โบท็อกซ์ เมโส ฟิลเลอร์
0
min read

ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม! อยากสวยแต่กลัวเสี่ยง ควรพิจารณาอะไรบ้างก่อนทำ?

ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม! อยากสวยแต่กลัวเสี่ยง ควรพิจารณาอะไรบ้างก่อนทำ?

ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม! อยากสวยแต่กลัวเสี่ยง ควรพิจารณาอะไรบ้างก่อนทำ?

ชั่วโมงนี้วงการความสวยความงามต่างพูดถึงการฉีดโบท็อกซ์กันเป็นเรื่องปกติ ทั้งฉีดหน้า ฉีดกราม หรือฉีดที่ส่วนอื่นๆ ซึ่งคนที่กำลังสนใจอยากฉีดก็มักจะสงสัยในใจว่า ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม? ถ้าฉีดไปแล้วจะมีผลข้างเคียงอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า เพราะเคยได้ข่าวมาว่ามีหลายเคสที่มีคนไปฉีดโบท็อกซ์แล้วหน้าเบี้ยว และเพื่อเป็นการไขข้อข้องใจ วันนี้เราจะคุณไปทำความเข้าใจว่าจริงๆ แล้วการฉีดโบท็อกซ์นั้นอันตรายหรือไม่

โบท็อกซ์ คืออะไรและออกฤทธิ์อย่างไร?

อันที่จริงแล้วโบท็อกซ์ก็คือชื่อทางการค้าของสารที่มีชื่อเต็มว่า โบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ที่เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ถูกผลิตขึ้นจากเชื้อแบคทีเรียซึ่งมีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) โดยเจ้าเชื้อตัวนี้ในธรรมชาติเป็นต้นเหตุของโรคอาหารเป็นพิษที่พบได้ในมนุษย์ เช่น อาหารกระป๋องที่ปนเปื้อนเชื้อตัวนี้ ที่หากใครได้รับเข้าไปในปริมาณมากก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งเชื้อคลอสตริเดียม โบทูลินัม จะทำให้กล้ามเนื้อกระบังลมไม่ทำงานและทำให้ผู้ที่ได้รับเชื้อหยุดหายใจ 

ด้วยกลไกการออกฤทธิ์ของเจ้าเชื้อแบคทีเรียร้าย นักวิทยาศาสตร์จึงได้ทำการศึกษาต่อและพัฒนาให้มันกลายมาเป็นสารที่ใช้ในวงการความสวยความงาม โดยปัจจุบันสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ ที่ใช้กันอยู่ในประเทศไทยถูกผลิตจาก 4 บริษัท ได้แก่ Xeomin (เยอรมนี), Allergan (สหรัฐอเมริกา), Dysport (อังกฤษ) และ Nabota (เกาหลี)

สำหรับการนำสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ มาใช้งานในด้านความสวยความงามนั้น มันจะออกฤทธิ์โดยการไปจับตัวเข้ากับเซลล์ปลายประสาทเพื่อยับยั้งไม่ให้เซลล์ดังกล่าวสามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้ ซึ่งผลที่ได้ก็คือกล้ามเนื้อที่สารตัวนี้ไปจับจะไม่สามารถหดตัวได้ หรือเรียกว่ากล้ามเนื้อกลายเป็นอัมพาตชั่วคราวนั่นเอง 

โดยอาการอัมพาตนั้นจะเกิดขึ้นเฉพาะกล้ามเนื้อมัดที่ถูกฉีดโบท็อกซ์เข้าไป พร้อมกับเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 2-3 วันหลังจากที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ แล้วจะเริ่มเห็นผลได้ชัดเจนที่สุดในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก จากนั้นยังคงประสิทธิภาพในการทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตอยู่ได้นาน 3-4 เดือน เมื่อครบเวลากล้ามเนื้อก็จะค่อยๆ กลับมายืดและหดตัวได้ตามปกติเหมือนตอนก่อนฉีด และนั่นหมายความว่าใครที่ต้องการฉีดโบท็อกซ์ก็จะต้องกลับมาฉีดซ้ำอยู่เสมอหากต้องการให้ผลการรักษาคงอยู่เหมือนเดิม

อันตรายและผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกซ์

อันตรายหรือผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกซ์นั้นจริงๆ แล้วไม่ได้มาจากสารที่ฉีดเข้าไป เพราะโบท็อกซ์ทุกยี่ห้อที่ใช้งานในประเทศไทยทั้งหมดได้รับอนุญาตจากอย. ให้ใช้งานได้อย่างถูกต้องแล้ว และจะไม่ทิ้งสารตกค้างหลงเหลือในร่างกายของเราแต่อย่างใด แต่ว่าความเสี่ยงจากการฉีดโบท็อกซ์ก็ยังอาจมีเกิดขึ้นได้เช่นกัน

  1. ติดเชื้อจากการฉีด

หากใครไม่ได้ศึกษาและเลือกฉีดโบท็อกซ์กับคลินิกที่ใช้เครื่องมือไม่ได้มาตรฐานหรือกระบวนการฉีดไม่สะอาด รวมถึงเคสที่ออกข่าวอยู่บ่อยครั้งอย่างคนที่ทำการฉีดโบท็อกซ์ไม่ใช่คุณหมอที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์จริงๆ หรือที่เรามักเรียกกันว่า “หมอกระเป๋า” บุคคลเหล่านี้ไม่ได้รู้จักเทคนิคการทำให้ปราศจากเชื้อ (Sterile technique) ที่จะต้องทำทุกครั้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อนั่นเอง

  1. ตาตก

อีกหนึ่งความอันตรายจากการฉีดโบท็อกซ์ที่อาจพบได้หลังทำการฉีดที่ระหว่างคิ้วเพื่อลดริ้วรอย ในตำแหน่งที่ใกล้กันกับเปลือกตาด้านบน มีผลทำให้กล้ามเนื้อในบริเวณหนังตาเป็นอัมพาตอ่อนแรงและตกลงมาได้ ซึ่งอาการตาตกมักมีสาเหตุมาจากการฉีดโบท็อกซ์ไม่ถูกวิธีและขาดความเข้าใจ

  1. ยิ้มไม่สุด มุมปากเบี้ยว

ความอันตรายข้อสุดท้ายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อฉีดโบท็อกซ์อย่างอาการยิ้มไม่สุดหรือมุมปากเบี้ยวนั้น มักพบในคนที่ฉีดโบท็อกซ์บริเวณกราม โดยมีสาเหตุมาจากการฉีดโบท็อกซ์ผิดที่จนเกิดการ
กระจายตัวที่ผิดจุด ซึ่งจะแสดงผลออกมาในรูปแบบของการยิ้มไม่สุด แสดงสีหน้าตามปกติไม่ได้ รวมถึงมีมุมปากเบี้ยว 

โดยสาเหตุที่ทำให้การฉีดโบท็อกซ์มีความอันตรายและก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ตามมา ล้วนมาปัจจัยต่างๆ เหล่านี้

  • แพทย์ไม่ได้ชำนาญเรื่องการฉีดโบท็อกซ์

ส่วนใหญ่แล้วผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังการฉีดโบท็อกซ์จะมาจากการที่ผู้ฉีดไม่ใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจริงๆ หรือที่เรียกว่าหมอกระเป๋า จึงทำให้การฉีดโบท็อกซ์ผิดตำแหน่งหรือคลาดเคลื่อนจากจุดที่สามารถออกฤทธิ์ได้อย่างถูกต้องนั่นเอง

  • โบท็อกซ์ที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน

จริงอยู่ที่โบท็อกซ์ที่ใช้ในประเทศไทยจะได้รับการรับรองจากอย. ว่ามีความปลอดภัยใช้กับร่างกายมนุษย์ได้ แต่ก็ยังมีเคสที่มีการแอบนำเข้าโบท็อกซ์ปลอมที่ไม่ผ่านการรับรองมาแอบอ้างเป็นของแท้ และทำการฉีดโบท็อกซ์ให้กับลูกค้า

  • ปริมาณการฉีดโบท็อกซ์ไม่ถูกต้อง

คำว่ายูนิตในที่นี้หมายถึงปริมาณของโบท็อกซ์ที่ใช้ฉีด เช่น 60 ยูนิต ที่หากคำนวณไม่ถูกต้องมีการใช้มากเกินไป ก็อาจทำให้กล้ามเนื้อในจุดที่ฉีดเกิดความแข็งตึง ไม่สามารถยิ้มได้สุดหรือยกปากบนขึ้นได้ และยังรวมถึงไม่สามารถยกคิ้วได้ตามปกติ

  • การไหลของโบท็อกซ์

นี่คือหนึ่งในสาเหตุที่มาจากตัวผู้รับการฉีดโบท็อกซ์บวกกับการไม่ใส่ใจของคลินิกที่ไม่ได้ให้คำแนะนำหลังการฉีดที่ถูกต้อง เช่น มีการนอนราบหลังฉีดโบท็อกซ์ทันทีจนตัวสารที่ฉีดไหลไปอยู่ในกล้ามเนื้อที่ไม่ต้องการให้สารออกฤทธิ์ นอกจากนี้ความบริสุทธิ์ของโบท็อกซ์ก็ยังมีผลให้เกิดการไหลของตัวสารได้เหมือนกัน หากสารที่ฉีดมีความบริสุทธิ์สูงก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการไหลลดลงด้วย

การเตรียมตัวก่อนและหลังการฉีดโบท็อกซ์ควรทำอย่างไร?

อ่านมาถึงตรงนี้คุณคงเริ่มมั่นใจว่าการฉีดโบท็อกซ์ไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด เพื่อเป็นการทำให้ตัวคุณเองปลอดภัยและมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด เราแนะนำให้คุณเตรียมตัวก่อนและปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกซ์แล้วดังนี้

4 สิ่งที่คุณควรเตรียมพร้อมก่อนฉีดโบท็อกซ์

  1. งดการใช้ยากรดวิตามิน A และ AHA รวมถึงไม่สครับหน้าหรือขัดหน้าในช่วง 1-2 วันก่อนการฉีดโบท็อกซ์
  2. งดการใช้ยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDS ที่ได้แก่ Brufen, Naproxen, Motrin วิตามินอี น้ำมันปลา เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำหลังจากการฉีดโบท็อกซ์
  3. งดการดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชม. ก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์
  4. กรณีที่มีประวัติเคยเป็นโรคเริมบริเวณริมฝีปาก คุณควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำการฉีดโบท็อกซ์

11 สิ่งที่คุณควรทำหลังฉีดโบท็อกซ์แล้ว

  1. ห้ามนอนราบหรือก้มหน้าหลังจากที่ฉีดโบท็อกซ์แล้ว 4 ชม. 
  2. ห้ามกด นวด หรือทำอะไรก็ตามที่กระทบกับบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ ไม่ว่าจะเป็นการนวดหน้า สวมหมวก และสวมหมวกกันน็อก
  3. ห้ามอยู่ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูง เช่น การยืนปรุงอาหารหน้าเตาแก๊ส หรือการเข้าไปอบซาวน่า เป็นเวลา 4 ชม. หลังจากฉีดโบท็อกซ์
  4. ห้ามออกกำลังกายหนักหรือแม้แต่การเล่นโยคะเป็นเวลา 4 ชม. หลังจากที่ฉีดโบท็อกซ์
  5. ห้ามทายาหรือใช้เครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น กรดวิตามินเอ AHA วิตามินซี เป็นเวลา 24 ชม. หลังจากฉีดโบท็อกซ์
  6. หลังจากที่ฉีดโบท็อกซ์แล้ว 1-2 ชม. ให้พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเพื่อเป็นการกระจายสารเข้าสู่กล้ามเนื้อได้รวดเร็วขึ้น
  7. รอยนูนที่เกิดขึ้นจากการฉีดโบท็อกซ์จะหายไปได้เองภายในเวลา 2-3 ชม. หลังจากการฉีด
  8. หลังจากฉีดโบท็อกซ์สามารถใช้น้ำแข็งเพื่อประคบในกรณีที่คุณมีอาการปวดบวมแดงหรือช้ำได้
  9. หลังจากฉีดโบท็อกซ์แล้วสามารถใช้เครื่องสำอางได้ แต่ควรทำด้วยความนุ่มนวลและหลีกเลี่ยงการกดบริเวณที่ฉีด
  10. การฉีดโบท็อกซ์จะแสดงผลภายใน 2-7 วัน และจะเห็นผลเต็มที่ได้ภายใน 2 สัปดาห์
  11. หากมีอาการผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นให้รีบกลับมาหาคุณหมอเพื่อวินิจฉัยและทำการแก้ไขทันที

ฉีดโบท็อกซ์ที่ EY Clinic มั่นใจและปลอดภัยสำหรับคุณ

เราเชื่อว่าคำถามของคุณที่สงสัยว่า “ฉีดโบท็อกอันตรายไหม” คงถูกไขข้อข้องใจไปจนหมดแล้ว ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดควบคู่ไปกับความปลอดภัยไร้ผลข้างเคียงนั้น จะต้องทำโดยแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและเวลล์เนสที่มีประสบการณ์รวมกว่า 30 ปีจากสถาบันชั้นนำของประเทศ ที่เข้าใจถึงเทคนิคการฉีดโบท็อกซ์ที่ถูกต้อง พร้อมกับการเลือกใช้โบท็อกซ์ที่มีคุณภาพและผ่านการรับรองจากอย. 

โดยที่ EY Clinic นั้นเรามีโบท็อกซ์ทั้ง 3 ยี่ห้อที่มีข้อดีและราคาแตกต่างกัน ดังนี้

โบท็อกซ์ Nabota: มีราคาที่สบายกระเป๋ากว่าแบรนด์ที่ผลิตในยุโรปและอเมริกา

แต่ยังผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศสหรัฐอเมริกา U.S.FDA 2018 สามารถฉีดแล้วเห็นผลได้เร็วและเข้าที่ไวกว่าโบเกาหลียี่ห้ออื่น ๆ

ราคา: 50 ยูนิต 4,999 บาท และ 100 ยูนิต 8,499 บาท 

โบท็อกซ์ Allergan: ผลิตจากโปรตีนเชิงซ้อนส่วนที่ 1 และ 2 ทำให้มีโอกาสดื้อโบน้อยมาก

สามารถฉีดเข้ากล้ามเนื้อได้แม่นยำ มีความบริสุทธิ์สูง แถมยังไม่มีส่วนผสมของไขมันสัตว์ จึงทำให้เหมาะกับการฉีดเฉพาะจุดบริเวณเล็ก ๆ

ราคา: 50 ยูนิต 11,999 บาท และ 100 ยูนิต 17,999 บาท

โบท็อกซ์ Xeomin: มีความบริสุทธิ์สูง เนื้อ Botox กระจายง่าย มีความยืดหยุ่นสูง 

ฉีดแล้วสามารถขยับใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ สบายผิว ไม่หนักหน้า และทำให้โบเข้าที่เร็วกว่า

ราคา: 100 ยูนิต  15,999 บาท

ยิ่งไปกว่านั้นจะต้องฉีดโบท็อกซ์กับคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีการดูแลรักษาความสะอาดสถานที่รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้เป็นอย่างดี หากคุณสนใจอยากฉีดโบท็อกซ์ก็สามารถปรึกษา EY Clinic ด้วยการติดต่อเราได้ที่ไลน์ @EYClinicTH

เราอยากให้คุณดูดี และรู้สึกดีทุกวัน
เรามีทรีตเมนต์หลากหลายที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมสุขภาพโดยรวมของคุณ ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงโภชนาการ เรามีทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อให้คุณรู้สึกดีที่สุด