รักษาหลุมสิว
Sep 4, 2025
0
min read

Profhilo vs Filler ต่างกันอย่างไร? เลือกตัวไหนให้เหมาะสมกับผิวของคุณ

Profhilo vs Filler ต่างกันอย่างไร? เลือกตัวไหนให้เหมาะสมกับผิวของคุณ

ในปัจจุบันการดูแลผิวด้วยหัตถการแบบฉีดเป็นที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ค่ะ โดยเฉพาะ Profhilo และ Filler ที่สามารถช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ได้ แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า Profhilo กับ Filler แตกต่างกันอย่างไร เหมาะกับปัญหาผิวแบบไหน ในบทความนี้ หมอจะพาไปรู้จักข้อแตกต่างของหัตถการทั้งสองตัว เพื่อช่วยให้เราตัดสินใจเลือกได้อย่างเหมาะสมกับสภาพผิวของตนเองขึ้นค่ะ

สรุปสาระสำคัญ

  • Profhilo และฟิลเลอร์ มีส่วนประกอบหลักเป็นไฮยาลูรอนิก แอซิด เหมือนกันแต่มีจุดประสงค์ที่ต่างกัน
  • ไฮยาลูรอนิก แอซิดใน Profhilo มีความบริสุทธิ์สูง ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว
  • ไฮยาลูรอนิก แอซิดในฟิลเลอร์ทั่วไป มีความหนืด ขึ้นรูปได้ดี โดยออกแบบมาเพื่อเติมวอลลุ่มให้ผิว
  • ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์เห็นได้เร็วกว่า Profhilo และมีอายุเฉลี่ยที่นานกว่า
  • ความแตกต่างหลักของ Profhilo กับฟิลเลอร์ คือ จุดประสงค์ของหัตถการ โดย Profhilo จะช่วยฟื้นฟูผิว ส่วนฟิลเลอร์ช่วยเติมปริมาตรและปรับรูปหน้า

Profhilo คืออะไร ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

Profhilo คือ ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ชนิดพิเศษ มีความบริสุทธิ์สูง และมีคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจนค่ะ Profhilo กำลังได้รับความนิยมโดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวจากภายใน ลดริ้วรอย และกระชับผิวที่หย่อนคล้อยอย่างเป็นธรรมชาติ โดยผลลัพธ์ของ Profhilo จะเริ่มชัดเจนขึ้นในช่วง 1-2 เดือนหลังฉีด ตามกระบวนการผลิตคอลลาเจนและซ่อมแซมผิวของร่างกายค่ะ

จุดเด่นของ Profhilo:

  • เป็นไฮยาลูรอนิก แอซิด แบบ Hybrid

Profhilo ประกอบด้วยไฮยาลูรอนิก แอซิด 2 ประเภทค่ะ: โมเลกุลสั้นและโมเลกุลยาว และมีโครงสร้างแบบ Hybrid Cooperative Complex (HCC) มีความเสถียร และออกฤทธิ์ได้ยาวนานยิ่งขึ้นค่ะ โดย Profhilo จะมีเนื้อเหลว เมื่อฉีดแล้วสามารถกระจายตัวผ่านผิวชั้นต่าง ๆ ได้ดีค่ะ

  • ฟื้นฟูโครงสร้างผิวถึงระดับเซลล์ (Bio-remodeling)

Profhilo สามารถกระตุ้นการเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ที่ทำหน้าที่ผลิตคอลลาเจนได้ในทุกชั้นผิว ทำให้เกิดการจัดเรียงตัวใหม่ของโครงสร้างผิวหรือ Bio-remodeling ซึ่งช่วยปรับผิวให้แน่น กระชับ และยืดหยุ่นขึ้นค่ะ 

  • เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว

Profhilo ช่วยกระตุ้นการทำงานเซลล์ในชั้นหนังกำพร้า ทำให้ผิวมีความสมดุลและมีเกราะป้องกันผิวที่แข็งแรงขึ้น ซึ่งปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและสม่ำเสมอมากขึ้นค่ะ

  • ให้ความชุ่มชื้นอย่างทั่วถึง

ไฮยาลูรอนิก แอซิดยังมีคุณสมบัติในการดึงดูดความชุ่มชื้นในทุกชั้นผิว ทำให้ผิวอุ้มน้ำได้มากขึ้น และดูสุขภาพดีขึ้นค่ะ

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ธรรมชาติ ไม่ดูบวม และไม่เปลี่ยนรูปหน้า

เพราะไฮยาลอรูนิก แอซิดที่มีความเหลว และไม่ขึ้นรูป การฉีด Prohilo จึงช่วยฟื้นฟูผิวและทำให้ใบหน้าดูจากภายในโดยไม่เปลี่ยนรูปหน้าและไม่เติมวอลลุ่มให้ผิวค่ะ 

ผลลัพธ์ของ Profhilo จะอยู่ที่ 6-12 เดือนค่ะ โดยทั่วไป หมอจะแนะนำให้ฉีด Profhilo ติดต่อกันอย่างน้อย 2 ครั้ง เว้นระยะห่างครั้งละ 1 เดือนค่ะ 

Filler คืออะไร ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

Filler หรือ ฟิลเลอร์ เช่น Neuramis หรือ Restylane คือ สารไฮยาลูรอนิก แอซิดที่มีจุดประสงค์เพื่อเติมปริมาตรให้ผิวพร้อมล็อกความชุ่มชื้นค่ะ เมื่อฉีดแล้วจะทำให้ผิวดูเต่งตึง อิ่มฟู และฉ้ำน้ำยิ่งขึ้น โดยผลลัพธ์ที่ชัดเจนจะเห็นได้ภาย 2-4 สัปดาห์ค่ะ

จุดเด่นของ Filler:

  • เป็นไฮยาลูรอนิก แอซิด ที่มีความเสถียรสูง

ฟิลเลอร์ที่ใช้ในคลินิกความงามส่วนใหญ่เป็นไฮยาลูรอนิก แอซิดแบบ Cross-linked ที่ให้มีความเสถียรสูงและคงตัวสูง สามารถเติมวอลลุ่มให้ผิวได้ทันและคงอยู่ได้นานค่ะ

  • เติมได้หลายจุดบนใบหน้า

ฟิลเลอร์สามารถเติมได้หลายจุด เช่น ร่องแก้ม ร่องใต้ตา จมูก คาง และริมฝีปากค่ะ โดยเป็นตัวเลือกที่เสริมความมั่นได้แบบที่ไม่ต้องรอนานและไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดค่ะ

  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มผิว (Volumizing) หรือปรับรูปหน้า

ฟิลเลอร์จะเน้นไปทางการเติมปริมาตรให้ผิวมากกว่าการฟื้นฟูค่ะ โดยเมื่อฉีดแล้ว ไฮยาลูรอนิก แอซิดจะเข้าไปอยู่ในชั้นผิว ซึ่งจะทั้งล็อกความชุ่มชื้นและช่วยทำให้ผิวเต่งดึง กระชับ และยืดหยุ่นขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้รูปหน้าดูสมส่วนและมีมิติขึ้นด้วยค่ะ

อายุของฟิลเลอร์จะอยู่ที่ 6-18 เดือนค่ะ ทั้งนี้ย่อมขึ้นอยู่กับแบรนด์ของฟิลเลอร์ บริเวณที่ฉีด และการดูแลของแต่ละบุคคลค่ะ 

ความแตกต่างระหว่าง Profhilo และ Filler

ความแตกต่างของ Profhilo กับ ฟิลเลอร์ อยู่ที่ส่วนผสม วิธีการทำงาน และจุดประสงค์ของการรักษาค่ะ โดย Profhilo คือ ไฮยาลูรอนิก แอซิดเนื้อเหลวที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจน ส่วนฟิลเลอร์ คือ ไฮยาลูรอนิกเนื้อหนืด ที่จะเติมวอลลุ่มให้ผิวดูอิ่มฟูและเต่งตึงขึ้นค่ะ 

เราสามารถเปรียบเทียบความแตกต่างของ Profhilo และ Filler ได้ชัด ๆ ในตารางนี้ค่ะ

 

Profhilo

ฟิลเลอร์

ส่วนประกอบ

Hyaluronic Acid ชนิดพิเศษ มีความบริสุทธิ์สูง ผลิตด้วย NAHYCO® technology

Cross-linked Hyaluronic Acid 

การทำงาน

กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินในทุกชั้นผิว

เติมเต็มปริมาตรผิวในจุดที่ต้องการ 

ปัญหาผิว

ปรับโครงสร้างผิว ฟื้นฟูสุขภาพผิวโดยรวม  และช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย

เติมวอลลุ่มให้ผิว เพิ่มมิติให้ใบหน้าหรือปรับรูปหน้า

บริเวณที่ฉีด

ฉีด 5 จุดในแต่ละข้างของใบหน้า: แก้ม กรอบหน้า ใต้ตา รอบปาก คาง 


และสามารถฉีดบริเวณลำคอ มือ แขน ขา หรือหน้าท้องได้

ฉีดเฉพาะจุดที่ต้องการปรับโครงหน้าหรือเติมวอลลุ่ม

อายุของผลลัพธ์

6-12 เดือน; กระบวนการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน จะให้ผลที่ชัดเจนหลังจาก 1-2 เดือน

เฉลี่ย 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและบริเวณที่ฉีด ผลลัพธ์เห็นได้ตั้งแต่วันแรกที่ฉีด

หมอขอสรุปว่า ทั้ง Profhilo และฟิลเลอร์ต่างก็มีจุดเด่นเฉพาะตัว และจุดประสงค์ที่ต่างกันค่ะ การเลือกใช้ระหว่างสองหัตถการเนี้จึงขึ้นอยู่กับปัญหาผิว ความต้องการ และผลลัพธ์ที่เราอยากได้ค่ะ

Profhilo vs Filler เลือกตัวไหนดี 

แม้ว่า Profhilo และฟิลเลอร์จะมีส่วนประกอบหลักเป็นไฮยาลูรอนิก แอซิดเหมือนกัน แต่จุดประสงค์ในการใช้งานและผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างค่ะ การเลือกใช้อย่างถูกต้องจึงขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะบุคคลและลักษณะของผิว

  • Profhilo เหมาะคนที่เริ่มมีริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย หรือผิวหมองคล้ำ และต้องการให้ผิวกลับดูสุขภาพดีผ่านการฟื้นฟูสภาพผิวจากภายใน
  • ฟิลเลอร์ เหมาะกับผู้ที่ต้องการเติมเต็มใบหน้าส่วนที่ขาดวอลลุ่ม หรือปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนและมีมิติมากขึ้น

โดยผลลัพธ์ของ Profhilo เห็นได้ในช่วง 1-2 เดือนหลังฉีด แต่ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์จะเห็นได้ (หรือเข้าที่) ภายใน 2-3 สัปดาห์ค่ะ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Profhilo และ Filler

Profhilo มีผลข้างเคียงไหม?

หลังฉีด Profhilo ผิวอาจมีอาการบวม แดง หรือรอยช้ำเล็กน้อย ซึ่งจะบรรเทาลงเองภายในไม่กี่วันค่ะ

Profhilo ปลอดภัยไหม?

Profhilo มีความปลอดภัยค่ะ โดยเทคโนโลยี NAHYCO® ในกระบวนการผลิตจะไม่ใช้สารเคมี จึงมีโอกาสแพ้ต่ำ อีกทั้งยังผ่านการรับรองจาก อย. ไทย สหรัฐอเมริกา และมาตรฐานยุโรป (CE Mark) แล้วค่ะ 

ฟิลเลอร์สลายได้เองไหม?

ฟิลเลอร์ที่เป็นสารไฮยาลูรอนิก แอซิดสามารถสลายได้เองค่ะ ส่วนฟิลเลอร์ชนิดกึ่งถาวร เช่น แคลเซียม ไฮดรอกซีอะพาไทต์ (CaHA) จะสลายได้เพียงบางส่วน และฟิลเลอร์ชนิดถาวรจะไม่สามารถสลายได้ค่ะ

หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถทำกิจกรรมตามปกติได้ไหม?

โดยทั่วไป หลังฉีดฟิลเลอร์แล้ว สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติค่ะ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก หรือกิจกรรมที่ใช้ความร้อน เช่น ซาวน่า ชาบูหม้อร้อน หรือการออกกำลังกายในช่วง 2-3 วันแรก และหลีกเลี่ยงการนวด กด หรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการเคลื่อนหรือผิดรูปของฟิลเลอร์ค่ะ

เลือกสิ่งที่เหมาะกับคุณที่สุด ที่ EY Clinic

ทั้ง Profhilo และฟิลเลอร์ต่างก็เป็นหัตถการที่ปลอดภัยและมีความเสี่ยงต่ำค่ะ โดย Profhilo มีคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจน และปรับโครงสร้างผิว ในขณะที่ ฟิลเลอร์จะช่วยเติมวอลลุ่มให้ผิวและปรับรูปหน้าค่ะ โดยหากคุณยังไม่แน่ใจว่า สภาพผิวของตัวเหมาะกับ Profhilo หรือ ฟิลเลอร์มากกว่า สามารถเข้ามาปรึกษากับหมอที่ EY Clinic ได้เลยค่ะ โดยเราจะมีการประเมินสภาพผิว เพื่อวางแผนการดูแลผิวที่ตอบโจทย์กับคุณที่สุด โดยไม่มีการยัดเยียดการรักษาที่ไม่จำเป็นแน่นอนค่ะ

EY Clinic เป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านสิว หลุมสิว และ โรคผิวหนัง

ที่ ey clinic เราเชื่อว่าการดูแลผิวที่ดี เริ่มต้นจากความเข้าใจในปัญหาของแต่ละคน ทีมแพทย์ของเรานำโดย พญ.พัจนภา เวชอนุรักษ์ (หมอผึ้ง) แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง จากสถาบันโรคผิวหนัง พร้อมด้วยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์รวมกันมากกว่า 30 ปี* ในการดูแลปัญหาผิวหลากหลายรูปแบบ ทั้งสิว หลุมสิว ฝ้า ปรับรูปหน้า และ โรคผิวหนัง

เราให้ความสำคัญกับการวินิจฉัยอย่างแม่นยำ เพื่อออกแบบแนวทางการรักษาเฉพาะบุคคล โดยอิงจากหลักวิชาการทางการแพทย์เป็นหลัก ไม่ใช้การโฆษณาเกินจริง และไม่แนะนำสิ่งที่เกินความจำเป็น

คุณหมอและทีมให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา ดูแลอย่างต่อเนื่อง พร้อมติดตามผลเพื่อให้ผิวของคุณแข็งแรงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ภายใต้บรรยากาศที่เป็นกันเอง สะดวก และเชื่อถือได้

Review การฉีด Profhilo ที่ EY Clinic

acne & acne scar expert
เรามีทรีตเมนต์หลากหลายที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมสุขภาพโดยรวมของคุณ ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงโภชนาการ เรามีทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อให้คุณรู้สึกดีที่สุด