หลุมสิว Rolling Scar คืออะไร รักษาด้วยวิธีไหนดีที่สุด

หมอคิดว่า ปัญหาหลุมสิว เป็นอะไรที่น่าปวดหัวไม่แพ้กับปัญหาสิว และทำให้หลาย ๆ คน เสียความมั่นใจไปได้ง่าย ๆ เลยค่ะ ใบทความนี้ หมอจะมาอธิบายถึง “หลุมสิว Rolling scar” หรือหลุมสิวที่มีลักษณะเหมือนแอ่ง และพูดถึงการรักษาหลุมสิว rolling ที่มีประสิทธิภาพค่ะ
สรุปสาระสำคัญ
- หลุมสิว Rolling scar มีลักษณะเป็นแอ่งที่มีความกว้าง แต่ไม่ลึก และไม่มีขอบเขตชัดเจน
- หลุมสิว Rolling scar มักตอบสนองต่อการรักษาแบบต่าง ๆ ได้ดี
- วิธีรักษาหลุมสิว Rolling ที่มีประสิทธิภาพ คือ การทำ Subcision ควบคู่ไปกับ Venus Viva MD หรือ เลเซอร์ Fractional RF
หลุมสิว เกิดจากอะไร

หลุมสิว (Atrophic acne scar) เกิดจากการกระบวนการอักเสบของสิว และการกระบวนการสมานแผลที่ไม่พอเพียงค่ะ โดยระหว่างที่เราเป็น เซลล์ผิวและเส้นใยโปรตีนโตโครงสร้างต่าง ๆ จะถูกทำลายไปตามกระบวนการการอักเสบ ยิ่งการอักเสบรุนแรงเท่าไร โอกาสของการเกิดหลุมสิวก็เยอะจะไปด้วย ประกอบกับกระบวนการสมานแผลที่ไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถสร้างเนื้อเยื่อมาทดแทนในส่วนที่ถูกทำลายไปได้ จึงทำให้เกิดเป็นแผลเป็นที่มีลักษณะเป็นรอยบุ๋ม หรือ เป็นหลุม ต่ำกว่าระนาบของผิวปกตินั่นเองค่ะ
โดยหลุมสิวจะเป็นประเภทของแผลเป็นที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด เมื่อเป็นสิวอักเสบ ซึ่งนอกจากแผลเป็นลักษณะแล้วก็ยังมีรอยดำ (Hyperpigmentation) และรอยแผลเป็นแบบนูน (Hypertrophic scar) ที่เกิดสามารถเกิดขึ้นได้ค่ะ
หลุมสิว มีกี่ประเภท

เราสามารถแบ่งหลุมสิวออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ หลุมสิว Rolling, หลุมสิว Boxcar และหลุมสิว Ice Pick ค่ะ โดยแต่ละประเภทจะมีลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างกัน ดังนี้ค่ะ
- หลุมสิว Rolling scar มีลักษณะเป็นแอ่งตื้นที่กินพื้นที่ได้ถึง 5 มิลลิเมตร ขอบเขตไม่ชัดเจน พบได้บ่อยบริเวณแก้ม หลุมสิวประเภทนี้พบได้ไม่บ่อยเมื่อเทียบกับอีกสองประเภท และเป็นประเภทที่รักษาได้ง่ายที่สุดค่ะ
- หลุมสิว Boxcar scar มีลักษณะเป็นบ่อกว้างที่มีขอบชัดเจน มีความกว้างอยู่ที่ 1.5 - 4 มิลลิเมตร และมักตอบสนองต่อการรักษาได้ดีค่ะ
- หลุมสิว Ice pick scar เป็นประเภทหลุมสิวที่พบมากที่สุด (60-70% ของแผลเป็นจากสิว) มีลักษณะเป็นเหมือนหลุมปากแคบที่มีความลึก จึงทำให้รักษาได้ยากค่ะ
หลุมสิว Rolling scar รักษาอย่างไร
ต้องเกริ่นก่อนว่า ในปัจจุบันนี้ เรามีตัวเลือกหัตถการในการรักษาหลุมสิว Rolling scar หลายตัวมากค่ะ โดยในบทความนี้ หมอจะขอพูดถึงการรักษา 5 วิธี ดังนี้ค่ะ
Subcision

Subcision หรือ การตัดพังผืด คือ การใช้เข็มขนาดเล็กสอดเข้าไปที่บริเวณฐานของหลุมสิว เพื่อเลาะเอาเนื้อเยื่อพังผืด (Fibrous tissue) ออกค่ะ โดยเนื้อเยื่อพังผืดนี้เป็นผลมาจากการที่ร่างกายพยายามสมานและซ่อมแซมตัวเองหลังจากที่เป็นสิวอักเสบค่ะ แต่ในหลาย ๆ กรณี เนื้อเยื่อพังผืดกลับเป็นตัวดึงรั้งผิวบริเวณฐานสิวเอาไว้ค่ะ ซึ่งการตัดเอาพังผืดตรงนี้ออกเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนชุดใหม่ออกมา และยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาหลุมสิวด้วยวิธีอื่น ๆ ด้วยค่ะ
Subcision จึงมักเป็นหัตถการเสริมที่นิยมทำร่วมกับ การฉีดกระตุ้นคอลลาเจนหลุมสิว และเลเซอร์หลุมสิวค่ะ เพราะการเลาะเอาพังผืดออกจะช่วยให้หลุมสิว Rolling scar ตอบสนองของการรักษาอื่น ๆ ได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้ง Subsicion เองยังเป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงต่ำ และไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงระยะยาวด้วยค่ะ
เลเซอร์ Fractional RF

Fractional RF เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับหลุมสิว Rolling scar ค่ะ โดยจะเป็นการใช้คลื่นวิทยุ (Radiofrequency, RF) เพื่อกระตุ้นให้เกิดกระบวนการสมานแผล คลื่นวิทยุจะถูกส่งผ่านเข้าสู่ชั้นผิว แล้วแปรเปลี่ยนเป็นความร้อนที่กระตุ้นผลิตคอลลาเจนและเซลล์ผิวใหม่ออกมา อีกทั้งยังเกิดการจัดเรียงตัวใหม่ของโครงสร้างผิว (Skin Remodeling) ซึ่งจะทำให้หลุมสิว Rolling scar ดูจางลง ผิวกระชับ และแข็งแรงขึ้นค่ะ
โดยเลเซอร์ Fractional RF ของ EY Clinic จะใช้เทคนิค Microneedling หรือใช้เข็มขนาดจิ๋วในการลงผ่านคลื่นวิทยุเข้าสู่ชั้นผิว ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นกระบวนการสมานแผลอีกทางหนึ่งด้วยค่ะ
เลเซอร์ Venus Viva MD

Venus Viva MD เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ใช้คลื่นวิทยุเป็นในการรักษาหลุมสิวแบบ Rolling scar ค่ะ แต่ความพิเศษของเจ้าเลเซอร์ตัวนี้อยู่ที่ เทคโนโลยี NanoFractional™ Radiofrequency ที่ช่วยให้คลื่นวิทยุเข้าสู่ชั้นผิวได้ลึกถึงชั้น Upper dermis ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าในการรักษาหลุมสิว Rolling scar และ Boxcar ที่มีความรุนแรง เมื่อเทียบกับเลเซอร์ในกลุ่มเดียวกันค่ะ อีกทั้งยังมี SmartScan™ ที่ทำให้ปรับเปลี่ยนระดับพลังงานได้ตามความเหมาะสมกับผิวของแต่ละบุคคลค่ะ
Venus Viva MD เป็นนวัตรกรรมเลเซอร์ที่ชื่อเรื่องความปลอดภัย และความสบายผิวระหว่างหัตถการค่ะ โดยจะใช้หัว pin ที่มีขนาดเล็กเพียง 300 นาโนเมตรในการส่งผ่านคลื่นวิทยุ ซึ่งทำให้คลื่นกระจายตัวได้ดี ไม่สร้างความเจ็บปวดระหว่างยิงคลื่น และลดโอกาสผิวไหม้เบิร์นหลังทำหัตถการด้วยค่ะ
โดยนอกจากประสิทธิภาพในการรักษาหลุมสิว Rolling scar ความปลอดภัย และความสบายผิวขณะทำแล้ว ระยะเวลาพักฟื้นหลังทำ Venus Viva MD ก็ใช้เวลาเพียง 1-2 วัน ซึ่งถือว่าสั้นกว่า เมื่อเทียบกับเลเซอร์ตัวอื่นค่ะ
เลเซอร์ Fractional CO2

Fractional CO2 เป็นเลเซอร์เพื่อผิวหน้าที่ได้รับความนิยมสูงค่ะ เนื่องจากสามารถจัดการกับปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย เช่น ริ้วรอย สิวข้าวสาร สิวอุดตัน รวมไปถึงหลุมสิวแบบ Rolling scar และ Boxcar ด้วยค่ะ ซึ่ง Fractional CO2 จะใช้ยิงคลื่นแสงที่ความยาว 10,600 นาโนเมตร โดยใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นตัวกลางในการแทรกตัวเข้าสู่ชั้นผิว ทำให้เกิดการผลัดผิวเก่าออก และผลิตเซลล์ผิวใหม่ค่ะ (Skin Resurfacing)
อย่างไรก็ดี เลเซอร์ Fractional CO2 จะใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าเลเซอร์ Fractional RF และ Venus Viva MD เผยผลลัพธ์ที่ช้ากว่า แต่ก็มีประสิทธิภาพในการรักษาหลุมสิว Rolling scar กระชับรูขุมขน และช่วยปรับโทนสีผิวให้สม่ำเสมอมากขึ้นค่ะ
การฉีดกระตุ้นคอลลาเจน

อีกหนึ่งวิธีรักษาหลุมสิว Rolling scar ก็คือ การฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน หรือ Collagen Biostimulator ค่ะ ซึ่งสารกระตุ้นคอลลาเจนที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่ Juvelook, Profhilo และ Sculptra ค่ะ โดยแต่ละตัวมีคุณสมบัติที่โดดเด่นแตกต่างกันในการกระตุ้นการฟื้นฟูผิวและลดเลือนหลุมสิว
Juvelook เป็นสาร PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) ที่ทำงานร่วมกับไฮยาลูรอนิก แอซิด โดยสาร PDLLA จะกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ให้ผลิตคอลลาเจนใต้ชั้นผิวออกมามากขึ้น ส่วนไฮยาลูรอนิก แอซิดจะช่วยเติมเต็มปริมาตรของเนื้อเยื่อ ทำให้หลุมสิวดูจางลงและผิวชุ่มชื้นทันที
โดยสาร PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) จะเป็นสารที่ทำหน้าที่กระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast)ให้ผลิตคอลลาเจนใต้ชั้นผิวออกมากมากชึ้น ส่วนไฮยาลูรอนิก แอซิดจะเป็นตัวอุ้มน้ำและทำหน้าที่เติมเต็มปริมาตรที่จะทำให้หลุมสิวดูตจางลงค่ะ
เราสามารถสรุปหลักการทำงานคร่าว ๆ ของ Juvelook ได้เป็น 3 ข้อ ดังนี้ค่ะ
- Physical Support: มวลสารไฮยาลูรอนิก แอซิดที่เข้าไปเติมเต็มปริมาตรของเนื้อเยื่อบริเวณหลุมสิว
- Restoration: หลังฉีดไปแล้ว 3-4 สัปดาห์ เซลล์ไฟโบรบลาสต์จะเริ่มผลิตเส้นใยคอลลาเจนออกมามากขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความชุ่มชื้นให้ผิว
- Maintenance: PDLLA สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้ในระยะยาว และจะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนที่สุดในช่วง 6 เดือนหลังฉีด
ผลลัพธ์ของ Juvelook จะเห็นได้หลังฉีดครั้งแรก เนื่องจากตัวไฮยาลูรอนิก แอซิดที่เข้าไปเติมเต็มบริเวณหลุมสิวทันทีค่ะ โดยทั่วไปแล้ว การฉีด Juvelook ควรทำติดต่อกันอย่างน้อย 3 ครั้ง เว้นระยะห่างครั้งละ 3-4 สัปดาห์ ซึ่งนอกจากประสิทธิภาพในการรักษาหลุมสิว Rolling scar แล้ว Juvelook ยังจะช่วยในการลดเลือนริ้วรอย ปรับสภาพผิว พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นและความกระชับให้ผิวแลดูอ่อนวัยสุขภาพดีด้วยค่ะ
สารกระตุ้นคอลลาเจนอีกหนึ่งตัวที่สามารถช่วยรักษาหลุมสิว Rolling scar ได้ ก็คือ Sculptra ค่ะ ซึ่ง Sculptra จะเป็นสาร PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ซึ่งมีความสามารถในการกระตุ้นคอลลาเจนเช่นกันค่ะ โดย Sculptra สามารถเพิ่มปริมาณคอลลาเจนใต้ชั้นผิวได้ถึง 66.5% ทำให้หลุมสิวดูจางลงอย่างชัดเจน อีกทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอย และฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงด้วยค่ะ
Profhilo เป็นสารไฮยาลูรอนิก แอซิดที่มีน้ำหนักโมเลกุลทั้งสูงและต่ำในรูปแบบ Hybrid Cooperative Complex โดยจะช่วยฟื้นฟูผิวชั้นหนังแท้ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน พร้อมมอบความชุ่มชื้นที่ลึกถึงชั้นผิว ทำให้หลุมสิว Rolling scar ดูตื้นขึ้น ผิวกระชับ และริ้วรอยลดลงได้อย่างชัดเจน
Sculptra เป็นสาร PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ซึ่งมีความสามารถในการกระตุ้นคอลลาเจนได้ดีเยี่ยม โดยหลังการฉีด Sculptra พบว่าปริมาณคอลลาเจนใต้ชั้นผิวเพิ่มขึ้นถึง 66.5% ภายใน 3 เดือน ส่งผลให้หลุมสิวดูจางลงอย่างชัดเจน พร้อมช่วยลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความแข็งแรงของผิว
การฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจนเหล่านี้สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เช่น Subcision หรือ Laser เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาหลุมสิว Rolling scar และ Boxcar scar ได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ
การฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน สามารถทำร่วมกับร่วมกันหัตถการอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาหลุมสิว Rolling scar หรือ Boxcar scar ได้ค่ะ อย่างไรก็ดี ควรมีการปรึกษาแพทย์เพื่อให้แผนการรักษาที่เหมาะกับตัวบุคคลที่สุด และเว้นระยะห่างระหว่างการรักษาแต่ละวิธีให้เหมาะสมด้วยค่ะ
หลุมสิว Rolling scar รักษาด้วยวิธีไหนดีที่สุด?

ในความเห็นของหมอผึ้งแล้ว วิธีการรักษาหลุมสิว Rolling scar ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด คือ การทำ Subcision ควบคู่ไปกับเลเซอร์ Venus Viva MD ค่ะ โดย Subcision จะกำจัดเนื้อเยื่อพังผืดที่ดึงรั้งอยู่ใต้ฐานของหลุมสิว และ Venus Viva MD (เลเซอร์ Fractional RF แบบไม่ใช้เข็ม) จะช่วยกระตุ้นให้ผิวผลิตเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสติน เพื่อมาเติมเต็มหลุมสิวให้ดูจางลง เผยผิวที่เรียบเนียนสม่ำเสมอมากขึ้นค่ะ
โดยที่ EY Clinic มีบริการในส่วนของโปรแกรมรักษาหลุมสิวที่จะช่วยจัดการทั้งหลุมสิวแบบ Rolling scar, Boxcar และ Ice Pick หากใครที่ยังไม่แน่ใจว่าวิธีไหนจะเหมาะสมที่สุด ก็สามารถปรึกษากับคลินิกของเราได้ค่ะ
ดูแลอย่างไร ไม่ให้เป็นหลุมสิว
ทั้งหลุมสิว rolling scar, boxcar และ ice pick เป็นรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวอักเสบค่ะ ซึ่งวิธีการดูแลตัวเองเมื่อเป็นสิว เพื่อลดโอกาสการเกิดหลุมสิวมีดังนี้ค่ะ
- ไม่แกะ บีบ หรือกดสิว เพราะจะเป็นการทำร้ายผิว และอาจยิ่งทำให้การอักเสบรุนแรงขึ้นด้วยค่ะอีกด้วยค่ะ
- เลือกใช้ยาแต้มสิว แผ่นแปะสิว หรือการฉีดสิว และไม่ปล่อยให้สิวหายเอง เพื่อควบคุมการอักเสบให้ได้มากที่สุดค่ะ
- บำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ เพราะความชุ่มชื้นจะเป็นตัวช่วยให้ผิวแข็งแรง และช่วยให้สมานแแผลได้ดีขึ้นค่ะ
รักษาหลุมสิว Rolling scar ที่ EY Clinic

วิธีการรักษาหลุมสิว Rolling scar ที่ได้อธิบายกันไปในบทความนี้ ยังเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสำหรับหลุมสิวแบบ Boxcar ด้วยค่ะ ซึ่งนอกจาก วิธีเหล่านี้แล้ว ก็ยังมีหัตถการอื่น ที่จะช่วยแก้ปัญหาหลุมสิวได้ อย่างเช่น PRP Injection, Sculptra หรือ TCA ค่ะ
ซึ่งหมอเชื่อว่า การรักษาที่ดีสุดของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ก่อนเริ่มทำจึงควรมีการวางแผน เพื่อให้การรักษามีความเหมาะสมกับตัวบุคคล ไม่ว่าจะเป็นด้านของสภาพผิว เวลาที่เรามีในการเข้าคลินิก หรืองบประมาณที่มีค่ะ
สำหรับคนที่ยังมีคำถาม หรือสนใจโปรแกรมรักษาหลุมสิว ก็สามารถเข้ามาปรึกษาเราที่ EY Clinic ได้ค่ะ
EY Clinic เป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านสิว หลุมสิว และ ชะลอวัย

เพราะเราคือทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์รวมกันมากกว่า 30 ปี นำทีมโดย หมอผึ้ง (พญ.พัจนภา เวชอนุรักษ์) แพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง สถาบันโรคผิวหนัง Board of Dermatology and Dermatosurgery และ หมอโบว์ (พญ. พันธลี ชื่นสัมพันธ์) เวชศาสตร์ชะลอวัย American Board of Anti-Aging & Regenerative Medicine แพทยศาสตรบัณฑิตโรงพยาบาลรามาธิบดี ยินดี ให้คำปรึกษาและช่วยดูแลให้ผิวของคุณมีสุขภาพดีมากขึ้นค่ะ
แวะเข้ามาปรึกษาเรื่องปัญหาผิวกับเราได้ที่ EY Clinic หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ @EYClinicTH ค่ะ
รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง


