โบทูลินัมทอกซินกราม
- ช่วยปรับทรงหน้าให้สวยงามและสมส่วน
- เห็นผลภายใน 2 สัปดาห์แรก
- อยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน
- หัตถการที่ใช้เข็มเล็ก ไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น
- แก้ปัญหาเฉพาะจุดสำหรับที่ที่กรามใหญ่ โดยไม่ต้องผ่าตัดศัลกรรม
nabota กราม
made in korea
allergan กราม
made in us
xeomin กราม
made in germany
รวมทุกเรื่องที่คนอยากหน้าเรียวสวยต้องรู้ ก่อนฉีดโบลดกราม
หน้าเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังฉีดโบลดกราม 2 สัปดาห์ ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง และไม่เจ็บอย่างที่หลายคนคิดกัน ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราจะวิเคราะห์ใบหน้า วางแผนการรักษา พร้อมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับการฉีดโบลดกรามอย่างละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมตัว เลือกยี่ห้อโบท็อกซ์ ฉีดโบลดกรามราคาเท่าไร การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ และสิ่งสำคัญอื่น ๆ อีกมากมายที่ต้องรู้ก่อนฉีด
โบท็อกซ์ลดกรามคืออะไร ทำให้หน้าเรียวได้จริงไหม?
ใครที่อยากหน้าเรียวเล็ก แก้ไขกรอบหน้าไม่เท่ากัน หรืออยากฉีดโบท็อกซ์กระชับแก้มที่หย่อนคล้อย เพื่อทำให้ใบหน้าของคุณอ่อนเยาว์ ก็สามารถฉีดโบลดกรามกับแพทย์ที่คลินิกของเราได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อผิว และไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง
การฉีดสารโบทูลินัมท็อกซินเข้าที่กล้ามเนื้อกราม เมื่อฉีดโบลดกรามเข้าไป สารโบทูลินัมท็อกซินจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและลีบเล็กลงชั่วคราว ส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัว กรอบหน้าเล็กลง และมีใบหน้าที่สมส่วนมากขึ้น
ฉีดโบลดกรามกี่ครั้งถึงจะหน้าเล็กลง?
สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์หน้าครั้งแรก และจะค่อย ๆ ทำให้หน้าเล็กลงชัดเจนได้ตั้งแต่เดือนแรกหลังฉีด แต่จะเห็นผลดีมากแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีดของแพทย์ การดูแลตัวเองหลังฉีด ยี่ห้อและรุ่นของ Botox ที่ใช้ด้วย
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ไม่ว่าจะฉีดโบลดกรามยี่ห้อไหน ก็ทำได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน ไม่เหมือนการทำศัลกรรมหรือการร้อยไหมกระชับกรอบหน้าที่อยู่ได้ถาวร แต่คุณสามารถฉีดเติมโบได้ทุกปี เพื่อคงความอ่อนเยาว์ของใบหน้าไว้ให้ได้นานที่สุด และควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนการรักษาในครั้งต่อไป
ฉีดโบลดกรามกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ช่วยแก้ปัญหากล้ามกรามใหญ่ได้จริง เห็นผลภายใน 7-14 วัน
ฉีดโบลดกรามกี่ครั้งถึงจะหน้าเล็กลง?
สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์หน้าครั้งแรก และจะค่อย ๆ ทำให้หน้าเล็กลงชัดเจนได้ตั้งแต่เดือนแรกหลังฉีด แต่จะเห็นผลดีมากแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีดของแพทย์ การดูแลตัวเองหลังฉีด ยี่ห้อและรุ่นของ Botox ที่ใช้ด้วย
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ไม่ว่าจะฉีดโบลดกรามยี่ห้อไหน ก็ทำได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน ไม่เหมือนการทำศัลกรรมหรือการร้อยไหมกระชับกรอบหน้าที่อยู่ได้ถาวร แต่คุณสามารถฉีดเติมโบได้ทุกปี เพื่อคงความอ่อนเยาว์ของใบหน้าไว้ให้ได้นานที่สุด และควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนการรักษาในครั้งต่อไป
ฉีดโบลดกรามกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ช่วยแก้ปัญหากล้ามกรามใหญ่ได้จริง เห็นผลภายใน 7-14 วัน
ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ลดกราม ศัลยกรรม แบบไหนทำให้หน้าเรียวกว่า?
การทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กอย่างเป็นธรรมชาติสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์ โบลดกราม และทำศัลยกรรม ซึ่งทั้ง 3 วิธีนี้มีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน ซึ่งคุณสามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่คลินิกของเรา เพื่อวิเคราะห์ปัญหาบนใบหน้าและวางแผนการรักษาอย่างถูกต้อง
ฟิลเลอร์กรอบหน้าให้มีมิติ
ผลิตจากไฮยาลูโรนิกแอซิด เป็นสารที่สร้างขึ้นเพื่อทดแทนเนื้อเยื่อที่ขาดหาย และเสื่อมสภาพจากอายุที่มากขึ้น เหมาะกับคนที่อยากปรับรูปหน้าและแก้ปัญหาหน้ากลม โดยแพทย์จะฉีดฟิลเลอร์เข้าที่ชั้นผิวหนัง เพื่อทำให้กรอบหน้าชัดและดูโฉบเฉี่ยวอย่างเป็นธรรมชาติ เช่น ฉีดให้หน้ากลมเป็นหน้ารูปไข่ ต่างจากการฉีดโบลดกรามที่เน้นแก้ปัญหาสำหรับคนกรามใหญ่
ฉีดโบลดกราม
เป็นการฉีดโบท็อกซ์เข้ากล้ามเนื้อกรามทั้งซ้ายและขวา เพื่อทำให้กล้ามเนื้อหดตัวและอ่อนแรงชั่วคราว หลังฉีดแล้วกรามจะเรียวเล็กลง เหมาะกับคนที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ กรามไม่เท่ากัน และคนที่อยากหน้าทำให้หน้าดูเรียวสวยขึ้น
ศัลยกรรมหน้าเรียว
ทำได้ด้วยการผ่าตัดกราม เหมาะกับคนที่อยากทำให้กรามเล็กลง แต่ไม่สามารถฉีดโบลดกรามในการแก้ปัญหาได้ เพราะมีสาเหตุกรามใหญ่จากกระดูกกราม ไม่ใช่กล้ามเนื้อ ในกรณีนี้แพทย์จะแนะนำให้ผ่าตัด เพื่อทำให้กรามเล็กลง และทำให้ใบหน้าซ้ายขวาสมส่วนขึ้น ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและถาวร แต่ถ้ามีความผิดพลาดหลังผ่าตัดที่อาจทำให้หน้าเบี้ยวกัน ก็สามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้ปัญหาได้ภายหลัง
วิเคราะห์ใบหน้า หาสาเหตุของปัญหาอย่างถูกต้อง
โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี
ร้อยไหมลิฟต์หน้า vs ฉีดโบลดกราม แบบไหนดีกว่า?
ร้อยไหมลิฟต์หน้า
แพทย์จะใช้ไหมสอดเข้าไปที่ใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อยกกระชับแก้มที่หย่อนคล้อยทั้งสองข้าง ซึ่งไหมที่ใช้เป็นเส้นไหมที่ทำจากเส้นใยคอลลาเจน จึงช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวหน้า ทำให้ผิวพรรณดูมีชีวิตชีวาและอ่อนเยาว์ขึ้น เหมาะกับคนที่มีผิสหน้าหย่อนคล้อย เพราะการร้อยไหมจะยกกระชับทั้งใบหน้า ต่างจากการฉีดโบลดกรามที่เน้นการแก้ปัญหาเฉพาะจุดมากว่า
ฉีดโบลดกราม
เมื่อฉีดโบท็อกซ์เข้าไปที่กล้ามเนื้อของกรามทั้งสองข้าง ซึ่งเป็นการใช้จุดเด่นของสารโบทูลินัมท็อกซินมาทำให้กล้ามเนื้อหดเล็กลงและอ่อนแรงชั่วคราว ทำให้กรอบหน้าเล็กลง และเรียวสวยได้รูปตามที่ต้องการ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาสำหรับคนที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ได้อย่างตรงจุด แต่ไม่สามารถยกกระชับผิวหน้าโดยรวมได้ทั้งหมด
ทำไมบางคนฉีดโบลดกรามแล้วปากเบี้ยว ยิ้มไม่สุด?
ในทางการแพทย์ อาการปากเบี้ยว ขยับปากไม่ถนัด พูดไม่ค่อยชัด และยิ้มไม่สุดจะไม่ใช่ผลข้างเคียงที่อันตราย แต่แน่นอนว่านั่นจะทำให้คุณรู้สึกไม่มั่นใจและกังวลใจไม่น้อยเลย ซึ่งในหลาย ๆ ครั้งความผิดพลาดแบบนี้เกิดจากการฉีดโบลดกรามกับแพทย์ที่ไม่ชำนาญ การผสมโบท็อกซ์ผิดพลาด ฉีดผิดตำแหน่ง รวมถึงการดูแลตัวเองไม่ดีพอหลังฉีด
เมื่อไรที่แพทย์ฉีดโบลดกรามไปโดนกล้ามเนื้อไรซอเรียส (Risorius) และกล้ามเนื้อไซโกมาติก (Zygomatic) บริเวณมุมปาก ก็จะทำให้คุณไม่สามารถควบคุมการยิ้ม หรือแสดงสีหน้าที่มุมปากอื่น ๆ ได้เหมือนเดิม และยังทำให้มุมปากเบี้ยวไม่เท่ากันอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณฉีดลดกรามด้วยโบท็อกซ์แท้ ก็ไม่ต้องเป็นกังวลมากเท่าไร เพราะสารใน Botox จะสลายไปเองตามธรรมชาติ ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน จนกว่าตัวยาจะค่อย ๆ หมดฤทธิ์ไป และกลับมาเป็นปกติได้
วิธีสังเกตอาการปากเบี้ยวที่เกิดจากการฉีดโบลดกราม
- มุมปากข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างยกขึ้นลงไม่เท่ากัน
- ยิ้มไม่ถนัดเหมือนก่อนฉีดโบท็อกซ์ เพราะกล้ามเนื้อมุมปากบริเวณนั้นอ่อนแรงมากจนไม่สามารถควบคุมได้ดั่งใจ
- รู้สึกตึง ๆ ที่มุมปาก ทำให้ยิ้มได้ไม่สุดและขยับปากยาก
- บางคนอาจมีรู้สึกตึงหรือเกร็งทั่วใบหน้า จนไม่สามารถแสดงอารมณ์ทางสีหน้าอย่างเป็นธรรมชาติได้
- บางคนอาจถึงขั้นพูดไม่ชัด เคี้ยวอาหารไม่ถนัด หรืออาจขยับกรามยาก
วิธีแก้ไขปากเบี้ยวจากการฉีดโบลดกราม
แพทย์จะนวดประคบร้อน ทำ HIFU หรืออาจใช้เครื่อง Radio Frequency เพื่อใช้ความร้อนสลายโบท็อกซ์ให้เร็วขึ้น
ฉีดโบลดกรามด้วยเทคนิคพิเศษที่เหมาะกับปัญหาใบหน้าของแต่ละคน
โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกของเรา
Botox ลดกรามอยู่ได้นานแค่ไหน?
เมื่อฉีดโบลดกรามแล้ว จะเห็นผลได้ตั้งแต่ 2 สัปดาห์แรก และใบหน้าจะเรียวเล็กลงอย่างเห็นได้ชัดภายใน 1 เดือน โดยทั่วไป โบท็อกซ์แท้จะอยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นที่ใช้ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดด้วย ซึ่งคุณสามารถสังเกตได้ด้วยตัวเอง และฉีดเพิ่มได้หลังจากนั้น
การฉีดโบลดกรามเพิ่มหลังจากที่โบสลายแล้วสามารถทำได้ ซึ่งควรเว้นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการดื้อโบท็อกซ์ และทำให้กล้ามเนื้อของคุณฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ แต่สำหรับบางคนที่ฉีดโบแล้วไม่ได้ผล หน้าไม่เล็กลงเลยนั้นอาจมีสาเหตุจากคุณภาพของตัวยาที่ไม่มีประสิทธิภาพ หรืออาจเป็น Botox ปลอมที่ไม่ผ่านการรับรองจาก อย. หรืออาจเป็นอาการดื้อโบนั่นเอง
ข้อดีและข้อจำกัดของการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม
ข้อดี
- ฉีดแล้วเห็นผลเร็ว ลดขนาดกรามให้หน้าเรียวเล็กได้ภายใน 14 วัน
- เข็มฉีดโบลดกรามมีขนาดเล็กมาก จึงไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น
- ไม่ต้องพักฟื้นนาน
- สารโบทูลินัมท็อกซินเป็นสารที่ปลอดภัยกับร่างกาย สามารถสลายได้เองจนหมด ทำให้ไม่มีผลข้างเคียงที่อันตราย
- เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะจุดสำหรับที่ที่กรามใหญ่ แต่ไม่อยากผ่าตัดศัลกรรม
ข้อจำกัด
- โบท็อกซ์ทุกประเภทไม่สามารถอยู่ได้ถาวร หลังจากที่สลายไปแล้วสามารถฉีดเติมใหม่ได้
- อาจมีอาการดื้อโบได้ ถ้าฉีดบ่อยเกินไป
- ไม่เหมาะกับคนที่หน้าบานหรือหน้าไม่เท่ากันเพราะกระดูกกรามใหญ่ เพราะแพทย์ไม่สามารถฉีดโบท็อกซ์เข้ากระดูกได้
- ถ้าฉีดกับแพทย์ที่ไม่ชำนาญหรือฉีดด้วยโบลดกรามปลอมที่ไม่ผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทย จะเสี่ยงอันตราย และอาจทำให้หน้าเบี้ยวถาวรได้
- ถ้าดูแลตัวเองได้ไม่ดีและไม่ทำตามคำแนะนำของแพทย์หลังฉีด Botox ลดกราม จะเสี่ยงทำให้หน้าเบี้ยว หรือโบท็อกซ์ทำงานได้ไม่เต็มที่
- เคี้ยวอาหารได้ไม่ถนัด ฉีดยิ้มได้ไม่สุด หรือขยับปากยากหน่อยในช่วงแรก ๆ ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อผ่านไป 1 สัปดาห์
- ไม่ควรฉีดโบลดกรามมากเกินความจำเป็นในครั้งเดียว เพราะจะทำให้ใบหน้าดูแข็ง ขยับปากยาก และแสดงสีหน้าได้ไม่เต็มที่
ทำไมโบลดกรามไม่ได้ทำให้หน้าทุกคนเรียวเล็ก?
ด้วยข้อจำกัดของการฉีดโบลดกรามที่แพทย์จะต้องฉีดเข้ากล้ามเนื้อกรามเท่านั้น ดังนั้นคนที่มีปัญหาหน้าไม่เท่ากันจากสาเหตุแก้มป่องและกระดูกรามใหญ่จะไม่สามารถแก้ไขด้วยโบท็อกซ์ได้ แต่สามารถตัดไขมันกระพุ้งแก้มและผ่าตัดกระดูกกรามออกไปแทน ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้ใบหน้าเรียวเล็กได้เหมือนการฉีดโบ
เมื่อเข้ามาที่ EY Clinic แพทย์จะวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาที่ทำให้ใบหน้าใหญ่หรือไม่สมส่วนก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อวางแผนการรักษาอย่างถูกต้อง โดยมีปัจจัยเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญ
- ไขมันสะสมที่แก้มหรือใต้คางเยอะ
แย้มยุ้ย ๆ ของคุณกับไขมันสะสมใต้คางที่แก้ได้ยาก เป็นหนึ่งในสาเหตุทำให้ใบหน้ากลม คางยุบ และอาจดูหน้าบวมได้ ซึ่งเป็นได้ทั้งกรรมพันธุ์และพฤติกรรมการกินของคุณเอง ที่ชอบทานอาหารที่มีไขมัน แป้ง น้ำตาล รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์ที่มีไขมันเยอะจนทำให้ไขมันสะสมมากขึ้น ซึ่งไม่สามารถแก้ไขด้วยการฉีดโบลดกรามได้
- กระดูกขากรรไกรใหญ่หรือเบี้ยว
แพทย์จะเอ็กซ์เรย์โครงกระโหลกหรือทำเฉพาะบริเวณขากรรไกร เพื่อดูให้ชัวร์ว่าสาเหตุที่ทำให้หน้าของคุณใหญ่หรือไม่สมส่วนนั้นเกิดจากกระดูกขากรรไกรหรือไม่ เพราะถ้าใช่ ก็จะไม่สามารถฉีดโบลดกรามแก้ปัญหาได้ แต่จะต้องผ่าตัดขากรรไกรให้เล็กลงแทน
- กล้ามเนื้อกรามมัดใหญ่
ยิ่งเคี้ยวมาก ก็ยิ่งเป็นการสร้างมัดกล้ามเนื้อกรามให้ใหญ่และแข็งแรงขึ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณหน้าใหญ่และอาจหน้าไม่เท่ากันได้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะถนัดเคี้ยวข้างไหนมากกว่ากัน แพทย์ของเราจะฉีดโบท็อกซ์เข้าที่กล้ามเนื้อกรามทั้งสอลข้าง เพื่อทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและลีบเล็กลงชั่วคราว จะได้ใบหน้าดูเรียวสวย ได้รูปอย่างที่ต้องการ
วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาอย่างแม่นยำ พร้อมมอบคำแนะนำที่เหมาะสม
ก่อนฉีดโบลดกราม โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ฉีดโบลดกรามราคาเท่าไร ของแท้ดูยังไง?
EY Clinic คัดเลือกโบท็อกลดกรามแท้นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกายี่ห้อ Allergan, เยอรมนียี่ห้อ Xeomin และเกาหลีใต้ยี่ห้อ Nabota ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทยและต่างประเทศแล้ว ซึ่งทั้ง 3 ยี่ห้อนี้เป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าปลอดภัย มีความบริสุทธิ์สูง และมีโอกาสดื้อยาน้อยกว่า Botox ยี่ห้ออื่น
วิธีตรวจสอบโบท็อกซ์แท้
- เช็กใบรอบรองว่าผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทย จากเลขทะเบียนและเอกสารกำกับที่เป็นภาษาไทยเท่านั้น
- เลข Lot ข้างกล่องและที่ขวดโบท็อกซ์ตรงกัน และต้องเป็นเลขทะเบียนที่ตรวจสอบความถูกต้องกับบริษัทเจ้าของแบรนด์ได้
- Botox ในขวดต้องเป็นยาเคลือบที่ก้นขวด ไม่ควรมีน้ำปนอยู่ด้วย
ราคาโบลดกรามที่ EY Clinic
- Nabota 1 ยูนิต 150 บาท
- Nabota 50 ยูนิต 4,999 บาท
- Nabota 100 ยูนิต 8,499 บาท
- Allergan 50 ยูนิต 11,999 บาท
- Allergan 100 ยูนิต 17,999 บาท
- Xeomin 100 ยูนิต 15,999 บาท
ฉีดโบท็อกซ์ลดกรามยี่ห้อไหนดีที่สุด ฉีดที่ไหนดี?
โบท็อกซ์ลดกรามยี่ห้อที่ดีที่สุดสำหรับคุณหรือไม่นั้นขึ้นอยู่ความเหมาะสมของปัญหาและความต้องการของคุณเองว่าอยากฉีดโบลดกรามราคาเท่าไร ความยืดหยุ่นของตัวยา และเคยดื้อโบยี่ห้อไหนมาก่อนไหม ที่คลินิกของเรามีให้คุณเลือก 3 ยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นและข้อจำกัด ดังนี้
โบลดกรามยี่ห้อ Allergan
เป็นยี่ห้อที่โด่งดังไปทั่วโลก โบท็อกซ์มีความบริสุทธิ์ 99.5% เทียบเท่ากับโบเยอรมนียี่ห้อ Xeomin ซึ่งตัวยาของทั้งสองยี่ห้อนี้บริสุทธิ์กว่ายี่ห้อ Nabota จากเกาหลีใต้เล็กน้อย นอกจากนี้ โบลดกราม Allergan ได้ผ่านการรับรองจากทั้ง อย. ประเทศไทยและอเมริกา (US FDA) และมีราคาสูงกว่ายี่ห้ออื่น ๆ
โบลดกรามยี่ห้อนี้เหมาะกับฉีดแก้ปัญหาลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้เรียวสวย อยู่ได้นานสุดประมาณ 6-8 เดือน ซึ่งนานกว่ายี่ห้ออื่นที่เราใช้ แต่โมเลกุลของโบท็อกซ์ Allergan เป็นชนิดไม่กระจายตัว จึงเน้นฉีดเฉพาะจุด ออกฤทธิ์เร็ว และเห็นความเปลี่ยนแปลงภายใน 7-14 วัน
โบลดกรามยี่ห้อ Xeomin
เป็นโบท็อกซ์แบรนด์เยอรมนีที่มีความบริสุทธิ์ 100% ไม่มีโปรตีนเชิงซ้อนปนเปื้อน ตัวยากระจายได้ดีปานกลาง เหมาะกับการฉีดยกกระชับกรอบหน้า ที่พิเศษกว่ายี่ห้ออื่นคือโบลดกรามตัวนี้ใช้ได้ผลกับคนที่เคยดื้อโบยี่ห้ออื่นมาก่อน แถมยังช่วยป้องกันอาการดื้อยาในอนาคตได้อีกด้วย แต่สลายเร็วกว่า Allergan ทำให้อยู่ได้นานไม่เกิน 3-6 เดือน
โบลดกรามยี่ห้อ Nabota
โบท็อกซ์ลดกรามแบรนด์เกาหลีเกาหลีใต้สุดฮิตในไทยที่มีราคาย่อมเยากว่าโบเยอรมนีและอเมริกา Botox ยี่ห้อนี้เป็นโบเกาหลีใต้ที่ผ่านการรับรองจากทั้ง อย. ประเทศไทยและอเมริกา ซึ่งมีความบริสุทธิ์ 98.7% ตัวยาออกฤทธิ์ไว หลังฉีดแล้วจึงเห็นผลเร็ว กรอบหน้ากระชับชัดเจน และริ้วรอยตื้นขึ้น แต่มีความยืดหยุ่นน้อยกว่ายี่ห้อ Xeomin และ Allergan อยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน
ฉีดโบลดกรามแท้ที่ผ่าน อย. ประเทศไทยและ US FDA
หน้าเรียวอย่างปลอดภัย ไม่ระคายเคืองผิว
รีวิวฉีดโบลดกรามที่ EY Clinic
แก้ปัญหาหน้าใหญ่ด้วยโบลดกราม พร้อมมอบคำปรึกษาอย่างถูกต้อง
ถ้าคุณอยากหน้าเรียวสวยอย่างปลอดภัย ควรปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านโบลดกรามก่อนฉีด เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม เพราะโบท็อกซ์ลดดรามไม่ได้เหมาะกับทุกคน ไม่สามารถแก้ปัญหากระดูกกรามใหญ่ หรือแก้มมีไขมันเยอะได้ นัดหมายฉีด Botox ลดกรามกับเรา โทร 061 594 1923, LINE Official: @EyclinicTh