รักษาหลุมสิวด้วย PRP injection
- รักษาหลุมสิวให้ตื้นขึ้น เหมาะกับหลุมสิวประเภท rolling และ boxcar
- ช่วยเพิ่มความกระจ่างใส และปรับสิผิวให้เสมอกัน
- กระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ผิวกระชับ และริ้วรอยดูจางลง
- ฟื้นฟูผิวหน้าด้วยเกล็ดเลือดของตัวเอง หมดกังวลเรื่องอาการแพ้
- ใช้ RegenLab ระบบปิด ปลอดภัยและให้ประสิทธิภาพสูง
Prp regen lab
ครั้งละ
PRP injection คืออะไร

PRP injection หรือ ที่บางคนอาจจะเรียกว่า PRP หน้าใส เป็นอีกตัวเลือกการรักษาหลุมสิวที่มีประสิทธิภาพสูงและมีผลข้างเคียงต่ำค่ะ โดย PRP injection (Patelet-rich plasma injection) คือ การใช้สารสกัดที่ได้จากเลือดของเรามาฉีดเข้าผิวหน้า เพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนค่ะ ซึ่งสารสกัดที่ได้จากเลือดจะเรียกว่า พลาสมา (Plasma) ซึ่งอุดมไปด้วยเกล็ดเลือด (Platelet) และสารประกอบต่าง ๆ อย่าง Growth factors ที่มีสรรพคุณในการฟื้นฟู กระตุ้นการสมานแผล และลดการอักเสบของเซลล์ค่ะ
โดยวิธีการของ PRP injection จะเริ่มต้นที่การเจาะเลือด เพื่อนำไปปั่นที่ความเร็วสูง (กระบวนการนี้เรียกว่า Centrifugation ค่ะ) เพื่อเป็นการสกัดให้โปรตีนในเลือดแยกชั้นออกจากพลาสมาค่ะ ซึ่งโปรตีนเหล่านี้ก็จะเป็นพวกเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวที่ไม่จำเป็นต่อการรักษาค่ะ โดยที่ EY Clinic จะใช้เครื่องของ Regen Lab ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำหรับ PRP ตัวแรกที่ผ่านมาตรฐาน อย.ไทยค่ะ ซึ่ง Regen Lab สามารถแยกเกล็ดเลือดได้เข้มข้นถึง 1.6 เท่า ซึ่งถือว่าเป็นพลาสมาที่มีคุณภาพในการรักษามาก ๆ ค่ะ
หลังจากได้พลาสมาแล้ว แพทย์จะทำการฉีดพลาสมาเข้าสู่บริเวณหลุมสิวของเราด้วยเทคนิค Micro-needling เพื่อให้เกล็ดเลือดและสารอาหารต่าง ๆ เข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
หลักการทำงานของ PRP Injection ในการรักษาหลุมสิว

พลาสมาของเราอุดมได้ด้วยเกล็ดเลือด แร่ธาตุ และ Growth factors ที่มีประโยชน์ต่อผิว โดยการรักษาหลุมสิวของ PRP Injection จะมีกลไกดังนี้ค่ะ
- เกล็ดเลือด และ Growth factors เข้าไปกระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ (Cell proliferation) และกระตุ้นเซลล์ให้ผลิตเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ผิวกระชับขึ้น หลุมสิวดูจางลงและช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวค่ะ
- เกล็ดเลือดกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือดฝอย (Angiogenesis) ซึ่งเป็นการบูสต์ให้มีเลือดไปหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อส่วนที่เป็นหลุมสิวมากขึ้น และเกิดสร้างเนื้อเยื่อเพื่อมาเติมเต็มหลุมสิวค่ะ
- เกล็ดเลือดและ Growth factors ในพลาสมา ลดการอักเสบและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำร้ายด้วยแสงแดด หรือมลภาวะ ซึ่งจะช่วยเผยผิวที่กระจ่างใส และแข็งแรงมากขึ้นค่ะ
การรักษาหลุมสิวด้วย PRP injection ยังเป็นวิธีที่ไม่เสี่ยงต่ออาการแพ้ เนื่องจากเป็นการใช้สารสกัดที่ได้มาจากเลือดของเราเองค่ะ นอกจากนี้ PRP ยังเป็นหัตถการที่ทำร่วมกันการตัดผังผืด (Subsicion) หรือ เลเซอร์หลุมสิวได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาด้วยค่ะ
เกร็ดความรู้: Growth Factors คืออะไร

Growth factors หรือ โกรทแฟคเตอร์ คือ โปรตีนที่สามารถพบได้ในเลือดของเรา ซึ่งมีบทบาทสำคัญในเรื่องของการผลิตเซลล์ใหม่ ช่วยให้เซลล์เจริญเติบโต และมีส่วนช่วยในกระบวนการสมานแผลและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ โดยเราสามารถมอง Growth factor เป็นเหมือนสัญญาณที่ช่วยให้ทิศทางให้เซลล์ทำงานได้อย่างถูกต้อง ซึ่ง PRP injection ก็เป็นการนำเอาโปรตีน Growth factor เหล่านี้มาใช้ประโยชน์ในการฟื้นฟูผิว และกระตุ้นให้เซลล์ผิวซ่อมแซมและปรับโครงสร้างให้มีความแข็งแรงมากขึ้นค่ะ
นอกจากรักษาหลุมสิว แล้ว PRP injection ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

PRP หน้าใส หรือ PRP injection ไม่ได้มีดีเรื่องการรักษาหลุมสิวอย่างเดียวค่ะ แต่ยังช่วยบูสต์ผิวให้กระจ่างใส ยืดหยุ่น และชุ่มชื้นได้ด้วยค่ะ ซึ่งเหล่านี้ก็เป็นสรรพคุณความสามารถของเกล็ดเลือดของเราเอง ซึ่งปัญหาที่ PRP injection ช่วยได้ มีดังนี้ค่ะ
- เพิ่มความยืดหยุ่นและชุ่มชื้นให้ผิว ให้ริ้วรอยดูจางลง
- กระชับรูขุมขน ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนมากขึ้น
- ปรับผิวหมองคล้ำให้ดูกระจ่างใส มีสุขภาพดี
- ซ่อมแซมผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดด และมลภาวะ
- ช่วยปรับสีผิวให้เสมอกัน
นอกจาก PRP injection ที่ช่วยฟื้นฟูใบหน้าแล้ว PRP injection ยังสามารถแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางได้ด้วยค่ะ โดยหลักการทำงานก็จะคล้าย ๆ กับ PRP หน้าใส กล่าวคือ เกล็ดเลือดและ Growth factors เข้าไปฟื้นฟูเซลล์ที่บริเวณรูขุมขน กระตุ้นให้เกิดเจริญเติบโตของเส้นขน และกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือดฝอยซึ่งทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงรูขุมขนมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ผมงอกเยอะมากขึ้น และมีความแข็งแรง ขาดร่วงได้ยากขึ้นค่ะ
PRP Injection เหมาะกับใครบ้าง

- คนที่มีปัญหาหลุมสิว โดยเฉพาะหลุมสิวประเภท rolling และ boxcar
- คนที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น
- คนที่มีปัญหารอยดำรอยแดงและแผลเป็นจากสิว
- คนที่มีปัญหาริ้วรอย ผิวขรุขระ ไม่เรียบเนียน
- คนที่มีปัญหาผิวหมอง ดูสุขภาพไม่ดี
- คนที่มีผิวหน้าโทรม คล้ำเสีย และต้องการการฟื้นฟูอย่างล้ำลึก
- คนที่สนใจการรักษาอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ใช้สารสังเคราะห์
- คนที่ต้องการการฟื้นฟูผิวที่มีประสิทธิภาพสูง และมีความเสี่ยงต่ำ
ข้อจำกัดของ PRP Injection

ทุกหัตถการมีข้อจำกัดค่ะ และถึงแม้ว่า PRP จะเป็นการรักษาที่มีความเสี่ยงต่ำ และยังใช้เกล็ดเลือดของตัวเองซึ่งทำให้หมดกังวลเรื่องอาการแพ้ PRP injection ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่เช่นกันค่ะ โดยกลุ่มคนที่ไม่เหมาะกับการรักษาด้วย PRP ดังนี้ค่ะ
- สตรีที่มีครรภ์ หรือ กำลังอยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับเลือด เช่น มีภาวะโลหิตจาง หรือภาวะเกล็ดเลือดต่ำรุนแรง
- ผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้ยากลุ่มสลายลิ่มเลือด (anticoagulant) หรือด้านเกล็ดเลือด (anti-platelet)
- ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณที่ฉีด PRP
หมอผึ้งจะย้ำเสมอว่า ก่อนทำหัตถการใด ๆ ก็ตาม ควรมีการแจ้งแพทย์ถึงโรคประจำตัวและยาที่ใช้เสมอค่ะ และควรเลือกรับบริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีเครื่องมือที่เพียบพร้อม และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนดำเนินหัตถการ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ
ตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ PRP Injection หรือ PRP หน้าใส
PRP Injection ใช้ระยะเวลาในการรักษานานเท่าไหร่
ในการทำ PRP หน้าใส หรือ PRP หลุมสิว ควรทำติดต่อกันอย่างน้อย 3-4 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างครั้งละ 4-6 สัปดาห์ ซึ่งเราสามารถรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งที่ทำ โดยผิวจะรู้สึกกระชับ และกระจ่างใสขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดจะอยู่ในช่วงสัปดาห์ที่ 6 หลังทำค่ะ
อย่างไรก็ดี จำนวนครั้งในการรักษาย่อมขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ และสภาพผิวของแต่ละคนค่ะ
ขณะ PRP Injection ทำจะเจ็บหรือไม่
ก่อนฉีด PRP หน้าใส แพทย์จะมีการใช้ยาชาค่ะ ซึ่งระหว่างที่ฉีด PRP เราก็อาจจะรู้สึกระคายเคือง หรือเจ็บเล็กน้อย แต่จะไม่รู้สึกแสบหรือเบิร์นค่ะ
PRP Injection ต้องทำกี่ครั้ง ถึงจะเห็นผล
ผลลัพธ์ของ PRP หน้าใส สามารถเห็นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำค่ะ โดยร่างกายจะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ในการปรับโครงสร้างและฟื้นฟูผิวใหม่ ซึ่งเราจะรู้สึกได้ว่าผิวหน้าเริ่มดีขึ้น หลุมสิวเริ่มจากลง แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ก็ควรทำติดต่อกันอย่างน้อย 3-4 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างครั้งละ 4-6 สัปดาห์ค่ะ
PRP Injection ต้องทำห่างกันกี่อาทิตย์
PRP injection ควรทำห่างครั้งละ 4-6 สัปดาห์ และควรทำติดต่อกันอย่างน้อย 3-4 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนค่ะ
PRP Injection ผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยของ PRP injection คืออาการบวมช้ำ และแดงจากเข็มค่ะ โดยอาการเหล่านี้จะบรรเทาลงไปเองภายใน 3-4 วันค่ะ
ก่อนทำ PRP Injection ควรมีการเตรียมตัวอย่างไร

เพราะ PRP คือการรักษาที่ใช้เกล็ดเลือดของตัวเราเองและจำเป็นต้องมีการเจาะเลือด ก่อนเข้ารับการรักษาจึงต้องมีการเตรียมตัวกันนิดหน่อยค่ะ
- พักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันที่จะเข้ารับการรักษา เพื่อป้องกันอาการหน้ามืดระหว่างเจาะเลือด
- จิบน้ำบ่อย ๆ ในช่วงวันที่เข้ารับการรักษา เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดข้นเกินไป
- งดการใช้ยา เช่น ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAID หรือ อาหารเสริม อย่าง น้ำมันตับปลา ซึ่งมีผลต่อการแข็งตัวของเลือดในช่วงเวลา 1-2 วันก่อนรับการรักษา
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในช่วง 1-2 วันก่อนรับการรักษา เพื่อรักษาระดับและคุณภาพของเกล็ดเลือด
หลังทำ PRP Injection ควรดูแลตัวเองอย่างไร

หลังทำ PRP หน้าใสแล้ว เราสามารถดูแลตัวเองได้ตามวิธีง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
- หลีกเลี่ยงการล้างหน้าในช่วง 4-6 ชั่วโมงจากฉีด PRP หน้าใส
- งดทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก เช่น การอบซาวน่า และการออกกำลังกายในช่วง 1-2 วันแรกหลังฉีด PRP หน้าใส
- หลีกเลี่ยงการออกแดดจัดในช่วงเวลา 2-3 วันหลังฉีด PRP หน้าใส และทาครีมกันแดดก่อนออกแดดทุกครั้ง
- งดทรีตเมนต์สครับหน้า และงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารช่วยผลัดเซลล์ผิว อย่าง Retinol, Glycolic acid, และ Salicylic acid อย่าง 1 สัปดาห์หลังฉีด PRP หน้าใส
- หากทำ PRP หน้าใส ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ควรมีการปรึกษาแพทย์ เพื่อการเว้นระยะเวลาระหว่างการรักษาให้เหมาะสม
บอกลาหลุมสิว ฟื้นฟูผิวหน้า ด้วย PRP ที่ EY Clinic

ที่ EY Clinic เรารับประกันการดูแลอย่างใกล้ชิด ด้วยแผนการรักษาที่ออกแบบมาให้เหมาะสมเฉพาะกับตัวบุคคลค่ะ โดยก่อนคุณตัดสินใจทำหัตถการ แพทย์จะมีการให้คำปรึกษาและพูดคุยถึงผลลัพธ์ที่ต้องการอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่า การรักษาที่คุณเลือกจะมอบผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจให้กับคุณได้จริง ๆ ค่ะ
สำหรับ PRP Injection ที่ EY Clinic จะใช้เป็นเทคโนโลยีจาก Regen Lab ซึ่งเป็นเครื่องแยกเกล็ดเลือดตัวแรกที่ผ่านมาตรฐาน อย. ประเทศไทยค่ะ ซึ่งจะให้พลาสมาได้มากถึง 50-60% ต่อการปั่นแยกหนึ่งครั้ง อีกทั้งยังให้พลาสมาที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้นถึง 1.6 เท่า ทำงานด้วยระบบปิดซึ่งรับประกันความปลอดภัยและประสิทธิภาพการรักษาค่ะ
ใครที่ต้องการรักษาหลุมสิว บอกลาหน้าขรุขระ และฟื้นฟูคุณภาพผิว ลองมาปรึกษากับเราที่ EY Clinic ค่ะ
- หัตถการและเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน - คลินิกของเราได้การรับรองมาตรฐานคลินิกเวชกรรมอย่างชัดเจน มีเครื่องมือ ตัวยา และห้องทำหัตถการที่ปลอดภัยและคุณภาพเชื่อถือได้ค่ะ
- การรักษาโดยแพทย์ความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ - เราคือทีมแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและเวลล์เนสที่มีประสบการณ์รวมกว่า 30 ปีจากสถาบันชั้นนำของประเทศค่ะ
- ความใส่ใจอย่างเป็นมืออาชีพ - การรักษาออกแบบเฉพาะตัวบุคคล มีการติดตามผล และให้คำแนะนำอย่างใส่ใจค่ะ
- ความสบายใจ - เรามุ่งมั่นที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณโดยไม่มีการยัดเยียดการรักษาที่ไม่จำเป็น และไม่มีการผูกมัดค่ะ
EY Clinic เป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านสิว หลุมสิว และ ชะลอวัย
เพราะเราคือทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์รวมกันมากกว่า 30 ปี นำทีมโดย หมอผึ้ง (พญ.พัจนภา เวชอนุรักษ์) แพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง สถาบันโรคผิวหนัง Board of Dermatology and Dermatosurgery และ หมอโบว์ (พญ. พันธลี ชื่นสัมพันธ์) เวชศาสตร์ชะลอวัย American Board of Anti-Aging & Regenerative Medicine แพทยศาสตรบัณฑิตโรงพยาบาลรามาธิบดี ยินดี ให้คำปรึกษาและช่วยดูแลให้ผิวของคุณมีสุขภาพดีมากขึ้นค่ะ
แวะเข้ามาพูดคุยกับเราได้ที่ EY Clinic หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ @EYClinicTH ค่ะ
รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง


