ก่อน-หลังฉีด Juvelook ต้องดูแลผิวอย่างไร ห้ามทำอะไรบ้าง?
.jpg)
Juvelook เป็นตัวช่วยในการฟื้นฟูผิวให้กลับมาอิ่มแน่น เต่งตึง และอ่อนวัยที่กำลังมาแรงในตอนนี้ค่ะ สำหรับคนที่กำลังสนใจ ในบทความนี้ หมอผึ้งได้รวบรวมวิธีการเตรียมตัวและวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด Juvelook เอาไว้ให้แล้วค่ะ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถวางแผนการรับหัตถการได้ดีขึ้นค่ะ
สรุปสาระสำคัญ
- Juvelook เป็นตัวเลือกในการกระตุ้นคอลลาเจนและฟื้นฟูผิวในระยะยาว
- หลังฉีด Juvelook แล้วสามารถใช้หน้าต่อได้เลยโดยไม่ต้องมีเวลาพักฟื้น
- หลังฉีด Juvelook ควรงดแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- ก่อนฉีด Juvelook ควรงดอาหารทะเลและแอลกอฮอล์ เพื่อลดอาการบวมแดง
- หากทำ Juvelook ร่วมกับหัตถการอื่น เช่น เลเซอร์ ควรเลือกทำหัตถการนั้น ๆ ก่อนฉีด Juvelook
ก่อนไปดูคำแนะนำก่อน-หลังการฉีด Juvelook เรามาทวนความเข้าใจว่า Juvelook คืออะไรกันค่ะ

Juvelook คืออะไร ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
Juvelook หรือ ไหมน้ำ ประกอบด้วยไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic acid หรือ HA) และ โพลีดีแลคติก แอซิด (Poly-d,l-lactic acid หรือ PDLLA) ค่ะ โดยไหมน้ำนี้จะให้ผลลัพธ์เป็นทั้ง Skin Booster ที่เติมความชุ่มชื้นให้ผิว และ Biostimulator ที่กระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาวค่ะ
เมื่อฉีด Juvelook เข้าสู่ชั้นผิวแล้ว ตัวไฮยาลูรอนิก แอชิดจะเข้าไปเติมความชุ่มชื้นให้ผิวค่ะ โดยไฮยาใน Juvelook จะเป็นแบบ Non crosslinked ซึ่งต่างจากไฮยาในฟิลเลอร์ทั่วไปโดยมีความเหลวและกระจายตัวได้ดีกว่า จึงไม่เปลี่ยนรูปหน้าหลังฉีดค่ะ
ส่วน PDLLA จะอยู่ในรูปแบบ Microspheres เมื่อฉีดแล้วจะเข้าไปทำหน้าที่เหมือนโครงสร้างตาข่ายก่อนจะกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและเส้นใยต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้ผิวมีความแข็งแรง อิ่มฟู และแน่นขึ้นค่ะ โดยการทำงานของ PDLLA จะเริ่มให้ผลลัพธ์ในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังฉีด และเห็นผลได้ชัดเจนที่สุดหลังจาก 6 เดือนค่ะ
.jpg)
Juvelook ช่วยอะไรบ้าง
- ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก แก้ปัญหาผิวแห้งกร้านขาดน้ำ
- กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ช่วยให้ผิวอิ่มฟูและกระชับขึ้น
- ช่วยกระชับรูขุมขน ปรับผิวให้เรียบเนียน
- ช่วยลดเลือนริ้วรอย แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยที่มาจากการสูญเสียคอลลาเจนเมื่ออายุมากขึ้น
- ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ช่วยฟื้นฟูผิวที่คล้ำเสียให้กลับมาสุขภาพดี
- ช่วยให้หลุมสิว รอยแผลเป็น และรอยแตกลายบนผิวหนังดูจางลง
ผลลัพธ์ของ Juvelook มีอายุเฉลี่ยที่ 12-18 เดือน และสามารถยาวนานได้ถึง 2 ปีค่ะ โดยหมอแนะนำว่าควรฉีดติดต่อกัน 2-3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างครั้งละ 3-4 สัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน หลังจากนั้นสามารถฉีดกระตุ้นได้ทุก ๆ 6-12 เดือนค่ะ
Juvelook ฉีดตรงไหน
Juvelook สามารถใช้ฉีดทั่วใบหน้าเพื่อฟื้นฟูและปรับปรุงสภาพผิวโดยรวม และฉีดเฉพาะจุดเพื่อแก้ปัญหาผิวได้ค่ะ เช่น
- หน้าแก้ม เพื่อกระชับรูขุมขน
- หน้าผาก เพื่อลดริ้วรอย
- ใต้ตา เพื่อลดเลือนร่องน้ำตา แก้ปัญหาใต้ตาหย่อนและใต้ตาคล้ำ
- บริเวณหลุมสิว รอยแผลเป็น หรือรอยแตกลาย เพื่อให้รอยแผลดูจางลง
Juvelook เหมาะกับใครบ้าง
Juvelook เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาผิวได้มากมาย โดยเหมาะกับกลุ่มคนดังนี้ค่ะ
- คนที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป เนื่องจากเริ่มสูญเสียความสามารถในการผลิตคอลลาเจน
- คนที่มีปัญหาริ้วรอย เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา หน้าผาก ร่องแก้ม
- คนที่มีผิวหน้าแห้ง ผิวขาดน้ำ ลอกเป็นขุย และต้องการเติมความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก
- คนที่มีผิวหมองคล้ำ ขาดการดูแล สีผิวไม่สม่ำเสมอ ไม่เรียบเนียน
- คนที่มีปัญหาหลุมสิวหรือรอยแผลเป็น
- คนที่มีปัญหาผิวแตกลาย เช่น บริเวณหน้าท้อง ต้นแขน หรือต้นขา
- คนที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้กระชับอ่อนวัยอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่เปลี่ยนรูปหน้า และไม่ต้องการผ่าตัด
Juvelook ยังสามารถทำควบคู่กับหัตถการอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาได้ค่ะ เช่น คนที่ปัญหาหลุมสิวและกำลังรักษาด้วยเลเซอร์ก็สามารถฉีด Juvelook คู่กันไปได้ค่ะ
.png)
ภาพโครงสร้างของโมเลกุล Juvelook จากภายนอก (ซ้าย) และภายใน (ขวา)
ข้อควรรู้ก่อนฉีด Juvelook
1. Juvelook ปลอดภัยไหม?
การฉีด Juvelook ถือเป็นหัตถการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากในการแก้ปัญหาผิวค่ะ โดย Juvelook ถูกรับรองทั้งจาก US FDA และ CE โดยสาร PDLLA มีคุณสมบัติ Biocompatibility หรือมีสามารถทำงานกับร่างกายมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย และยังสลายตัวได้ตามกลไกธรรมชาติโดยไม่ทิ้งสารตกค้างด้วยค่ะ
2. ฉีด Juvelook ใช้เวลานานแค่ไหน?
การฉีด Juvelook จะใช้เวลาประมาณ 30–45 นาที ต่อครั้งค่ะ ถือว่าเป็นหัตถการที่รวดเร็วและปลอดภัยค่ะ
3. หลังฉีด Juvelook ใช้หน้าต่อเลยได้ไหม?
หลังฉีด Juvelook เราสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องมีเวลาพักฟื้นค่ะ เพียงแต่จะแนะนำให้งดแต่งหน้าเป็นเวลา 24 ชั่วโมง และล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนค่ะ
4. เลือกฉีด Juvelook กับคลินิกไหนถึงจะปลอดภัย?
หมอผึ้งจะเน้นในเรื่องความปลอดภัยเสมอค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหัตถการแบบไหน โดยสำหรับคนที่กำลังพิจารณา Juvelook ก่อนฉีดสามารถเช็กสอบคลินิกที่ได้มาตรฐานผ่านเว็บไซต์ https://juvetekglobal.com/clinic เพื่อเลือกคลินิกที่ใกล้เคียงและสะดวกกับเราที่สุดค่ะ
.jpg)
ก่อนฉีด Juvelook ควรเตรียมตัวอย่างไร?
การเตรียมตัวก่อนฉีด Juvelook เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์หลังการรักษาออกมาดีที่สุดค่ะ และจะช่วยลดความเสี่ยงของอาการข้างเคียงได้ด้วย หมอขอแนะนำวิธีเตรียมตัวก่อนฉีด Juvelook ตามนี้ค่ะ
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว หัตถการที่เคยทำ และยาที่ใช้
- งดยาและวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน E, น้ำมันตับปลา โดยเราสามารถสอบถามคำแนะนำคุณหมอที่ดูแลเคสของเราได้เลยค่ะ
- งดอาหารทะเลอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่อาจกระตุ้นอาการบวมแดง
- งดดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 3-5 วันก่อนฉีด Juvelook เนื่องจากแอลกอฮอล์อาจกระตุ้นอาการบวมแดง
- บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นประจำ ทั้งก่อนและหลังการฉีด Juvelook เพื่อเสริมความชุ่มชื้นให้กับผิวและช่วยลดการระคายเคือง
สำหรับคนฉีด Juvelook ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เช่น Ultherapy หรือเลเซอร์ จะสามารถทำในวันเดียวกันได้ค่ะ แต่ควรเริ่มที่หัตถการอื่นก่อน แล้วค่อยฉีด Juvelook ค่ะ
.jpg)
หลังฉีด Juvelook แล้วมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
หลังฉีด Juvelook แล้วผิวบริเวณที่ฉีดจะมีอาการบวมแดงจากเข็มเล็กน้อยค่ะ โดยอาการนี้จะหายไปเองใน 1-2 วันค่ะ
หลังฉีด Juvelook ต้องดูแลผิวอย่างไร?
การดูแลผิวหลังฉีด Juvelook ก็ทำได้ไม่ยากค่ะ โดยวิธีดูแลเหล่านี้จะช่วยลดอาการบวมแดง และลดโอกาสการติดเชื้อบริเวณที่ฉีด สามารถทำตามได้ดังนี้ค่ะ
- งดการแต่งหน้า 24 ชั่วโมงหลังฉีด Juvelook เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้ความร้อน เช่น ซาวน่า หรือโยคะร้อน ในช่วง 1-2 วันแรกหลังฉีด Juvelook เพื่อลดอาการบวมแดง
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังในช่วง 1-2 วันหลังฉีด Juvelook
- หลังจากฉีด Juvelook สามารถล้างหน้าตามปกติ โดยแนะนำให้ล้างด้วยน้ำสะอาดและใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน
- บำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์
บูสต์ผิว พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนด้วย Juvelook ที่ EY Clinic
เรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีเตรียมตัวก่อนฉีด และวิธีดูแลผิวหลังฉีด Juvelook ไปแล้ว หมอผึ้งคิดว่าอีกหนึ่งสิ่งที่อยากฝากทุกคนไว้ก็คือ ถึง Juvelook จะเป็นหัตถการที่มีช่วยแก้ปัญหาผิวที่หลากหลาย ขั้นตอนการประเมินสภาพผิวก่อนเริ่มหัตถการก็ถือเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ เพราะบางทีตัวเราอาจจะเหมาะกับหัตถการตัวอื่นมากกว่า หรือมีหัตถการอื่น ๆ ที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากกว่า Juvelook ค่ะ โดยที่ ey clinic เราจะมีการประเมินสภาพผิวเพื่อวางแผนการรักษาเริ่มทุกครั้งค่ะ เพื่อให้ได้แผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล และจะไม่มีการยัดเยียดคอร์สที่ไม่จำเป็นแน่นอนค่ะ
EY Clinic เป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านสิว หลุมสิว และ โรคผิวหนัง
.jpg)
ที่ ey clinic เราเชื่อว่าการดูแลผิวที่ดี เริ่มต้นจากความเข้าใจในปัญหาของแต่ละคน ทีมแพทย์ของเรานำโดย พญ.พัจนภา เวชอนุรักษ์ (หมอผึ้ง) แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง จากสถาบันโรคผิวหนัง พร้อมด้วยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์รวมกันมากกว่า 30 ปี* ในการดูแลปัญหาผิวหลากหลายรูปแบบ ทั้งสิว หลุมสิว ฝ้า ปรับรูปหน้า และ โรคผิวหนัง
เราให้ความสำคัญกับการวินิจฉัยอย่างแม่นยำ เพื่อออกแบบแนวทางการรักษาเฉพาะบุคคล โดยอิงจากหลักวิชาการทางการแพทย์เป็นหลัก ไม่ใช้การโฆษณาเกินจริง และไม่แนะนำสิ่งที่เกินความจำเป็น
คุณหมอและทีมให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา ดูแลอย่างต่อเนื่อง พร้อมติดตามผลเพื่อให้ผิวของคุณแข็งแรงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ภายใต้บรรยากาศที่เป็นกันเอง สะดวก และเชื่อถือได้
วิธีเช็ค Juvelook ว่าเป็นของแท้
.png)
วิธีเช็ค Juvelook
- ตรวจสอบ QR Code ซึ่งต้องขูดก่อนเพื่อทำสแกน QR Code บนสติ๊กเกอร์ฮาโลแกรมที่ติดด้านข้างกล่อง เมื่อสแกนแล้วจะขึ้นรูปภาพเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และมีเครื่องหมายติ๊กถูก หากเป็นกล่องที่สแกนซ้ำจะขึ้นเป็นรูปกากบาท ไม่ควรใช้บริการ
- กล่องเป็นแพ็กเกจใหม่ที่ออกแบบสำหรับจำหน่ายภายในประเทศไทยเท่านั้น เพื่อให้ผู้รับบริการสังเกตผลิตภัณฑ์ของแท้ได้สะดวกมากขึ้น
- ด้านข้างกล่องต้องมีโลโก้ บริษัท จูวีเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
- ด้านข้างกล่องต้องระบุวิธีการเก็บรักษา คำเตือน ชื่อและที่ตั้ง สถานที่นำเข้าเป็นภาษาไทย อย่างชัดเจน
- ด้านข้างกล่องต้องระบุใบอนุญาตขึ้นทะเบียนเครื่องมือแพทย์
- สามารถตรวจสอบคลินิกที่ได้มารตฐานผ่านเว็บไซต์ https://juvetekglobal.com/clinic
Review การฉีด Juvelook ที่ EY Clinic
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)