหน้า และต้องการผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้นานโดยไม่ต้องเข้าคลินิกบ่อย ๆ
อย่างไรก็ดี อย่าลืมว่า ทุกหัตถการมีข้อจำกัด ก่อนรับการรักษาควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และศึกษาข้อมูลก่อนเสมอค่ะ หมอขอยกตัวอย่างกลุ่มคนที่ไม่เหมาะกับการรักษาด้วย Sculptra ข้างล่างนี้ค่ะ
ใครที่ไม่เหมาะกับการฉีด Sculptra
- คนที่ต้องการรักษาที่ได้ผลรวดเร็ว
- สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
- คนที่มีโรคประจำตัวในกลุ่มโรคแพ้ภูมิตนเอง (Autoimmune diseases) เช่น โรคลูปัส (SLE) และ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis)
- คนที่มีกำลังมีอาการติดเชื้อทางผิวหนัง
- คนที่มีแนวโน้มการเกิดแพ้เป็นประเภทคีลอยด์ (Keloid)
- คนที่เคยมีอาการแพ้รุนแรง (Anaphylaxis)
- คนที่เคยมีอาการแพ้ต่อสารประกอบ Poly-L-lactic acid (PLLA) , Carboxymethylcellulose (CMC) และ non-pyrogenic mannitol (USP) - ซึ่งสารเหล่านี้ มักจะถูกใช้ทางการแพทย์
เปรียบเทียบ Sculptra กับ การฉีดหลุมสิวด้วยวิธีอื่น
การฉีด Sculptra vs การฉีดฟิลเลอร์ รักษาหลุมสิว
การฉีด Sculptra เพื่อรักษาหลุมสิว เป็นเหมือนกันกระตุ้นให้ร่างกายเติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้นตามกลไกของร่างกาย ซึ่งแตกต่างจากการฉีดหลุมสิวด้วยฟิลเลอร์ที่เป็นการเติมปริมาตรหลุมสิวด้วยไฮยาลูรอนิก แอซิดค่ะ
อีกหนึ่งความแตกต่างของ Sculptra และฟิลเลอร์ คือ ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์สามารถเห็นได้ทันทีหลังฉีดค่ะ ในขณะที่ Sculptra จะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ แต่จะให้ผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้ถึง 2 ปี ในขณะที่ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์จะมีอยู่ได้ 6-12 เดือน ตามอายุของฟิลเลอร์ที่ใช้ค่ะ
การฉีด Sculptra vs การฉีด Rejuran S รักษาหลุมสิว
Rejuran S คือผลิตภัณฑ์กลุ่ม Rejuran ที่พัฒนามาเพื่อแก้ไขปัญหาหลุมสิวและแผลเป็นโดยเฉพาะค่ะ ซึ่ง Rejuran S คือ สารโพลีนิวคลีโอไทด์ (Polynucleotide หรือ PN) ที่ได้มาจากดีเอ็นเอของปลาแซลมอน มีกระบวนการทำงานที่ลึกถึงระดับดีเอ็นเอในการผลักผิวเข้าสู่กระบวนการสมานแผลและฟื้นฟูเซลล์
ผลลัพธ์ของ Rejuran S จะเห็นได้ช้ากว่า Sculptra แต่จะเป็นผลลัพธ์ที่ถาวรค่ะ แต่ Rejuran S จะไม่สามารถช่วยในเรื่องของความริ้วรอย และความอิ่มน้ำของผิวได้ เหมือน Sculptra ค่ะ
อย่างไรก็ดี ทั้ง Sculptra, ฟิลเลอร์, และ Rejuran S ย่อมมีข้อดีและข้อจำกัด ก่อนตัดสินใจ ควรมีการปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิว และพูดคุยถึงแผนการรักษาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการค่ะ
ตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Sculptra หลุมสิว
ฉีด Sculptra เจ็บไหม
การฉีด Sculptra จะคล้ายกับการรักษาอื่น ๆ ที่มีการใช้เข็ม ซึ่งอาจจะสร้างความเจ็บปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่ก่อนหัตถการจะมีการแปะยาชา หรือฉีดยาชา ซึ่งช่วยลดความเจ็บปวดจากเข็มได้ โดยหลังจากยาชาหมดฤทธิ์แล้ว เราอาจจะรู้สึกระบมเล็กน้อย และอาการจะบรรเทาลงเองภายใน 24 ชั่วโมง
ฉีด Sculptra หลุมสิว แต่ละครั้ง ต้องห่างกันกี่สัปดาห์
โดยทั่วไปแล้วการฉีด Sculptra เพื่อรักษาหลุมสิว ควรฉีดติดต่อกัน8iในการเริ่มผลิตคอลลาเจน ซึ่งเราจะเริ่มสัมผัสได้ว่า ผิวหน้าเริ่มมีความกระชับ อิ่มน้ำ และเต่งตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
ฉีด Sculptra รักษา หลุมสิว ต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
หลังฉีด Sculptra ครั้งแรก จะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ก่อนที่จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่การฉีด Scupltra เพียงครั้งเดียว อาจไม่สามารถแสดงผลลัพธ์ของการกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เราจึงควรฉีดอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย 3 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน งซึ่งจำนวนครั้งของการเข้าการฉีดจะขึ้นอยู่กับพื้นฐานผิวของแต่ละคน และวิจารณญาณของแพทย์ค่ะ
เมื่อฉีดครบคอร์สแล้ว ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 2 ปี และสามารถฉีดกระตุ้นได้ปีละ 1 ครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์ค่ะ
ฉีด Sculptra รักษาหลุมสิว ต้องใช้เวลารักษานานเท่าไหร่
การฉีด Sculptra 1 ครั้งจะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที ค่ะ โดยแนะนำว่า ควรฉีด Sculptra ติดต่อกันอย่างน้อย 3 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 4-6 สัปดาห์ หรือ แปลว่า คอร์สแรกจะใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือนหรือมากกว่านั้นค่ะ โดยระหว่างนี้ แพทย์จะมีติดตามผลการรักษา และประเมินว่าเราควรฉีด Sculptra กี่ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการค่ะ
เมื่อฉีดครบคอร์สตามที่แพทย์เห็นสมควรแล้ว ผลลัพธ์ของ Sculptra อยู่ได้นานถึง 2 ปี และสามารถฉีดกระตุ้นได้ปีละ 1 ครั้งเพื่อคงผลลัพธ์ค่ะ การฉีด Sculptra จึงถือเป็นตัวเลือกการรักษาที่เหมาะกับคนที่มีปัญหาหลุมสิว-ริ้วรอยที่ต้องการการรักษาที่ง่ายและไม่ต้องเข้าคลินิกบ่อย ๆ ค่ะ
Sculptra ฉีดกี่ขวด
โดยทั่วไปแล้ว ในการรักษาแต่ละครั้ง จะใช้ Sculptra จำนวน 1 ขวด/vial ซึ่งบรรจุ Sculptra ปริมาณ 10 cc
โดสของ Sculptra ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลสามารถคำนวณได้จากอายุค่ะ โดยนำตัวเลขอายุมาหารด้วยเลข 10 (ไม่นับจุดทศนิยม) เช่น หากเราอายุ 35 ปี โดสที่เหมาะสมจะเท่ากับ 35/10 = 3.5 แปลว่า โดสที่เหมาะสมของเราเท่ากับ 3 cc นั่นเองค่ะ
ฉีด Sculptra รักษาหลุมสิว มีผลข้างเคียงอย่างไร
การฉีด Sculptra ถือเป็นการรักษาที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยผลข้างเคียงของการฉีด Sculptra ที่พบได้บ่อยมีดังนี้:
- บริเวณที่ฉีดมีอาการบวม แดง หรือช้ำจากเข็ม
- บริเวณที่ฉีดมีอาการคัน หรือระคายเคือง
- ผิวหนังบริเวณที่ฉีดรู้สึกตึง หรือมีนูนเป็นตุ่มเล็กน้อย
ซึ่งอาการเหล่านี้จะบรรเทาลงไปเอง ในช่วงเวลา 1-2 สัปดาห์หลังฉีด Sculptra ค่ะ แต่หากไม่อาการเหล่านี้ไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรง ก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันทีค่ะ
ก่อนฉีด Sculptra รักษาหลุมสิว เตรียมตัวอย่างไร
เพื่อการรักษาที่ดีที่สุด เราสามารถเตรียมตัวเองให้พร้อมก่อนไปฉีด Sculptra ได้ดังนี้ค่ะ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงก่อนฉีดหลุมสิว เนื่องจากแอลกอฮอล์อาจทำให้มีอาการบวมช้ำเข็มรุนแรงขึ้น
- งดการทำหัตถการอื่น ๆ เช่น การสครับใบหน้า เลเซอร์ หรือการรักษาอื่น ๆ อย่างน้อย 3 วันก่อนฉีดหลุมสิว
- หยุดใช้ยาที่มีผลทำให้เลือดแข็งตัวช้า เช่น ยากลุ่ม NSAIDS, กลุ่มยาแก้ปวด คลายกล้ามเนื้อ หรืออาหารเสริมต่าง ๆ ในช่วง 3-4 วันก่อนฉีดหลุมสิว เพื่อลดโอกาสการเกิดอาการบวมช้ำจากเข็มหลังการรักษา
หลังฉีด Sculptra รักษาหลุมสิว ควรดูแลตัวเองอย่างไร
เมื่อฉีด Sculptra แล้วเราสามารถดูแลตัวเอง เพื่อลดอาการข้างเคียง และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดได้ดังนี้ค่ะ
- หลังจากฉีด Sculptra แล้ว 2-4 ชั่วโมง สามารถล้างหน้าและแต่งหน้าได้ตามปกติ
- งดทำกิจกรรมขับเหงื่ออย่าง การอบซาวน่า และการออกกำลังกายในช่วง 1-2 วันแรกหลังฉีด Sculptra
- งดกิจกรรมออกแดด 2-3 วันหลังฉีด Sculptra หรือจนกว่าอาการบวมเข็มจะหาย
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารช่วยผลัดเซลล์ผิว อย่าง Retinol, Glycolic acid, และ Salicylic acid อย่าง 1 สัปดาห์หลังฉีด Sculptra
- งดทำทรีตเมนต์อื่น ๆ บนใบหน้าเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังฉีด Sculptra
- นวดหน้าด้วยวิธี 5:5:5
การนวดหน้าด้วยวิธี 5:5:5 หลังฉีด Sculptra
วิธีนวด 5:5:5 คือ การนวดเพื่อบริเวณที่ฉีด Sculptra เพื่อลดการจับตัวของสาร PLLA และกระตุ้นให้ผิวดูดซับตัว PLLA อย่างเต็มที่ โดยนวดบริเวณใบหน้าอย่างเบามือ 5 ครั้งต่อวัน ครั้งละ 5 นาที เป็นเวลาต่อกัน 5 วันหลังฉีด Sculptra ด้วยวิธีดังนี้ค่ะ:
- นวดจากหน้าผากออกไปทางขมับทั้งสองข้างโดยใช้ปลายนิ้ว
- นวดจากบริเวณแก้มขึ้นไปยังโหนกแก้มโดยใช้อุ้งมือ
- นวดจากคางไล่ขึ้นไปตามแนวกราม โดยใช้อุ้งมือ
ฉีด Sculptra รักษาหลุมสิว และฟื้นฟูผิวให้มีสุขภาพดี ที่ EY Clinic
ที่ EY Clinic เราเข้าใจดีถึงความท้อใจ และความไม่มั่นใจที่ปัญหาหลุมสิวนำมาให้คุณค่ะ เราจึงมุ่งมั่นที่จะวางแผนการรักษา และอยู่กับคุณในทุกขั้นตอนเพื่อให้มั่นใจว่า คุณได้รับผลลัพธ์ที่น่าำึงำอใจ และได้ผิวที่มีสุขภาพดีขึ้นจากเราค่ะ
- หัตถการและเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน - คลินิกของเราได้การรับรองมาตรฐานคลินิกเวชกรรมอย่างชัดเจน มีเครื่องมือ ตัวยา และห้องทำหัตถการที่ปลอดภัยและคุณภาพเชื่อถือได้ค่ะ
- การรักษาโดยแพทย์ความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ - เราคือทีมแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและเวลล์เนสที่มีประสบการณ์รวมกว่า 30 ปีจากสถาบันชั้นนำของประเทศค่ะ
- ความใส่ใจอย่างเป็นมืออาชีพ - การรักษาออกแบบเฉพาะตัวบุคคล มีการติดตามผล และให้คำแนะนำอย่างใส่ใจค่ะ
- ความสบายใจ - เรามุ่งมั่นที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณโดยไม่มีการยัดเยียดการรักษาที่ไม่จำเป็น และไม่มีการผูกมัดค่ะ
EY Clinic เป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านสิว หลุมสิว และ ชะลอวัย
เพราะเราคือทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์รวมกันมากกว่า 30 ปี นำทีมโดย หมอผึ้ง (พญ.พัจนภา เวชอนุรักษ์) แพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง สถาบันโรคผิวหนัง Board of Dermatology and Dermatosurgery และ หมอโบว์ (พญ. พันธลี ชื่นสัมพันธ์) เวชศาสตร์ชะลอวัย American Board of Anti-Aging & Regenerative Medicine แพทยศาสตรบัณฑิตโรงพยาบาลรามาธิบดี ยินดี ให้คำปรึกษาและช่วยดูแลให้ผิวของคุณมีสุขภาพดีมากขึ้นค่ะ
แวะเข้ามาพูดคุยกับเราได้ที่ EY Clinic หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ @EYClinicTH ค่ะ