หลุมสิว Ice pick คืออะไร ทำไมรักษาได้ยากกว่าหลุมสิวประเภทอื่น

หมอเชื่อว่า หลุมสิว ถือเป็นปัญหาที่น่าหนักใจที่คนเป็นสิวหลายคนต้องเจอค่ะ โดยเฉพาะกับหลุมสิว Ice pick ที่รักษาได้ยากเย็นกว่าหลุมสิวชนิดอื่น ในบทความนี้ เราจะไปเรียนรู้กันว่า หลุมสิวแบบ Ice pick คืออะไร แตกต่างกับหลุมสิวอื่น ๆ อย่างไร และการรักษาหลุมสิว Ice pick ทำได้อย่างไรบ้างค่ะ
สรุปสาระสำคัญ
- หลุมสิว Ice pick เกิดจากสิวอักเสบที่รุนแรงและมีรากของการอักเสบที่ลึก
- หลุมสิว Ice pick มีลักษณะเป็นหลุมลึก ปากแคบ ซึ่งเป็นหลุมสิวที่พบได้บ่อยที่สุด แต่รักษาได้ยากที่สุด
- วิธีการรักษาหลุมสิวแบบ Ice pick ที่มีประสิทธิภาพ คือ การแต้มกรด TCA
- การป้องกันหลุมสิวที่ดีที่สุด คือ การรักษาสิวให้ถูกวิธีด้วยยาแต้มสิวหรือ การฉีดสิว ไม่ปล่อยให้สิวหายเอง และ ไม่แกะหรือบีบสิว
“หลุมสิว Ice pick” คืออะไร

หลุมสิว Ice pick หรือ หลุมสิวแบบจิก คือ รอยแผลเป็นจากสิวที่มีลักษณะเป็นรูปตัว V หรือเป็นหลุมปากแคบที่มีความลึกค่ะ หลุมสิวประเภทนี้ถือเป็นประเภทที่พบได้บ่อยที่สุด (60-70% ของหลุมสิวทั้งหมด) ซึ่งชื่อ “Ice pick” ก็ได้มาจากลักษณะทางกายภาพของหลุมสิวที่คล้ายคลึงกับน้ำแข็งที่ถูกจิกด้วยไม้เจาะน้ำแข็งค่ะ
สิวที่มักทำให้เกิดหลุมสิวแบบ Ice pick ได้แก่ สิวที่มีการอักเสบรุนแรง และมีรากที่ลึก เช่น สิวตุ่มนูนแดงแบบ Papule หรือ สิวซีสต์หัวปิด (Cystic acne) ค่ะ
ปากของหลุมสิวแบบ Ice pick จะมีขอบที่มองเห็นได้ชัดเจน มีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ 0.5-1 มิลลิเมตร และอาจมีความลึกถึงชั้นหนังแท้ค่ะ (Dermis) ซึ่งขนาดขอบปากของหลุมสิว Ice pick ถือว่าเล็กมากเมื่อเทียบกับหลุมสิวประเภทอื่น เช่น หลุมสิวแบบ Rolling ที่มักมีปากที่กว้างถึง 4-5 มิลลิเมตรค่ะ ซึ่งด้วยความแคบและลึกของรอยแผล หลุมสิว Ice pick จึงเป็นรอยแผลเป็นที่รักษาได้ยาก และตอบสนองต่อการรักษาบางประเภทเท่านั้นค่ะ
ประเภทของหลุมสิว

เราสามารถแบ่งประเภทของหลุมสิวได้ตามรูปร่างลักษณะทางกายภาพค่ะ โดยนอกจาก หลุมสิว Ice pick แล้ว ก็ยังมีหลุมสิวแบบ Rolling และ หลุมสิวแบบ Boxcar ค่ะ
หลุมสิว Rolling: มีลักษณะเหมือนแอ่งกระทะที่ไม่มีขอบชัดเจน ความกว้างอยู่ที่ประมาณ 4-5 มิลลิเมตร ไม่ลึกมาก และสามารถที่รักษาได้ง่ายกว่าหลุมสิว Ice pick และ Boxcar ค่ะ
หลุมสิว Boxcar: หรือที่บางคนเรียกว่าหลุมสิวแบบกล่อง มีลักษณะเป็นบ่อกว้างที่มีขอบชัดเจนค่ะ โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ประมาณ 1.5 - 4 มิลลิเมตร ไม่ลึกและสามารถมองเห็นฐานของหลุมสิวได้ค่ะ
หลุมสิว Ice pick รักษาอย่างไร

อย่างที่ได้กล่าวไปค่ะว่า หลุมสิว Ice pick เป็นหลุมสิวประเภทที่พบบ่อยที่สุด แต่รักษาได้ยากที่สุดในบรรดาหลุมสิวทั้ง 3 ชนิด โดยการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับหลุมสิว Ice pick ที่สุด คือ การแต้มกรด TCA หลุมสิว ซึ่งนิยมทำคู่กับการรักษาวิธีอื่น ๆ เช่นการทำเลเซอร์หลุมสิว (Fractional RF หรือ Microneedle RF) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพรักษาและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ
การแต้มกรด TCA

กรด TCA (Trichloroacetic acid) หรือที่บางคนเรียกว่า กรดผลไม้ มีสรรพคุณในผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นให้เกิดกระบวนการสมานแผลค่ะ โดยแพทย์จะใช้เข็มปลายทู่ (หรือไม้จิ้มฟัน ขึ้นอยู่กับเทคนิคของคุณหมอแต่ละคน) ในการแต้มกรด TCA เข้าไปที่บริเวณฐานของหลุมสิว ซึ่งตัวกรด TCA จะทำปฏิกิริยากับเคราตินบนชั้นผิว แล้วกระตุ้นให้ร่างกายเข้าสู่กระบวนการสมานแผล (Wound-healing) ค่ะ
ในกระบวนการสมานแผลนี้ ผิวของเราจะผลิตคอลลาเจนและเซลล์ผิวใหม่ออกมามากขึ้น รวมถึงมีการจัดเรียงตัว (Dermal remodelling) เพื่อให้เซลล์ผิวใหม่เข้าแทนที่เนื้อเยื่อส่วนที่เป็นแผลเป็นค่ะ
โดยการรักษาหลุมสิวด้วยกรด TCA ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์เป็นอย่างสูง เพื่อให้ได้การรักษาที่แม่นยำและลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงค่ะ ซึ่งวิธีนี้จะต่างกับการลอกผิว หรือ TCA Peel ค่ะ ซึ่งการทากรด TCA ทั่วใบหน้าเพื่อให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวทั่วบริเวณ ให้ผลลัพธ์เป็น ผิวหน้าที่ดูกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น และจุดด่างดำดูจางลงค่ะ
สำหรับการรักษาหลุมสิว เราจะเลือกใช้กรด TCA ที่มีความเข้มข้น 70% เพื่อให้มีประสิทธิภาพต่อการรักษาโดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิวของคนไข้
นอกจากใบหน้าแล้ว เรายังสามารถเลือกทำ TCA Peel บริเวณลำตัว เพื่อลดขนคุด และเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวกายได้ด้วยค่ะ
ผลลัพธ์: หลุมสิว Ice pick ดูจางลง โดยสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ในช่วง 3-4 สัปดาห์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ผลลัพธ์ของการรักษาจะชัดเจนที่สุดในช่วง 3-4 เดือนหลังทำ และเป็นผลลัพธ์ที่ถาวรค่ะ
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย: ในช่วง1-2 สัปดาห์หลังทำ TCA แล้ว บริเวณที่ทำอาจรู้สึกระคายเคือง และมีสะเก็ดเล็กน้อย
การดูแลตัวเองหลังทำ: หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด ใช้ครีมกันแดด และบำรุงด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ค่ะ
ความอันตรายของการแต้มกรด TCA แบบไม่ถูกวิธี
จริงอยู่ที่ TCA เป็นการรักษาหลุมสิว Ice pick ที่มีประสิทธิภาพที่สุด แต่หากทำอย่างไม่ถูกวิธี เช่น ซื้อกรดมาแต้มเองที่บ้าน ก็สามารถทำให้ผิวหน้าของเราพังไปได้เลยค่ะ เนื่องจากกรด TCA เป็นกรดที่มีความรุนแรง และควรใช้ในระดับความเข้มข้นที่เหมาะสมกับสภาพผิวเพื่อป้องกันอาการผิวคล้ำ (Hyperpigmentation) เพราะถูกกรดทำร้าย อีกทั้งเทคนิคการทำที่ไม่เหมาะสม หรือเครื่องมือที่ไม่สะอาด ก็สามารถนำไปสู่การติดเชื้อได้ค่ะ
สำหรับคนที่อยากรักษาหลุมสิว หมอแนะนำว่า ให้เข้ารับการรักษากับคลินิกที่ได้มาตรฐานซึ่งมีแพทย์เป็นคนดำเนินการรักษา จะปลอดภัยกว่าค่ะ
โปรแกรม TCA เพื่อรักษาหลุมสิว Ice pick ที่ EY Clinic
- TCA acne scar หลุมสิว 1 ครั้ง 1,999.-
- TCA acne scar หลุมสิว 6 ครั้ง 9,995.- (คิดเป็นครั้งละ 1,666.-)
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว

การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว เป็นวิธีการรักษาที่ให้ผลได้อย่างรวดเร็วค่ะ โดยวิธีนี้เป็นการเติม สารเติมเต็ม (Filler) เข้าไปแทนเนื้อเยื่อส่วนที่เป็นหลุมสิว ทำให้รอยหลุมสิวดูตื้นขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดค่ะ ซึ่งตัวฟิลเลอร์ที่ใช้จะเป็นสารไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic acid) ที่มีสรรพคุณในการเติมปริมาตรผิว และอุ้มน้ำให้ผิว โดยวิธีนี้สามารถทำคู่กับ TCA ได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาหลุมสิว Ice pick ค่ะ
อย่างไรก็ดี ถึงการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวจะเป็นการรักษาที่ให้ผลเร็ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่คงอยู่ถาวร เนื่องจากสารไฮยาลูรอนิก แอซิดจะสลายตัวไปตามกลไกธรรมชาติของร่างกายค่ะ
ผลลัพธ์: หลุมสิวดูจางลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ตามอายุของฟิลเลอร์ค่ะ
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย: หลังฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ผิวหน้าอาจมีอาการบวมช้ำจากเข็ม และระคายเคืองเล็กน้อยค่ะ
การดูแลตัวเองหลังทำ: งดกดนวดใบหน้า รักษาความสะอาด และงดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากในช่วง 3-4 วันหลังทำ
เลเซอร์รักษาหลุมสิว

เลเซอร์ เป็นอีกหนึ่งหัตถการรักษาหลุมสิวที่มีประสิทธิภาพและได้รับความนิยมสูงค่ะ โดยในปัจจุบัน เราก็มีเลเซอร์อยู่หลากหลายประเภทให้เลือก เช่น Fractional CO2, Fractional RF หรือ Venus Viva MD ค่ะ
การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ส่วนใหญ่จะมีหลักการทำงานที่คล้าย ๆ กันค่ะ กล่าวคือ เลเซอร์เป็นการใช้พลังงานที่มีความเข้มข้นสูงในการกระตุ้นร่างกายให้เข้าสู่กระบวนการสมานแผล และผลิตเนื้อเยื่อเพื่อมาเติมเต็มส่วนที่เป็นแผลเป็นหลุมสิวค่ะ แต่ก็แน่นอนว่า เลเซอร์แต่ละตัวย่อมมีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไป โดยหมอจะขอสรุปความโดดเด่นของแต่ละตัว คร่าว ๆ ดังนี้ค่ะ
- เลเซอร์หลุมสิว Fractional CO2: เป็นตัวที่มีความยืดหยุ่น สามารถช่วยแก้ไขปัญหาผิวอื่น ๆ ได้ เช่น กระ สิวข้าวสาร สิวอุดตันหัวปิด และช่วยลบเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ
- เลเซอร์หลุมสิว Fractional RF: เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาด้วยเทคนิค Microneedling ที่ทำให้คลื่น RF เข้าสู่ผิวชั้นลึกได้
- เลเซอร์หลุมสิว Venus Viva MD: โอกาสการเกิดผิวไหม้หลังทำต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับเลเซอร์ตัวอื่น ๆ และมีเทคโนโลยีโดดเด่นอย่าง NanoFractional™ Radiofrequency และ SmartScan™ ที่เพิ่มความแม่นยำในการรักษาและลดความเจ็บระหว่างทำ
ผลลัพธ์: หลุมสิวดูจางลง กระชับรูขุมขน และช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และเป็นผลลัพธ์ที่ถาวรค่ะ
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย: ในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังทำ ผิวหน้ามีความเซ็นซิทีฟ และมีอาจมีสะเก็ดค่ะ
การดูแลตัวเองหลังทำ: หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด และงดใช้เครื่องสำอางในช่วงที่ผิวหน้ายังมีความบอบบางหรือระคายเคืองอยู่

วิธีดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดหลุมสิว Ice pick
ทั้งหลุมสิว Ice pick, rolling และ boxcar เป็นรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวอักเสบทั้งนั้นค่ะ ซึ่งปัญหาหลุมสิวมักต้องใช้เวลารักษานานพอสมควร โดยเฉพาะหลุมสิว Ice pick ที่รักษาได้ยาก ฉะนั้นทางที่ดีที่สุด คือ เราควรรักษาสิวให้ถูกวิธี เพื่อไม่ให้เกิดหลุมสิวตั้งแต่แรกค่ะ
- ไม่แกะ บีบ หรือกดสิว เนื่องจากจะทำให้การอักเสบมีความรุนแรงมากขึ้น และยังเป็นการทำร้ายผิวอีกด้วยค่ะ
- เลือกใช้ยาแต้มสิว แผ่นแปะสิว หรือการฉีดสิว และไม่ปล่อยให้สิวหายเอง เนื่องจากยิ่งเราปล่อยสิวอักเสบไว้นาน ๆ การอักเสบและติดเชื้อก็อาจมีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้โอกาสการเกิดหลุมสิวมากขึ้นไปด้วยค่ะ
- บำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว เพราะอย่าลืมว่า ความชุ่มชื้นเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี และสามารถสมานแผลได้อย่างเต็มที่ค่ะ
รักษาหลุมสิว Ice Pick ที่ EY Clinic

หลุมสิวทั้งแบบ Ice pick, rolling, และ boxcar เรียกได้ว่าเป็นปัญหาผิวอันดับต้น ๆ ที่ทำให้หลายคนปวดหัว และสูญเสียความมั่นใจค่ะ สำหรับคนที่กำลังประสบปัญหาใบหน้าไม่เรียบเนียน เติมเครื่องสำอางเท่าไรก็ไม่มั่นใจสักที หรือไม่แน่ใจว่าโปรแกรมรักษาหลุมสิวแบบไหนจะเหมาะกับเรา สามารถเข้ามาปรึกษาเราที่ EY Clinic ได้ค่ะ โดยเรามีการประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาก่อนเริ่มโปรแกรมหัตถการทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าการรักษาจะเหมาะสมกับตัวคุณ และจะสามารถมอบผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจได้ค่ะ
EY Clinic เป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านสิว หลุมสิว และ ชะลอวัย

เพราะเราคือทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์รวมกันมากกว่า 30 ปี นำทีมโดย หมอผึ้ง (พญ.พัจนภา เวชอนุรักษ์) แพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง สถาบันโรคผิวหนัง Board of Dermatology and Dermatosurgery และ หมอโบว์ (พญ. พันธลี ชื่นสัมพันธ์) เวชศาสตร์ชะลอวัย American Board of Anti-Aging & Regenerative Medicine แพทยศาสตรบัณฑิตโรงพยาบาลรามาธิบดี ยินดี ให้คำปรึกษาและช่วยดูแลให้ผิวของคุณมีสุขภาพดีมากขึ้นค่ะ
แวะเข้ามาพูดคุยกับเราได้ที่ EY Clinic หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ @EYClinicTH ค่ะ
รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง


