สิวที่หลัง เกิดจากอะไร – ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวที่หลัง และวิธีแก้
สิวที่หลัง เกิดจากอะไร
สิวที่หลังและสิวที่ขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมีกลไกการเกิดสิวที่เหมือนสิวบนใบหน้าค่ะ สิวที่หลัง เกิดจากการที่น้ำมันจากรูขุมขน (Sebum) เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรก รวมตัวกันอุดตันรูขุมขนทำให้เกิดสิว และเมื่อเกิดการอุดตันก็จะเกิดการสะสมของแบคทีเรีย P.acnes ซึ่งปกติแล้ว เจ้าแบคทีเรียตัวนี้เป็นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังของเราโดยไม่ทำอันตรายใด ๆ แต่เมื่อเกิดการสะสมมาก ๆ ก็ทำให้เกิดการอักเสบ และเกิดเป็นสิวนั่นเองค่ะ
สิวที่หลัง ไม่หายสักที
สาเหตุที่รักษาสิวที่หลังไม่หายเสียที อาจจะเป็นเพราะวิธีการรักษาที่ใช่ไม่ถูกต้อง หรือ รักษาได้ไม่ตรงสาเหตุค่ะ อย่างที่เราได้กล่าวกันไปว่า สิวที่หลังเกิดได้จากสาเหตุ หลายประการ ก็แผนการรักษาที่ดีที่สุดจึงควรเป็นแผนการรักษาที่เหมาะกับสภาพผิวและปัจจัยการเกิดสิวของแต่ละบุคคลค่ะ
ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวที่หลัง
สิวที่หลัง ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ สิวไม่มีหัว หรือสิวหัวดำ มีปัจจัยอยู่หลายข้อด้วยกันค่ะ
พันธุกรรม
พันธุกรรมมีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาสิวที่หลังค่ะ เพราะพันธุกรรมจะผลในเรื่องของการทำงานของต่อมน้ำมัน ในรูขุมขน ปฏิกิริยาตอบสนองแบบการอักเสบ (Inflammatory response) และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนค่ะ
ฮอร์โมน
ฮอร์โมนหลักๆ ในร่างกายของที่ส่วนเกี่ยวข้องกับสิว คือ เอสโตรเจน (Estrogen) และ เทสโทสเตอโรน (Testosterone) ค่ะ ซึ่งเราอาจจะเคยได้ยินมาว่า เอสโตรเจนเป็นฮอร์โมนเพศหญิง และเทสโทสเตอโรนเป็นฮอร์โมนเพศชาย แต่ไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิงก็ย่อมมีฮอร์โมนทั้งสองตัวนี้อยู่ในร่างกายทั้งนั้นค่ะ โดยระดับเทสโทสเทอโรนที่สูงจะทำให้ร่างกายผลิตน้ำมันออกมาจากรูขุมขนมากขึ้น ส่งผลให้เกิดเป็นสิวได้ง่ายขึ้น ในขณะที่เอสโตรเจนเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการผลิตน้ำมัน ทำให้โอกาสการเกิดสิวน้อยลงค่ะ สิวที่หลัง จึงเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อาทิเช่น ในช่วงประจำเดือน หรือระยะตั้งครรภ์ได้ค่ะ
ซึ่งนอกจากฮอร์โมน 2 ตัวนี้แล้ว ก็ยังมี คอร์ติซอล (Cortisol) มีผลต่อการเกิดสิวที่หลังด้วยค่ะ
ความเครียด
ความเครียดเป็นปัจจัยที่ทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) สูงค่ะ ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้ทำให้รูขุมขนผลิตน้ำมันออกมาเยอะ ส่งผลให้เกิดเป็นสิวได้ง่ายทั้งสิวบนใบหน้าและสิวที่หลัง และยังมีส่วนในการกดภูมิคุ้มกันซึ่งทำให้แบคทีเรียเติบโตบนผิวหนังเราได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ
เหงื่อและสิ่งสกปรก
พอมีคำถามว่าสิวที่หลัง เกิดจากอะไรแล้ว ความสะอาดเป็นสิ่งที่ต้องเน้นย้ำกันเสมอค่ะ การที่เราไม่รักษาความสะอาดบริเวณหลังที่มักเป็นพื้นที่ที่เหงื่อออกง่าย โดยเฉพาะกับสภาพอากาศของเมืองไทยก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวที่หลังค่ะ
เสื้อผ้าที่คับ ไม่ระบายอากาศ
บางครั้ง สิวที่หลังอาจเกิดจากเสื้อผ้าที่คับ ซึ่งทำให้เกิดความอับชื้นบริเวณหลังและเกิดเป็นสิวได้ค่ะ นนอกจากนี้การเสียดสีของเนื้อผ้า อย่างเช่น การสะพายกระเป๋าเป้นานๆ ก็สามารถทำให้เกิดการระคายเคือง อับชื้น และเกิดเป็นสิวได้ค่ะ
การใช้ยาบางชนิด
ยาบางประเภท อย่างเช่น ยาในกลุ่มของสเตียรอยด์ มีส่วนทำให้เกิดสิวที่หลังได้ง่ายขึ้นค่ะ เนื่องจากสเตียรอยด์มีผลข้างเคียงในการกดภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้แบคทีเรีย P.acnes เติบโตได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้เกิดเป็นสิวในที่สุดค่ะ
ประเภทของสิวที่หลัง
สิวที่หลังก็ไม่ต่างกับสิวที่หน้าเลยค่ะ โดยเราจะแบ่งประเภทของสิวที่หลังได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ สิวชนิดไม่อักเสบและสิวชนิดอักเสบค่ะ
สิวที่หลังชนิดไม่อักเสบ (Comedones)
- สิวหัวขาว (Whitehead หรือ Closed comedone) คือสิวอุตตันหัวปิด ตุ่มมักมีขนาดเล็ก สิ่งที่อุดตันอยู่ภายในกลายเป็นแหล่งเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งจะทำให้สิวหัวขาวจะกลายเป็นสิวอักเสบในที่สุดค่ะ 75% ของสิวหัวขาวจะเปลี่ยนไปเป็นสิวอักเสบ ซึ่งรักษาได้ยากกว่าและมักทิ้งรอยแผลเป็นหรือทำให้เกิดหลุมสิวค่ะ
- สิวหัวดำ (Blackhead หรือ Open comedone) คือสิวอุดตันที่มีหัวเปิด ทำให้สิ่งที่อุดตันอยู่ข้างในได้สัมผัสกับอากาศภายนอก และเกิดปฏิกริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) ส่งผลให้สิ่งอุดตันเหล่านั้นกลายเป็นสีดำ ซึ่งเราก็จะเห็นเป็นหัวสิวสีดำนั่นเอง ซึ่งสิวหัวดำมักจะถูกสับสนกับ สิวเสี้ยน แต่ความจริงแล้ว สิวเสี้ยนเป็นเส้นขน หรือสิ่งอื่นๆ ที่ตกค้างอยู่ในรูขุมขนเท่านั้น แต่ไม่มีการอุดตันแต่อย่างใดค่ะ
สิวที่หลังชนิดอักเสบ (Inflammatory acnes)
เกิดจากกระสะสมของแบคทีเรีย P. acnes
- สิวตุ่มแดง (Papule) มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดงแข็ง ๆ สัมผัสแล้วรู้สึกเจ็บ
- สิวหัวหนอง (Pustule) มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง มีหัวหนองสีขาว
- สิวหัวช้าง (Nodule) มีลักษณะเป็นตุ่มแดงขนาดใหญ่ แข็งเป็นไต ภายในเป็นหนองและเลือด ซึ่งอาจมีหัวเปิดเป็นหนอง (Cystic acne) อักเสบรุนแรง และรักษาให้หายได้ยาก
วิธีป้องกันและรักษาสิวที่หลัง
สิวที่หลังเกิดจากหลายสาเหตุ หลายปัจจัย แต่ก็มีวิธีการป้องกันและรักษาที่ทำได้ไม่ยากค่ะ
1. อาบน้ำทุกครั้งหลังเหงื่อออก
การอาบน้ำทันทีหลังจากที่มีเหงื่อเป็นวิธีรักษาความสะอาดที่ดีและยังป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวที่หลังค่ะ
2. ขัดหลังด้วยแปรงหรือฟองน้ำเพื่อผลัดเซลล์ผิว
ใช้แปรงหรือฟองน้ำถูหลัง อาทิตย์ละ 2-3 ครั้งเพื่อช่วยชำระล้างสิ่งสกปรก กำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และป้องกันการอุดตันของรูขมขน แต่ต้องเลือกใช้แบบที่อ่อนนุ่มนะคะ ไม่งั้นอาจทำให้ผิวระคายเคืองและทำให้สิวที่หลังรุนแรงขึ้นได้
3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน
ทำความสะอาดหลังด้วยสบู่หรือครีมอาบน้ำที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และไม่ขัดถูแรงจนเกินไปเพราะจะทำให้เกิดความระคายเคืองได้ค่ะ รวมไปถึงเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ไม่ทำให้ผิวระคายเคืองด้วยค่ะ
4.เลือกใส่เสื้อผ้าที่ไม่คับ และมีการระบายอาการที่ดี
เสื้อผ้าที่คับเกินไปจะระบายเหงื่อได้ไม่ดีและทำให้เกิดสิวที่หลังได้ค่ะ ฉะนั้น ควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่มีขนาดพอดี และสามารถระบายอากาศได้ดีเพื่อป้องกันการอับชื้นและเสียดสีบริเวณแผ่นหลัง
5. ไม่แกะหรือบีบสิวเอง
การแกะสิวและบีบสิวอาจให้ปัญหาสิวที่หลังแย่ลงและยังสามารถทำให้เกิดเป็นรอยแผลเป็นด้วยค่ะ
6. ใช้ยาแต้มสิวที่หลัง
ใช้ยาแต้มที่มีส่วนผสมของ benzoyl peroxide, salicylic acid หรือยาทาที่เป็นยาปฏิชีวนะ ยาเหล่านี้มีในร้านขายยาทั่วไปสามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ค่ะ
วิธีการรักษาสิวที่หลัง สูตรธรรมชาติ
สูตรมะขามเปียกและผงขมิ้น
มะขามเปียกและขมิ้นมีสรรพคุณในเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบของเซลล์และสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวที่หลังได้ค่ะ สูตรนี้ใช้มะขามเปียกหนึ่งกำมือ ผสมน้ำอุ่นแล้วคั้นเอาแต่น้ำ ผสมผงขมิ้นลงไป 1 ช้อนชา ก่อนนำมาพอกที่หลังและทิ้งไว้เป็นเวลา 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
สูตรเกลือขัดผิวและเปลือกส้ม
เกลือขัดผิวเป็นสครับจากธรรมชาติที่หาซื้อได้ง่ายและช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้อย่างดีค่ะ ส่วนเปลือกส้มจะมีสรรพคุณในการกำจัดแบคทีเรีย ต่อต้านสารอนุมูลอิสระ และช่วยให้ผิวกระชับขึ้นด้วยค่ะ ผสมเกลือขัดผิวเข้ากับกับน้ำอุ่นเล็กน้อย และใส่เปลือกส้มปั่นละเอียดลงไป คนให้เป็นเนื้อเดียวกันและนำมาขัดให้ทั่วบริเวณหลัง ก่อนล้างออกด้วยน้ำสะอาด
สูตรดินสอพองผสมน้ำมะนาว
ดินสอพองที่เราเอาไว้แต้มหน้ากันในวันสงกรานต์มีสรรพคุณหลายอย่างที่หลายคนไม่รู้ค่ะ ดินสองพองเป็นแร่คาร์บอเนตที่มีสรรพคุณในการลดการอักเสบของสิว ลดผื่นคัน และช่วยให้ผิวเนียนใสขึ้น ซึ่งการแต้มหน้าหรือพอกหน้าด้วยดินสอพองก็เป็นภูมิปัญญาความงามของไทยที่ทำกันมาเนิ่นนานแล้วค่ะ ส่วนน้ำมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรด ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและผลัดเซลล์ผิวได้อย่างที่ สูตรนี้ทำได้ง่ายๆ โดยการนำดินสอพองมาผสมน้ำและน้ำมะนาวเล็กน้อยเพื่อให้ได้เนื้อเหลวๆ แล้วพอกลงที่หลังหรือบริเวณที่เป็นสิว จากนั้นทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออก
รอยสิวที่หลัง รอยดำรักษาอย่างไร
รอยดำจากสิวที่หลังสามารถรักษาได้ด้วยเจลแต้มแผลเป็นและมอยเจอร์ไรเซอร์ค่ะ แต่การรักษาอาจจะใช้เวลาและความอดทนสักหน่อย อย่างไรก็ดี เราสามารถทาครีมบำรุง ร่วมกับหัตถการอย่าง เลเซอร์เพื่อเร่งการรักษารอยดำจากสิวที่หลังได้ค่ะ
รักษาสิวที่หลังให้หายขาด ที่ EY Clinic
สำหรับคนที่มีปัญหาสิวที่หลังเรื้อรัง กวนใจ รักษาไม่หายสักที สามารถเข้ามาพูดคุยกับหมอผึ้งที่ EY Clinic ได้ค่ะ เราได้รับการรับรองว่าเป็นคลินิกรักษาสิวที่ดีที่สุดในย่านบางนา และทีมแพทย์ของเราก็มีประสบการณ์ร่วมกันกว่า 30 ปีเลยค่ะ
บทความนี้ได้รับการตรวจความถูกต้องของเนื้อหาโดยแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังแล้ว