เลเซอร์กำจัดขนถาวรให้ผิวสวยเนียน มีเรื่องใดบ้างที่ควรรู้
เลเซอร์กำจัดขนถาวรให้ผิวสวยเนียน มีเรื่องใดบ้างที่ควรรู้
สาว ๆ หลายคนทุ่มเทไปกับทุกเรื่องที่ช่วยให้ผิวสวยใสจนใคร ๆ ต่างต้องทัก ซึ่งการเลเซอร์กำจัดขนถาวรก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้รักความสวยความงามตามกระแสบิวตี้เทรนด์ตอนนี้ไม่พลาดที่จะทำเช่นกัน เพราะต้องการกำจัดขนส่วนเกินที่อยู่ตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใบหน้า หนวด รักแร้ แขน หน้าแข้ง หรือแม้แต่บริเวณจุดซ่อนเร้นเพื่อให้ใส่ชุดว่ายน้ำแล้วออกมาดูเกลี้ยงเกลาสะอาดตา ไปจนถึงชุดเดรสหรือเสื้อกล้ามสวย ๆ ที่ใส่แล้วจะได้มั่นใจในทุกกิจกรรมจริง ๆ
EY Clinic จึงอยากให้คุณสาว ๆ ที่สนใจอยากกำจัดขนถาวรด้วยเลเซอร์ หรือหนุ่ม ๆ ที่คิดว่าอยากกำจัดขนที่บริเวณหนวดเคราเพราะไม่อยากโกนบ่อย ให้ได้เข้าใจถึงข้อดีรวมถึงวิธีกำจัดขนอย่างแท้จริง เพื่อที่จะได้ตัดสินใจทำเลเซอร์กำจัดขนถาวรได้อย่างมั่นใจที่สุด ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูไปด้วยกันเลย
กำจัดขนถาวรด้วยเลเซอร์ดีอย่างไร?
มีหลายคนที่สงสัยว่าการกำจัดขนถาวรนั้นมีข้อดีอย่างไร ทำไมหนุ่มสาวจำนวนไม่น้อยถึงหันมาใช้วิธีนี้เพื่อกำจัดขนตามจุดต่าง ๆ แทนการถอนขนหรือโกนขนแบบที่เคยทำมา โดยเหตุผลก็มีอยู่ราว 4 ข้อ ได้แก่
- ขนจะไม่กลับมาขึ้นอีก
เลเซอร์กำจัดขนนั้นจะเข้าไปทำให้รากขนเสื่อมลงเรื่อย ๆ จนหายไปในที่สุด หรือถ้าขนกลับมาขึ้นใหม่ก็จะช้าและบางลงมาก นอกจากนี้ตุ่มนูนที่เกิดจากการถอนขนก็จะยุบลงและหายไปอีกด้วย
- ไม่เกิดขนคุดที่ทำให้รู้สึกระคายเคือง
ใครที่กำจัดขนชั่วคราวด้วยการถอนขนเป็นประจำ ก็อาจมีขนคุดขึ้นมาจนทำให้รู้สึกระคายเคือง แต่หากกำจัดขนถาวรด้วยเลเซอร์แล้วปัญหานี้ก็จะหมดไป นั่นก็เพราะว่ารากขนได้หายไปเรียบร้อยแล้ว
- กลิ่นตัวหายไม่พึงประสงค์หายไป
เลเซอร์ที่เข้าไปทำให้รากขนฝ่อลงจนเส้นขนหายไปนั้น ยังช่วยในเรื่องกลิ่นตัวให้ลดลงอย่างมากอีกด้วย เนื่องจากต่อมเหงื่อกับต่อมกลิ่นบางส่วนได้ถูกทำลายไปพร้อมกับการกำจัดถาวรนั่นเอง
- ผิวเรียบเนียนแลดูใสขึ้น
ผิวใต้วงแขนที่ดูขาวกระจ่างใสขึ้นคือหนึ่งในผลลัพธ์หลังจากเลเซอร์กำจัดขนถาวรที่สาว ๆ หลายคนชื่นชอบ เพราะรักแร้ที่เคยดำคล้ำจากการถอนหรือโกนขน จะกลับมาดูขาวขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังยิงเลเซอร์แล้ว
รู้จักขนทุกเส้นให้มากขึ้นก่อนการกำจัดขนถาวร
ก่อนที่จะเริ่มกำจัดขนถาวรด้วยเลเซอร์ เราอยากให้คุณได้ทำความเข้าใจเรื่องเส้นขนที่อยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายกันก่อน โดยเส้นขนจะมีวงจรชีวิตที่แบ่งออกเป็น 3 ระยะ เริ่มต้นจาก ระยะเติบโต (Growth), ระยะหยุดเจริญเติบโตหรือใกล้โรยรา (Involtion) และระยะฟักตัว (Resting) ที่ทั้งสามระยะนี้จะมีวงจรที่เดินซ้ำไปเรื่อย ๆ นั่นก็คือเมื่อเส้นขนหลุดร่วงไป ต่อมขนก็จะผลิตเส้นขนใหม่ขึ้นมาแทนที่ วนแบบนี้ไปตลอดนั่นเอง ซึ่งสามารถอธิบายให้คุณได้เข้าใจดังนี้
1. วงจรเส้นขนระยะเติบโต (anagen phase)
นี่คือระยะของเส้นขอที่เรียกว่าโตเต็มไวจนถือว่าเป็นระยะที่เส้นขนมีความสมบูรณ์สูงสุด ซึ่งกว่า 80% ของเส้นขนที่อยู่บนร่างกายของเราทั้งหมดล้วนอยู่ในระยะนี้ ในส่วนของอายุของเส้นขนแต่ละเส้นจะอยู่ได้นานเฉลี่ย 3 ปี เนื่องจากเส้นขนระยะนี้จะมีเลือดมาหล่อเลี้ยงที่รากขนเพื่อให้พร้อมสำหรับการเกิดเส้นขนใหม่ และยังมีเม็ดสีที่ทำให้ขนมีสีเข้มและลักษณะคล้ายกับกระเปาะ
2. วงจรเส้นขนระยะเสื่อมสภาพ (catagen phase)
เส้นขนในระยะเสื่อมสภาพนั้นจะหยุดการเจริญเติบโต หรือกำลังเข้าสู่ช่วงที่เส้นขนพร้อมสำหรับการร่วง ซึ่งในวงจรนี้จะกินระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ และในระยะเสื่อมสภาพนี้เส้นขนที่เติบโตเต็มที่แล้วก็จะค่อย ๆ เริ่มบางลงจนกระทั่งต่อมขนได้มีการเลื่อนขึ้นมาอยู่ด้านบน
3. วงจรเส้นขนระยะพักตัว (telogen phase)
ในระยะนี้เส้นขนจะเริ่มหลุดร่วงออกมาจากต่อมขนเรื่อย ๆ โดยกินระยะเวลาประมาณ 1-3 เดือน จะร่วงหมดช้าหรือเร็วขึ้นอยู่ความหนาแน่นของเส้นขนที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลนั่นเอง
ไม่เพียงเท่านี้ ก็ยังมีปัจจัยที่ส่งผลต่อ 3 วงจรเส้นขนของแต่ละคนย่อมมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ กรรมพันธุ์ อายุ และฮอร์โมน ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ล้วนส่งผลโดยตรงต่อความหนาและสีของเส้นขน ที่สำคัญไม่แพ้ปัจจัยที่เราได้ยกตัวอย่างมา ก็คงจะเป็นลักษณะชั้นของเส้นขนทั้ง 3 ชั้น เพื่อให้ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายสามารถกำจัดขนถาวรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนี้
Outer Cuticle
มาเริ่มต้นกันที่เส้นขนชั้นนอกที่ประกอบไปด้วยเซลล์ขนรูปร่างแบนที่วางซ้อนตัวกันจนมีความหนาราว 5-10 ชั้น ซึ่งมีคีลาตินที่ช่วยให้เส้นขนหรือผมมีความแข็งแรงขึ้น อาจเรียกได้ว่าเส้นขนชั้นนี้ทำหน้าที่เหมือนกับเกราะป้องกันที่คอยปกป้องไม่ให้สิ่งสกปรกหรือมลภาวะต่าง ๆ เข้ามาทำร้ายเส้นขนของเรานั่นเอง
Hair Cortex
คือชั้นของเส้นขนที่มีความสำคัญมากที่สุดจากทั้ง 3 ชั้น ที่ประกอบไปด้วยเซลล์ขนแบนและยาวจำนวนหลายชั้นซ้อนทับกันอยู่ เรียกว่าชั้นนี้มีน้ำหนักมากถึง 90% ของเส้นขนทั้งหมดเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ ความยืดหยุ่นของเส้นขนหรือผมล้วนขึ้นอยู่กับเส้นใยโปรตีนที่มีในเส้นขนชั้นนี้ ซึ่งการใช้เลเซอร์กำจัดขนถาวรจะเข้ามาทำปฏิกิริยากับส่วนนี้มากที่สุด และยังมีเม็ดสีเมลานินที่อยู่ในเส้นขนชั้นนี้ ซึ่งสีขนหรือผมที่พวกเราเห็นแตกต่างกันไปในคนแต่ละเชื้อชาติก็มาจากเส้นขนชั้น hair cortex
Hair Medulla
สำหรับเส้นขนชั้นสุดท้ายที่เป็นแกนของขนหรือผมนั้นมีความสำคัญน้อยกว่า 2 ชั้นแรก ซึ่งมีลักษณะเป็นรูกลวงและอาจไม่มีอยู่ตลอดทั้งเส้นขน ซึ่งลักษณะเฉพาะของชั้นเส้นขนนี้จึงทำให้มันกลายเป็นตัวที่เพิ่มความหนาของเส้นขนหรือผม
มาถึงตรงนี้คุณ ๆ ที่สนใจอยากกำจัดเส้นขนถาวรคงพอเข้าใจแล้วว่าทั้งวงจรและลักษณะของชั้นเส้นขนส่งผลในเรื่องใดบ้าง ซึ่งการที่จะกำจัดขนให้ได้เต็มประสิทธิภาพที่สุดก็ต้องเลือกใช้เครื่องเลเซอร์ที่มีคลื่นความยาวแสงที่เหมาะสม เพื่อที่จะได้เข้าไปทำลายเม็ดตลอดจนรากขนให้ฝ่อและหลุดร่วงไม่กลับมาขึ้นซ้ำอีก ซึ่งคุณจะเห็นว่าเส้นขนที่ยิงเลเซอร์ไปแล้วจะเริ่มบางและสีจางลง จนในที่สุดก็จะหายไปจากบริเวณที่คุณได้กำจัดขนถาวรมาอย่างต่อเนื่องเกินกว่า 3 ครั้ง
วิธีกำจัดขนถาวรที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน
เรามั่นใจว่าคนที่สนใจจะกำจัดขนถาวรคงอยากรู้แล้วว่าปัจจุบันมีวิธีการกำจัดขนแบบไหนบ้าง เพื่อที่จะได้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนตัดสินใจเริ่มการกำจัดขนส่วนเกินที่ทำเอาคุณรู้สึกไม่มั่นใจ เรามาดูไปพร้อมกันเลย
1. กำจัดขนถาวรด้วยการจี้ไฟฟ้าหรือคลื่นวิทยุ
สำหรับการกำจัดขนถาวรด้วยวิธีแรกนี้ แพทย์จะเริ่มด้วยการประคบเย็นหรือทำให้ผิวหนังบริเวณที่จะกำจัดขนชาด้วยการทาหรือฉีดยาชา จากนั้นจะใช้เข็มเล็ก ๆ สอดเข้าไปที่รูขุมขน พร้อมกับใช้ปฏิกิริยาทางเคมีหรือความร้อน และบางครั้งอาจมีการใช้ทั้งสองวิธีผสมกันเพื่อทำลายรากขนโดยเฉพาะ
ใครที่เลือกกำจัดขนถาวรด้วยการจี้ไฟฟ้าหรือคลื่นวิทยุ คุณอาจจะต้องทำบ่อยสักหน่อยเพื่อช่วยกำจัดขนให้หมดไปอย่างถาวร โดยจำนวนครั้งที่ทำจะมากหรือน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
2. กำจัดขนถาวรด้วยเลเซอร์
วิธีการกำจัดขนด้วยเลเซอร์เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่หนุ่มสาวยุคนี้นิยมทำกันอย่างมาก โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเริ่มทาครีมเพื่อทำให้คุณรู้สึกชาและไม่เจ็บระหว่างการฉายเลเซอร์กำจัดเส้นขนในบริเวณที่ต้องการ ซึ่งแสงเลเซอร์จะเข้าไปจับกับเม็ดสีของขนที่อยู่ในวงจรระยะเติบโต
นั่นหมายความว่าหากคุณได้ฉายเลเซอร์เพื่อกำจัดเส้นขนอย่างต่อเนื่องหลาย ๆ ครั้ง เส้นขนที่งอกออกมาใหม่ก็จะมีสีที่จาง ขนาดเล็กลงเรื่อยๆ แถมยังงอกขึ้นมาช้ากว่าปกติมาก จนในที่สุดขนในบริเวณนั้นจะไม่กลับขึ้นมาอีก
เลเซอร์กำจัดขนถาวรมีกี่แบบ และแตกต่างกันยังไง?
หลังจากที่คุณเทใจเพื่อจะมาใช้การกำจัดขนถาวรด้วยเลเซอร์แล้ว ต่อมาก็ต้องมาดูว่าในปัจจุบันนั้นมีเลเซอร์กำจัดขนกี่แบบที่บรรดาคลินิกต่าง ๆ เลือกใช้ และแต่ละแบบมีข้อดีหรือข้อด้อยต่างกันอย่างไร
Diode Laser
เลเซอร์กำจัดขนแบบแรกนี้จะปล่อยแสงเลเซอร์ 2 แบบออกมาพร้อมกัน ได้แก่ ช่วงความยาวคลื่น 810 นาโนเมตร และ 940 นาโนเมตร ที่มีข้อดีตรงที่ส่งพลังงานความร้อนเข้าไปถึงผิวหนังชั้นที่อยู่ลึกได้ดีมาก ทำให้สามารถจัดการกับเม็ดสีเมลานินที่อยู่ในเส้นขนและทำให้รากขนเสื่อมสภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ยังดูดซับเซลล์เม็ดเลือดแดงที่ไปหล่อเลี้ยงเส้นขนได้เร็วเพียง 10-20 เท่านั้น จนรากขนเกิดการบาดเจ็บจนไม่สามารถผลิตเส้นขนชุดใหม่ได้เต็มที่เหมือนเดิม และในที่สุดขนก็จะขึ้นช้าลงแล้วหายไปในที่สุด
YAG Laser
เทคโนโลยีการกำจัดขนถาวรด้วยเลเซอร์ YAG นั้นเป็นการใช้เลเซอร์ช่วงความยาวคลื่น 1,064 นาโนเมตร ที่ส่งพลังงานเข้าถึงชั้นผิวหนังที่อยู่ลึกพร้อมกับชั้นไขมันเพื่อไปทำลายเม็ดสีเมลานินในเส้นขน แต่สิ่งที่คุณควรรู้ไว้ก็คือเลเซอร์ YAG เหมาะสำหรับคนที่มีเส้นขนสีอ่อนหรือไม่ได้เข้มมาก โดยได้รับความนิยมในการใช้กำจัดขนบริเวณใบหน้า หนวดเครา และรักแร้ นอกจากนี้ เลเซอร์ YAG ยังมาพร้อมเทคโนโลยี coolglide ที่เป่าลมเย็นระหว่างการทำหัตถการเพื่อให้รู้สึกเย็นสบายและไม่ระคายเคือง
ที่ EY Clinic เรามีแพ็กเกจกำจัดขนถาวรด้วยเลเซอร์ YAG ซึ่งมีราคาเริ่มต้นเพียง 799 บาทต่อครั้ง ไปจนถึงแพ็กเกจทำไม่อั้นเป็นเวลา 1 ปี ที่เริ่มเพียง 3,999 บาท เท่านั้น สามารถกำจัดขนรักแร้ หนวด ใบหน้า เครา แขน หน้าขา ต้นขา ขอบบิกินี หรือจะทำแบบบราซิเลียนและฮอลลีวูดก็ได้เช่นกัน แน่นอนว่าราคาในแต่ละจุดที่ต้องการกำจัดขนจะแตกต่างกันไป โดยแพ็กเกจสูงสุดที่เรามีคือกำจัดขนทั้งตัว ที่มีราคาเริ่ม 14,999 บาท จนถึง 99,999 บาท ทำได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งภายในเวลา 1 ปี
Rudy Laser
หลายคนอาจไม่คุ้นเคยกับชื่อเลเซอร์กำจัดขนชนิดนี้ ซึ่งมีการใช้ผลึกทับทิมที่ต้นกำเนิดของเลเซอร์ ที่จะปล่อยแสงเลเซอร์ช่วงความยาวคลื่น 694 นาโนเมตร ส่งตรงไปยังผิวหนังชั้นกลางเพื่อทำลายเม็ดสีเมลานินในเส้นขน แต่ข้อด้อยของเลเซอร์ตัวนี้ก็คือเหมาะสำหรับการกำจัดขนในคนที่มีผิวขาวอย่างชาวยุโรปมากกว่า เนื่องจากเป็นเลเซอร์กำจัดขนถาวรที่มีการคิดค้นเป็นตัวแรก ๆ ของโลกนั่นเอง
IPL
มาปิดท้ายกันด้วยเครื่อง IPL ที่ไม่ใช่เทคโนโลยีปล่อยแสงเลเซอร์กำจัดขน แต่เป็นการปล่อยพลังงานแสงในช่วงความยาวคลื่น 515-1,200 นาโนเมตร สำหรับหลักการในการกำจัดขนก็จะคล้ายกับเลเซอร์ทั้ง 3 แบบที่เราได้อธิบายไปก่อนหน้านี้ คือยิงแสงไปทำลายเม็ดสีเมลานินในเส้นขนและราก แต่ว่าก็ไม่ได้เข้าไปกำจัดได้จนถึงรากขนได้ทุกเส้น ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาด้อยกว่าแถมยังมีโอกาสที่ขนจะกลับมาขึ้นเร็วกว่าการยิงเลเซอร์อีกต่างหาก นอกจากนี้ ด้วยลำแสงของ IPL ที่มีการกระจายตัวมากกว่าเลเซอร์ที่มีคลื่นความยาวเดียว อาจส่งผลกระทบต่อผิวหนังบริเวณรอบ ๆ ที่มีการฉายแสงไปโดนได้ โดยจะรู้สึกเจ็บและมีอาการบวมแดง
กำจัดเส้นขนถาวรด้วยเลเซอร์ YAG ที่ EY Clinic คุ้มค่า ปลอดภัยสูง
ใครกำลังเจอปัญหาเส้นขนส่วนเกินขึ้นมากวนใจจนทำให้รู้สึกว่าต้องจัดการอย่างจริงจัง แล้วเริ่มมองหาคลินิกผู้เชี่ยวชาญด้านการกำจัดขนถาวรตัวจริง คุณก็สามารถเข้ามาที่ EY Clinic ที่นี่เรามีทีมแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและเวลล์เนสที่มีประสบการณ์รวมกว่า 30 ปีจากสถาบันชั้นนำของประเทศ ที่พร้อมช่วยกำจัดขนรักแร้ แขนขา จุดซ่อนเร้น หรือแม้แต่บริเวณต่าง ๆ ให้หายไปได้อย่างรวดเร็วและไม่กลับมาขึ้นซ้ำอีก ติดต่อเราได้ที่ไลน์ @EYClinicTH