13 วิธีลดแก้ม ลดเหนียง แบบธรรมชาติ และแบบเร่งด่วน วิธีไหนได้ผล
13 วิธีลดแก้ม ลดเหนียง แบบธรรมชาติ และแบบเร่งด่วน วิธีไหนได้ผล
ยุคนี้บิวตี้สแตนดาร์ดของสาว ๆ คือต้องมีหน้าเรียวรูปไข่ หรือทรงวีที่ดูจากมุมไหนก็สวยเด่น แต่ก็มีหลายคนที่เนื้อแก้มเยอะจนรู้สึกอยากจะลดในจุดนี้ หรือบางคนถึงขั้นมีเหนียงที่ทำให้เมื่อมองตัวเองจากหน้ากระจกก็รู้สึกไม่มั่นใจ โดยปัจจุบันมีวิธีลดแก้มลดเหนียงมากมาย ทั้งแบบธรรมชาติหรือใช้วิธีทางการแพทย์ที่เห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็ว
ในบทความนี้ EY Clinic จะพาผู้อ่านไปทำความเข้าใจว่าสาเหตุของการที่แก้มหรือเหนียงมีขนาดใหญ่คืออะไร มีวิธีการลดแบบไหนบ้าง รวมถึงขั้นตอนการลดแก้มและเหนียงด้วยวิธีทางการแพทย์
สาเหตุของไขมันที่แก้มหรือเหนียง
อยากให้ทุกคนได้เข้าใจกันก่อนว่าสาเหตุที่คุณมีไขมันสะสมที่แก้มหรือเหนียงนั้นมาจากอะไร โดยปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้ใบหน้าดูกลมจากการที่มีไขมันสะสมนั้น มาจากได้หลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกรรมพันธุ์ หรือพฤติกรรมส่วนตัวเช่น ชอบกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง ของหวาน ของมัน ของทอด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และการที่มีอายุมากขึ้นก็ยังทำให้แก้มดูหย่อนคล้อยลงด้วย
วิธีลดแก้มไม่ให้ดูป่องหรือบวมน้ำที่ทำได้ด้วยตัวเอง
เรามาเริ่มต้นกันด้วยวิธีลดแก้มที่ไม่ว่าใครก็สามารถลดเองได้แบบธรรมชาติ ซึ่งทำที่ไหนก็ได้และยังไม่ต้องเสียเงินเพื่อลดแก้มหรือเหนียงอีกต่างหาก จะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูและลองทำไปพร้อมกัน
- เลือกกินอาหารอย่างถูกต้อง
วิธีลดแก้มที่ช่วยให้เห็นผลลัพธ์ในระยะยาวก็คือคุณต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร ลดอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลสูง หลีกเลี่ยงอาหารมันหรือทอด อาหารรสจัด รวมถึงของกินเค็มจัดที่มีโซเดียมสูง เพราะยิ่งกินอาหารประเภทเข้าไปมากเท่าไรก็ยิ่งเกิดอาการบวมน้ำตามมา จนหน้าและแก้มดูป่องขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นั่นก็เพราะร่างกายจำเป็นต้องสะสมน้ำไว้ใต้ผิดเพื่อใช้ขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกายนั่นเอง
- ปรับเปลี่ยนวิธีการนอน
แค่ปรับวิธีการนอนให้ถูกต้องนั่นก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นวิธีลดแก้มขั้นพื้นฐานแล้ว แม้ว่าการนอนที่ถูกต้องจะไม่ได้ส่งผลต่อการลดแก้มโดยตรง แต่ก็สามารถช่วยให้คนที่มีแก้มเยอะเป็นทุนเดิมไม่มีใบหน้าที่บวมใหญ่ขึ้นได้ เพราะการนอนหมอนที่อยู่ต่ำจนเกินไปทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวกจนหน้าเกิดการบวมขึ้น แต่ถ้านอนหนุนหมอนที่มีความสูงพอดีพร้อม ๆ กับปรับท่านอนให้ถูกต้อง ไม่นอนคว่ำหน้า เนื่องจากเวลานอนหลับความชื้นที่อยู่ที่หมอนจะขึ้นมาอยู่บริเวณใบหน้าของคุณ และนั่นคืออีกหนึ่งสาเหตุที่หน้าบวมหลังตื่นนอน
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในแต่ละวัน
แค่คุณได้ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในทุกวัน ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยให้ใบหน้าดูเล็กลงได้แล้ว เพราะหากคุณดื่มน้ำน้อยเกินไป ร่างกายก็จะปรับตัวด้วยการดึงเอาน้ำที่อยู่ในส่วนอื่น ๆ ของร่างกายมาสำรองไว้ที่บริเวณรอบดวงตาและแก้มจนทำให้ดูใหญ่ขึ้นนั่นเอง จึงแนะนำว่าคุณควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร หรือคิดเป็น 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยให้ร่างกายมีน้ำเพียงพอสำหรับไว้ใช้ อาการบวมน้ำก็จะลดลงและไม่ทำให้ใบหน้าหรือแก้มบวม
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
หนุ่มสาวสายปาร์ตี้เจอวิธีลดแก้มข้อนี้ไปอาจจะตกใจ เพราะว่าคุณต้องงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็น สุรา เบียร์ ไวน์ หรือแม้แต่โซจู เนื่องจากแอลกอฮอล์ทำให้เลือดมีความเข้มข้นสูงขึ้น ซึ่งจะไปกระตุ้นให้ร่างกายดึงน้ำจากส่วนต่าง ๆ ในร่างกายมาเจือจางแอลกอฮอล์ที่อยู่ในเลือดเพื่อปรับสมดุลและป้องกันไม่ให้ร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำ โดยการเก็บสำรองน้ำไว้ที่บริเวณใบหน้ารวมถึงแก้ม ผลที่ตามมาก็คือหน้าจะบวมแถมแก้มดูป่องขึ้น
- เป่าลูกโป่ง
หลายคนอาจสงสัยว่าแค่การเป่าลูกโป่งง่าย ๆ คือวิธีลดแก้มได้จริงหรือ? คำตอบก็คือจริง เพราะเวลาที่คุณเป่าลูกโป่งจะเป็นการช่วยบริหารกล้ามเนื้อบริเวณแก้มให้มีความตึงและกระชับมากยิ่งขึ้น โดยคุณจะรู้สึกได้ว่าระหว่างที่กำลังเป่าลมเข้าไปในลูกโป่งจะสัมผัสได้ว่ากล้ามเนื้อบริเวณแก้มมีการยืดตัวออก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในวิธีการออกกำลังกล้ามเนื้อใบหน้า หากทำเป็นประจำ 10 ครั้งต่อวัน ก็จะช่วยลดแก้มได้อย่างเห็นผล
8 วิธีลดแก้มด้วยวิธีทางการแพทย์
ใครที่ลองวิธีลดแก้มลดเหนียงแบบธรรมชาติไปแล้วแต่ยังรู้สึกว่าผลลัพธ์เร็วไม่ทันใจ ก็คงถึงเวลาที่ต้องมาลองใช้การลดแก้มและกำจัดเหนียงออกไปด้วยวิธีทางการแพทย์กันบ้างแล้ว โดยเราจะแนะนำ 8 วิธีให้คุณได้ศึกษาก่อนที่ตัดสินใจให้ไปหาคุณหมอจริง ๆ พร้อมแล้วเรามาดูด้วยกันเลย
1. ฉีดเมโสแฟตสลายไขมัน
เรามาเริ่มต้นกันด้วยวิธีที่ถือว่าได้รับความนิยมจากสาว ๆ ที่มีปัญหาแก้มเยอะจากไขมันสะสมบริเวณใบหน้า อย่างการฉีดเมโสแฟตที่ทำแล้วช่วยสลายไขมันทั้งบริเวณแก้มและเหนียงได้เห็นผลดีมาก ๆ เนื่องจากเป็นไขมันจุดที่การออกกำลังกายหรือเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารแล้วก็ยังลดได้ยากนั่นเอง
โดยในเมโสแฟตหลาย ๆ สูตรมีส่วนประกอบของสารที่ออกฤทธิ์ช่วยลดแก้มลดเหนียงดังนี้
- Mesostabyl
ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ lipase เพื่อลดการสร้างไตรกลีเซอไรด์และช่วยยับยั้งการสร้างคอเลสเตอรอล
- L-carnitine
ช่วยดึงเอาไขมันที่สะสมในร่างกายออกมาเป็นพลังงานได้มากขึ้น ส่งผลให้เผาผลาญไขมัน หรือ fat burn ได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
- Tyrosine
เพิ่มการเผาผลาญไขมันในร่างกายจนไขมันเกิดการแตกตัวเล็กลงและถูกขับออกมา
- Juglans regia
กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด การทำงานของระบบเผาผลาญ และลดอาการบวมน้ำ
- Nicotiana tabacum
กระตุ้นการเกิดลิโพไลซิส ทำให้ผนังเซลล์ไขมันแตกสลาย และถูกขับออกผ่านระบบน้ำเหลือง
หลังจากที่ฉีดสลายไขมันแก้มด้วยเมโสแฟตไปแล้ว คุณก็จะมีอาการแก้มหรือเหนียงบวมเล็กน้อยจากยาที่ฉีดเข้าไป แต่ก็ไม่ต้องตกใจเพราะมันจะค่อย ๆ ยุบลงได้เองภายใน 3-4 ชั่วโมง พร้อมกับเริ่มเห็นผลได้ชัดเจนตั้งแต่สัปดาห์ที่ 1-3 ซึ่งจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับไขมันสะสมของแต่ละคน
2. ฉีดโบท็อกซ์ลดขนาดกราม
จริง ๆ แล้วการฉีดโบท็อกซ์ไม่ได้ช่วยสลายไขมันที่แก้มหรือเหนียงแต่อย่างใด แต่มันคือสารที่เข้าไปช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะคนที่มีใบหน้าใหญ่จากขนาดกราม กรณีแบบนี้ก็ทำการฉีดโบท็อกซ์เพื่อทำให้แก้มและใบหน้าดูมีขนาดเล็กลงได้ ยิ่งถ้าได้ทำพร้อมกับฉีดเมโสแฟตด้วยแล้วก็จะยิ่งเห็นผลว่าใบหน้าเรียวเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
3. จัดฟันให้รูปหน้าเข้าที่
ใครที่เข้าใจผิดคิดไปว่าการจัดฟันช่วยให้แก้มมีขนาดเล็กลงในระยะยาวอันนี้ไม่ถูกต้อง แต่เป็นเพียงการทำให้ใบหน้าดูเล็กลงจากการที่เคี้ยวอาหารไม่สะดวก กินอาหารได้น้อย ส่งผลให้ไขมันบริเวณใบหน้ามีปริมาณลดลง ควบคู่กับกล้ามเนื้อกรามและกล้ามเนื้อแมสซีเตอร์ที่ใช้สำหรับการเคี้ยวบดอาหาร ไม่ค่อยได้ใช้เคี้ยวจนทำให้แก้มดูมีขนาดที่เล็กลงนั่นเอง
นอกจากนี้ หากสามารถจัดฟันได้ถูกวิธีแล้ว เนื้อริมฝีปากก็จะยุบเข้าไปตามตำแหน่งฟันที่ถอยเข้าไปอยู่ในจุดที่ถูกต้อง เพียงเท่านี้ส่วนอื่นของใบหน้า เช่น โหนกแก้มจะดูเด่นขึ้นมาอย่างชัดเจน หน้าตอบลง หากรู้สึกว่าตัวเองดูโทรมหรือป่วยมากเกินไป ก็ทำการฉีดฟิลเลอร์เติมเข้าไปเพื่อให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบได้
4. ดูดไขมันลดแก้มลดเหนียง
มาถึงการดูดไขมันเฉพาะจุดที่นับว่าเป็นวิธีลดแก้ม ใบหน้า เหนียง และกรอบหน้าได้ดีมากอีกหนึ่งทางเลือก เนื่องจากช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวแถมมีกรอบหน้าที่ชัดเจนขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ต้องแลกกับผลข้างเคียงที่ทำให้บริเวณที่ดูดไขมันมีอาการเจ็บ บวม และฟกช้ำในจุดที่ทำหัตถการ ขณะเดียวกันก็อาจทำให้ผิวมีลักษณะเป็นคลื่นไม่เรียบเนียนและมีรอยแผลเป็นได้ และที่สำคัญคือยังต้องใช้เวลาพักกว่าจะเห็นผลเต็มที่อีกด้วย
5. ผ่าตัดลดแก้ม
สำหรับใครที่มีปัญหากระพุ้งแก้มมาก ๆ จนทำให้ใบหน้าดูกลม การผ่าตัดลดแก้มหรือผ่าเอาไขมันที่กระพุ้งแก้มออกก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดแก้มได้ดีไม่แพ้วิธีอื่น ไม่ว่าคุณจะมีแก้มป่อง แก้มเยอะ รวมถึงเป็นคนที่ไม่กังวลเรื่องการผ่าตัดและสามารถใช้เวลาไปกับการพักฟื้นได้พอสมควร ก็ควรพิจารณาวิธีผ่าตัดลดแก้มเข้าไปในลิสต์รายการด้วย เพราะหลังจากผ่าตัดไปแล้วไขมันบริเวณกระพุ้งแก้มจะแทบไม่กลับมา หรือถ้าจะกลับมาก็มีปริมาณน้อยมาก ๆ
ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีเท่านั้น แต่วิธีผ่าตัดลดแก้มก็ยังต้องใส่ใจในการเลือกแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดเป็นพิเศษ โดยแนะนำให้เลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น เพราะคุณหมอจะต้องวินิจฉัยพร้อมกับวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลโดยดูจากรูปหน้าเป็นสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด ที่อาจทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน ใบหน้าตอบเกินไป จนไม่สามารถทำให้กลับมามีสัดส่วนที่สมดุลแบบธรรมชาติได้ วิธีเดียวก็คือต้องฉีดฟิลเลอร์เสริมลงไปในชั้นผิวหนังเพื่อปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่พอดี
6. ผ่าตัดดึงหน้า
อีกหนึ่งวิธีลดแก้มที่พึ่งพาการผ่าตัดของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ได้ผลใกล้เคียงกับการผ่าตัดลดแก้ม ก็คงเป็นวิธีผ่าตัดดึงหน้าหรือ facelift เพื่อช่วยยกกระชับเนื้อเยื่อบนใบหน้าให้ดูดียิ่งขึ้น ไล่มาตั้งแต่ผิวหน้า แก้ม สันกราม ไปจนถึงบริเวณลำคอ
แน่นอนว่าการผ่าตัดดึงหน้าถือได้ว่าเป็นการทำหัตถการที่มีความซับซ้อนมากกว่าวิธีอื่น ๆ เนื่องจากต้องดูดไขมันเพื่อลดแก้ม เหนียง รวมถึงตัดผิวหน้าบางส่วนออกร่วมด้วย เพื่อทำให้ใบหน้าดูกระชับและเรียบเนียนยิ่งขึ้นแต่ก็ยังดูเป็นธรรมชาติอยู่ เหมาะกับคนที่มีเวลาพักฟื้นและไม่กลัวการผ่าตัด
7. การร้อยไหม
มาถึงวิธีลดแก้มที่ได้รับความนิยมจากคุณผู้หญิงมาก ๆ อีกแบบหนึ่ง อย่างการร้อยไหมที่ช่วยทั้งเรื่องการยกกระชับผิวหน้าควบคู่ไปกับการปรับให้ใบหน้าดูเรียวมากขึ้นแบบที่ไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว แต่ก็อยากให้คุณเข้าใจตรงนี้ไปพร้อมกันว่าการร้อยไหมไม่ได้ช่วยลดแก้มโดยตรง แต่ว่าเป็นการช่วยแก้ปัญหาแก้มหย่อนคล้อยด้วยการยกกระชับผิว มากกว่าการลดไขมันบริเวณแก้มและเหนียงที่มีสะสมเป็นจำนวนมาก
8. ทำ Hifu
ในที่สุดก็มาถึงการทำ Hifu ที่ช่วยยกกระชับได้ทั้งใบหน้า เหนียง ลำคอ และเหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่มีปัญหาแก้มเยอะ แก้มเริ่มหย่อนคล้อยตามอายุที่มากขึ้น และขาดความกระชับลดลงไปเรื่อย ๆ เมื่อทำ Hifu แล้วจะช่วยปรับรูปหน้าและยกแก้มขึ้นมาได้อย่างเห็นผลทันทีแถมไม่ทิ้งรอยแผลใดไว้เบื้องหลัง ซึ่งเจ้าเครื่อง Hifu นั้นจะมีหัวที่ใช้ยิงแตกต่างตามระดับความลึกของชั้นผิวหนัง ตั้งแต่ 1.5-4.5 มิลลิเมตร โดยหัวที่ใช้ยิงลดไขมันกับเซลลูไลต์จะเป็นหัวยิงระดับความลึก 3.0 มิลลิเมตร ที่ส่งพลังงานลงไปในระดับผิวหนังชั้นกลางเพื่อลดไขมันที่แก้มนั่นเอง
รีวิวการลดแก้มโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ EY Clinic
หากคุณกำลังประสบปัญหาแก้มและเหนียงที่ใหญ่ขึ้นจากการสะสมของไขมันใต้ผิวหนัง ที่ EY Clinic เราก็มีวิธีลดแก้มที่ทำแล้วเห็นผลดีได้กับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยอาจเริ่มจากการทำ Hifu ที่แก้มกับเหนียง เพื่อแก้ปัญหากรอบหน้าไม่เท่ากันเนื่องจากแก้มหย่อนคล้อย รวมถึงปัญหาคางสองชั้นและเหนียงให้ดูกระชับขึ้น สำหรับราคาของการทำ Hifu เหนียงจะเริ่มต้นที่ 4,199 บาทจนถึง 10,079 บาท ที่เป็นราคาทำ 3 ครั้ง
ส่วนใครอยากลดไขมันสะสมบริเวณแก้มให้เห็นแบบเร็ว ๆ เราแนะนำเป็นการฉีดเมโสแฟต เช่นการฉีด lipox จำนวน 10-30cc ในราคาระหว่าง 2,799-6,999 บาท ที่จะช่วยสลายไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่บริเวณแก้มและเหนียงได้มีประสิทธิภาพ แถมยังไม่มีผลข้างเคียงที่ทำให้รู้สึกแสบหรือบวมอีกด้วย หากอยากเห็นผลไวก็ลองเป็น mesofat premium ปริมาณระหว่าง 10-30 cc ในราคา 5,599-14,299 บาท ซึ่งสลายไขมันได้เร็วมาก ควบคู่กับการยกกระชับผิวให้ดูเต่งตึงไปพร้อม ๆ กัน
ลดแก้มให้หน้าดูเรียวได้รูปและกระชับยิ่งขึ้นที่ EY Clinic
สาว ๆ หลายคนคงได้ไขข้อข้องใจถึงวิธีลดแก้มไปจนหมดแล้ว แต่อีกสิ่งที่ควรใส่ใจไม่แพ้กันนั้นก็คือการเลือกทำหัตถการเพื่อลดแก้มและเหนียงกับคลินิกที่ได้มาตรฐานและเชี่ยวชาญในด้านนี้จริง ๆ โดยแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและเวลล์เนสที่มีประสบการณ์รวมกว่า 30 ปีจากสถาบันชั้นนำของประเทศของ EY Clinic จะช่วยให้ใบหน้าของคุณกลับมาเรียวได้ทรงและมีแก้มกับเหนียงที่เล็กลงกว่าเดิม ติดต่อเราได้ที่ไลน์ @EYClinicTH