Program Juvelook ช่วยอะไรบ้าง? เจาะลึกข้อดีของ Biostimulator ที่นิยม #1 ในเกาหลี

หมอเชื่อว่า คนที่กำลังอยากดูแลผิวทุกคนจะรู้จัก Juvelook ในฐานะของ Skin Booster หรือ Hybrid Biostimulator แล้ว Juvelook ช่วยอะไรบ้าง แก้ปัญหาผิวแบบไหน และฉีดตรงไหนได้บ้าง หมอได้สรุปไว้ในบทความนี้แล้วค่ะ
สรุปสาระสำคัญ
- Juvelook ประกอบด้วย ไฮยาลูรอนิก แอซิด (HA) และ PDLLA
- Juvelook ช่วยแก้ปัญหาผิวแบบ 2in1: เติมความชุ่มชื้นให้ผิวทันที และกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวในระยะยาว
- PDLLA ใน Juvelook ทำหน้าที่เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนที่มีประสิทธิภาพ และสามารถสลายตัวได้ตามกลไกธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งสารตกค้าง
- Juvelook ช่วยแก้ได้ทั้งปัญหาผิวโดยรวม และเฉพาะจุด เช่น การฉีด Juvelook ใต้ตาหรือหน้าแก้ม
- Juvelook ช่วยให้ผิวอิ่มฟู แข็งแรง และอ่อนวัยได้ยาวนานถึง 24 เดือน
Juvelook คืออะไร
Juvelook หรือ ไหมน้ำ คือ สารกระตุ้นคอลลาเจนที่ประกอบด้วยไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic acid หรือ HA) และ โพลีดีแลคติก แอซิด (Poly-d,l-lactic acid หรือ PDLLA) ค่ะ โดยจะให้ผลลัพธ์เป็น 2 รูปแบบ คือ ให้ความชุ่มชื้นกับผิวทันทีที่ฉีด และ กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและเส้นใยโครงสร้างผิวในระยะยาวค่ะ ทำให้ผิวมีความแข็งแรงและอิ่มฟูอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ

PDLLA ใน Juvelook คืออะไร
PDLLA ใน Juvelook เป็นสารช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนค่ะ โดยเจ้าสารตัวนี้จะอยู่ในรูปแบบ Microspheres หรืออนุภาคทรงกลมที่มีรูพรุนรอบตัวค่ะ เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะทำหน้าที่โครงสร้างตาข่ายให้ชั้นผิว ก่อนออกฤทธิ์กระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblasts) ให้ผลิตคอลลาเจน (โดยเฉพาะคอลลาเจน Type I) และสารเคลือบเซลล์ (Extracellular Matrix หรือ ECM) ค่ะ
โดยมวลคอลลาเจนจะเริ่มเพิ่มขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์หลังฉีด และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 6 เดือนหลังฉีดค่ะ ให้ผลลัพธ์เป็นผิวที่อิ่มแน่น กระชับ และดูอ่อนวัยอย่างเป็นธรรมชาติในระยะยาวค่ะ ส่วนตัว PDLLA จะค่อยสลายตัวไปเองตามกลไกของร่ายกายโดยไม่ทิ้งสารตกค้างค่ะ
ส่วนไฮยาลูรอนิก แอซิดใน Juvelook จะช่วยเติมความชุ่มชื้นกับผิวตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดค่ะ แต่ไม่ต้องกลัวว่าฉีด Juvelook แล้วจะทำให้หน้าเปลี่ยนเหมือนฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากโมเลกุลไฮยาของ Juvelook จะเป็นแบบ Non-crosslinked หรือไม่มีพันธะเชื่อมโยงกัน ทำให้มีเนื้อเหลว ไม่ขึ้นรูป สามารถฉีดในพื้นที่บอบบางอย่างใต้ตาได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะดูบวมค่ะ

Juvelook ช่วยอะไรบ้าง
Juvelook เป็นทั้ง Skin Booster ที่ให้ความชุ่มชื้นและ Biostimulator ที่กระตุ้นคอลลาเจนค่ะ โดยสามารถชวยแก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย ดังนี้ค่ะ
- Juvelook ช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ด้วยไฮยาลูรอนิกที่เติมความชุ่มชื้นให้ผิว
- Juvelook ช่วยกระชับรูขุมขน โดยคอลลาเจนที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้รูขุมขนที่กว้างดูกระชับ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- Juvelook ช่วยลดเลือนริ้วรอยที่มากับอายุ พร้อมฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพจากแสงแดดและมลภาวะ
- Juvelook ช่วยแก้ปัญหาหลุมสิวและรอยแผลเป็น โดยกระบวนการกระตุ้นคอลลาเจนจะช่วยซ่อมแซมผิว
- Juvelook ช่วยแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
ผลลัพธ์ของ Juvelook มีอายุเฉลี่ยที่ 12-18 เดือน และสามารถยาวนานได้ถึง 2 ปีค่ะ โดยหมอแนะนำว่าควรฉีดติดต่อกัน 2-3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างครั้งละ 3-4 สัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน หลังจากนั้นสามารถฉีดกระตุ้นได้ทุก ๆ 6-12 เดือนค่ะ

Juvelook ฉีดตรงไหนได้บ้าง
เห็นกันไปแล้วว่า Juvelook ช่วยอะไรได้บ้าง หมอขอเสริมว่า นอกจากฉีดทั่วใบหน้าแล้ว Juvelook ยังช่วยแก้ปัญหาผิวเฉพาะจุดได้ด้วย ดังนี้ค่ะ
- ฉีด Juvelook ทั่วใบหน้า ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและปรับสภาพผิวโดยรวม
- ฉีด Juvelook หน้าแก้ม ช่วยแก้ปัญหารูขมขนกว้าง
- ฉีด Juvelook หน้าผาก ช่วยให้ผิวมีความเรียบเนียน ใบหน้าดูอ่อนวัย
- ฉีด Juvelook ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย ร่องน้ำตา ใต้ตาหย่อน และใต้ตาคล้ำ
- ฉีด Juvelook บริเวณหลุมสิว ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมผิว ให้หลุมสิวดูจางลง โดยสามารถทำควบคู่กับการรักษาอย่าง เลเซอร์ Venus Viva MD เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาได้ด้วยค่ะ
- ฉีด Juvelook เฉพาะจุดเพื่อลดรอยแผลเป็นและผิวแตกลาย
Juvelook เหมาะกับใครบ้าง
Juvelook เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาผิวได้มากมาย โดยเหมาะกับกลุ่มคนดังนี้ค่ะ
- คนที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป เนื่องจากจะเริ่มสูญเสียความสามารถในการผลิตคอลลาเจน
- คนที่มีปัญหาริ้วรอย เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา หน้าผาก ร่องแก้ม
- คนที่มีผิวหน้าแห้ง ผิวขาดน้ำ ลอกเป็นขุย และต้องการเติมความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก
- คนที่มีผิวหมองคล้ำ ขาดการดูแล สีผิวไม่สม่ำเสมอ ไม่เรียบเนียน
- คนที่มีปัญหาหลุมสิวหรือรอยแผลเป็น
- คนที่มีปัญหาผิวแตกลาย เช่น บริเวณหน้าท้อง ต้นแขน หรือต้นขา
- คนที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้กระชับอ่อนวัยอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่เปลี่ยนรูปหน้า และไม่ต้องการผ่าตัด
เลือกฉีด Juvelook ที่ EY Clinic
- Juvelook 1cc ราคา 3,999
- Juvelook 3cc ราคา 8,999
- Juvelook 6cc ราคา 15,999
หมอหวังว่าบทความนี้จะช่วยตอบคำถามว่า Juvelook ช่วยอะไร ฉีดตรงไหน และเหมาะกับใครให้ผู้อ่านทุกคนค่ะ โดยหมออยากฝากให้สักนิดว่า ถึงจะเป็นหัตถการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง เราก็ยังควรจะเลือกรับบริการจากคลินิกที่เชื่อถือได้ มีใบรับรองชัดเจน และมีแพทย์เป็นผู้ดำเนินการค่ะ เพราะถึงแม้ Juvelook จะแก้ปัญหาผิวได้มากมายก็จริง แต่หากได้รับการฉีดที่ผิดตำแหน่งชั้นผิว ปริมาณไม่เหมาะสม หรือได้รับตัวยาของปลอม อาจจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้ค่ะ
EY Clinic เป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านสิว หลุมสิว และ โรคผิวหนัง

ที่ ey clinic เราเชื่อว่าการดูแลผิวที่ดี เริ่มต้นจากความเข้าใจในปัญหาของแต่ละคน ทีมแพทย์ของเรานำโดย พญ.พัจนภา เวชอนุรักษ์ (หมอผึ้ง) แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง จากสถาบันโรคผิวหนัง พร้อมด้วยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์รวมกันมากกว่า 30 ปี* ในการดูแลปัญหาผิวหลากหลายรูปแบบ ทั้งสิว หลุมสิว ฝ้า ปรับรูปหน้า และ โรคผิวหนัง
เราให้ความสำคัญกับการวินิจฉัยอย่างแม่นยำ เพื่อออกแบบแนวทางการรักษาเฉพาะบุคคล โดยอิงจากหลักวิชาการทางการแพทย์เป็นหลัก ไม่ใช้การโฆษณาเกินจริง และไม่แนะนำสิ่งที่เกินความจำเป็น
คุณหมอและทีมให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา ดูแลอย่างต่อเนื่อง พร้อมติดตามผลเพื่อให้ผิวของคุณแข็งแรงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ภายใต้บรรยากาศที่เป็นกันเอง สะดวก และเชื่อถือได้
วิธีเช็ค Juvelook ว่าเป็นของแท้

วิธีเช็ค Juvelook
- ตรวจสอบ QR Code ซึ่งต้องขูดก่อนเพื่อทำสแกน QR Code บนสติ๊กเกอร์ฮาโลแกรมที่ติดด้านข้างกล่อง เมื่อสแกนแล้วจะขึ้นรูปภาพเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และมีเครื่องหมายติ๊กถูก หากเป็นกล่องที่สแกนซ้ำจะขึ้นเป็นรูปกากบาท ไม่ควรใช้บริการ
- กล่องเป็นแพ็กเกจใหม่ที่ออกแบบสำหรับจำหน่ายภายในประเทศไทยเท่านั้น เพื่อให้ผู้รับบริการสังเกตผลิตภัณฑ์ของแท้ได้สะดวกมากขึ้น
- ด้านข้างกล่องต้องมีโลโก้ บริษัท จูวีเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
- ด้านข้างกล่องต้องระบุวิธีการเก็บรักษา คำเตือน ชื่อและที่ตั้ง สถานที่นำเข้าเป็นภาษาไทย อย่างชัดเจน
- ด้านข้างกล่องต้องระบุใบอนุญาตขึ้นทะเบียนเครื่องมือแพทย์
- สามารถตรวจสอบคลินิกที่ได้มารตฐานผ่านเว็บไซต์ https://juvetekglobal.com/clinic
Review การฉีด Juvelook ที่ EY Clinic



