รักษาสิว ฝ้า และโรคผิวหนังทุกโรค
0
min read

ลดรอยดำและรอยแดงที่เกิดจากสิวยังไง วิธีไหนทำแล้วช่วยให้หน้าใสได้แบบเร่งด่วนบ้าง?

ลดรอยดำและรอยแดงที่เกิดจากสิวยังไง วิธีไหนทำแล้วช่วยให้หน้าใสได้แบบเร่งด่วนบ้าง?

ลดรอยดำและรอยแดงที่เกิดจากสิวยังไง วิธีไหนทำแล้วช่วยให้หน้าใสได้แบบเร่งด่วนบ้าง?

หลายคนที่เคยเป็นสิวเห่อหนักเต็มหน้ามาก่อนมักจะพบปัญหารอยดำและรอยแดง ที่แม้จะไม่ได้ทำให้เจ็บปวดเหมือนตอนที่เป็นสิว แต่กลับทำให้ความมั่นใจของผู้ที่มีรอยสิวเหล่านี้ลดลง หากคุณกำลังประสบปัญหานี้อยู่เราก็ยินดีที่จะแนะนำวิธีลดรอยแดงจากสิว ไปจนถึงพาคุณไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุของการเกิด และวิธีป้องกันไม่ให้เกิดรอยแดงจากสิวผ่านบทความนี้

สาเหตุของการเกิดรอยดำและรอยแดงจากสิวที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน

ก่อนที่จะไปดูวิธีลดรอยแดงจากสิวแบบเร่งด่วน เราอยากพาคุณมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุของการเกิดรอยดำและรอยแดงจากสิว โดยสาเหตุหลักๆ ก็ล้วนมาจากสิวอุดตันหัวปิดและสิวอุดตันหัวเปิดที่มีลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ สีขาวกับตุ่มสีดำ ที่เกิดจากการอุดตันบริเวณรูเปิดของต่อมไขมัน พอไม่ได้รับการแก้ไขที่ต้นเหตุก็จะทำให้สิว
เหล่านั้นเกิดการอักเสบและติดเชื้อแบคทีเรียในที่สุด 

เมื่อสิวอักเสบก็จะมีลักษณะเป็นตุ่มแดงที่มีหนองอยู่ข้างใน ยิ่งปล่อยไว้ก็จะอักเสบขึ้นเรื่อยๆ จนสิวแข็งเป็นไตสีแดง ยิ่งกดก็ยิ่งเจ็บ ซึ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสิวหัวช้าง หรือว่าซีสต์ ต่อมาเมื่อสิวอักเสบนั้นยุบตัวลงก็จะทิ้งรอยแดงเอาไว้ เนื่องจากหลอดเลือดเกิดการขยายตัวบริเวณผิวหนังที่อักเสบ และหากสิวที่อักเสบไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องก็อาจทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวกลายเป็นรอยแดงชั่วคราวหรืออยู่นานเลยก็ได้

7 วิธีลดรอยดำรอยแดงจากสิว ภายในเวลา 2 สัปดาห์เท่านั้น

เมื่อรู้สาเหตุของการเกิดรอยสิวทั้งดำและแดงที่ทำเอาสาวๆ หลายคนต้องโบกรองพื้นและกลบผิวให้ดูเนียนขึ้นด้วยคอนซีลเลอร์กันทุกครั้งที่ออกจากบ้าน เพื่อช่วยให้คุณสามารถกลับมามีใบหน้าที่ใสไร้ร่องรอยดำและแดงของสิว ก็ต้องมาดู 7 วิธีในการลดรอยแดงและรอยดำจากสิวกันดีกว่า รับรองว่าไม่ยากและสามารถทำตามได้ทุกคนแน่นอน

1. ทาครีมเพื่อลดรอยสิว

มาเริ่มต้นกันด้วยวิธีลดรอยแดงจากสิวที่ง่ายที่สุดที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน ซึ่งโดยปกติแล้วการใช้ครีมผิวขาวมาทาจะไม่ได้ช่วยให้รอยแดงรอยดำที่เกิดขึ้นจากสิวหายไปได้ เนื่องจากรอยเหล่านี้เกิดมาจากการอักเสบที่ใต้ผิวหนัง ซึ่งคุณจะต้องเลือกใช้ครีมลดรอยสิวที่สามารถจัดการกับจุดด่างดำ รอยแดง รวมถึงรอยสิวฝังลึก โดยครีมลดรอยสิวบางตัวมีคุณสมบัติในการรักษาสิวพร้อมกับป้องกันไม่ให้เกิดสิวซ้ำไปในตัว

2. เลเซอร์เพื่อลดรอยดำรอยแดงที่เกิดจากสิว

การยิงเลเซอร์คือหนึ่งในวิธีลดรอยดำรอยแดงจากสิวที่ได้รับความนิยมจากสาวๆ ในยุคนี้ เพราะไม่ว่าจะเจอปัญหารอยสิวทั้งดำทั้งแดง หรือจะมีหลุมสิวอยู่บนใบหน้า การรักษาด้วยเลเซอร์ก็เป็นวิธีที่สามารถจัดการผิวที่มีปัญหาสิวหนักๆ ได้อย่างอยู่หมัด และยังเห็นผลได้เร็วที่สุด เมื่อเทียบกับวิธีอื่น

สำหรับวิธีลดรอยแดงจากสิวแบบเร่งด่วนนี้จะเหมาะกับสาวๆ ที่มีเวลาพักฟื้นตัวเองหลังเข้ารับการเลเซอร์ผิวที่คลินิกพอสมควร เนื่องจากผิวที่เพิ่งถูกยิงเลเซอร์มาจะมีความไวต่อแดดมาก ดังนั้นในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกคุณควรพักฟื้นและหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรง แน่นอนว่าหากคุณสามารถทำตามข้อควรระวังนี้ได้ วิธีนี้ก็ถือเป็นวิธีลดรอยแดงจากสิวที่เห็นผลได้รวดเร็วมาก ซึ่งก่อนเลเซอร์ทุกครั้งคุณควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือพร้อมกับปรึกษาคุณหมออย่างละเอียด

ที่ EY Clinic ของเรามีแพ็กเกจ AdvaClear ซึ่งเป็นเลเซอร์สำหรับลดรอยแดงและรอยดำสิว เหมาะมาก ๆ สำหรับผู้ที่มีสิวอุดตัน สิวอักเสบ และรอยแดงรอยดำจากสิวกวนใจ โดยราคาของแพ็กเกจจะมีดังนี้

  • 20 shot 799 บาท
  • 1 ครั้ง 3,299 บาท
  • 6 ครั้ง 16,495 บาท ตกครั้งละ 2,749 บาท

3. ใช้แผ่นมาส์กหน้าเพื่อลดรอยแดงจากสิว

สาวๆ คนไหนชอบใช้แผ่นมาสก์หน้าหรือ sheet mask ช่วงก่อนเข้านอน ขอบอกว่าเป็นวิธีที่ช่วยลดรอยแดงจากสิวที่ได้ผลเหมือนกัน ไม่ว่าจะเจอมลภาวะจากนอกบ้านทั้งแดดและฝุ่น ก็สามารถช่วยบำรุงผิวหน้าและฟื้นฟูให้กลับมามีผิวที่แข็งแรงขึ้น หากลองหาแผ่นมาสก์หน้าสูตรที่ช่วยลดรอยดำรอยแดงจากสิว แล้วมาสก์หน้าทุกวันหรือจะวันเว้นวันก็ได้ตามที่คุณสะดวก เพียงเท่าใบหน้าของคุณก็จะกลับมากระจ่างใสได้ไม่ยาวแล้ว แต่วิธีนี้อาจต้องลงทุนเพื่อหาซื้อแผ่นมาสก์หน้าที่ได้ผลดีและเหมาะใบหน้าของคุณสักหน่อย

4. มาสก์หน้าด้วยสมุนไพรเพื่อลดรอยแดงจากการกดสิว

สำหรับใครที่ชื่นชอบความสมุนไพรสไตล์ธรรมชาติ การมาสก์หน้าด้วยสมุนไพรไทยก็ถือเป็นวิธีลดรอยแดงรอยดำจากสิวที่ดีไม่แพ้วิธีอื่นเลย เพราะมีสูตรมากมายที่นิยมใช้มาตั้งแต่รุ่นคุณแม่ โดยเฉพาะสูตรว่านหางจระเข้ผสมกับมะนาวที่ฮอตฮิตมาตั้งแต่อดีต นั่นก็เพราะว่าว่านหางจระเข้เป็นสมุนไพรที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดการอักเสบของสิว ส่วนมะนาวก็มีกรดผลไม้หรือที่เรียกว่า กรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHA) ที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดและกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา 

แน่นอนว่าวิธีมาสก์หน้าด้วยสูตรนี้ก็ไม่ได้ยากอะไรเลย เพียงแค่คุณนำว่านหางจระเข้มาขูดเอาวุ้นใสๆ ที่อยู่ด้านในออกมาผสมกับน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นคนให้เข้ากันแล้วนำมาทาให้ทั่วใบหน้าและทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ซึ่งเมื่อทำแบบสัปดาห์เว้นสัปดาห์คุณก็จะสังเกตเห็นว่าใบหน้ามีจุดด่างดำและรอยแดงที่เกิดจากสิวลดลง แถมผิวยังกระจ่างใสและนุ่มชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วย

5. สครับหน้าเพื่อลดรอยแดงจากสิว

หากสาวๆ คนไหนเคยเป็นสิวมาหนักมากจนใบหน้ามีรอยดำจากสิวอยู่ทั่วไปหมด การสครับหน้าก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีลดรอยดำรอยแดงจากสิวที่เห็นผลได้ดีอีกวิธีหนึ่ง เพราะเมื่อคุณสครับหน้าก็จะไปช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกและกระตุ้นให้เซลล์ผิวเกิดขึ้นจนมีสีผิวที่สม่ำเสมอกัน 

ส่วนสูตรสครับหน้าที่เหมาะสำหรับการลดรอยจากสิวนั้น แนะนำเป็นสูตรโยเกิร์ต น้ำมะนาว และน้ำตาลทรายแดง ซึ่งสูตรนี้ไม่ได้ออกฤทธิ์แรงจนเกินไปนัก เนื่องจากน้ำตาลทรายแดงจะค่อยๆ ละลายพร้อมช่วยขัดผิวเก่าที่เสื่อมสภาพออกไปโดยไม่บาดผิวหน้าแต่อย่างใด ส่วนโยเกิร์ตก็จะเข้ามาเพิ่มเติมความชุ่มชื้นและกระชับรูขุมขน ไม่เพียงเท่านี้น้ำมะนาวยังช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้อีกด้วย แค่คุณผสมทั้ง 3 อย่างนี้เข้าด้วยกันและนำมานวดเบาๆ ทั่วใบหน้าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เท่านี้รอยดำรอยแดงจากสิวก็จะจางลงแล้ว

6. ดื่มน้ำมะเขือเทศเพื่อลดรอยดำรอยแดงจากสิว

ใครเป็นสายเฮลธีชอบดื่มน้ำผักผลไม้เป็นชีวิตจิตใจ ขอบอกว่าการดื่มน้ำมะเขือเทศคือหนึ่งในวิธีลดรอยแดงจากสิวที่ได้ผลดีเหมือนกัน นั่นก็เพราะในมะเขือเทศมีไลโคปีนหรือสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอริ้วรอยก่อนวัย รวมถึงลดอาการอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกาย แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินซีที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวแข็งแรงขึ้น มีความยืดหยุ่นสูง และสามารถฟื้นตัวได้รวดเร็ว นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการดื่มน้ำมะเขือเทศถึงช่วยลดรอยดำรอยแดงที่เกิดจากสิวได้นั่นเอง

7. กินอาหารเสริมเพื่อลดรอยจากสิว

ปิดท้ายกันด้วยการกินอาหารเสริมสำหรับสาวๆ คนไหนที่มีเวลาน้อยและอยากให้รอยดำรอยแดงจากสิวหายไวๆ โดยวิตามินซีจัดเป็นหนึ่งในอาหารเสริมที่ช่วยเรื่องการลดรอยสิวและฟื้นฟูสภาพผิวทั่วไปได้ดีมาก เนื่องจากวิตามินซีจะเข้าไปกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนเพื่อซ่อมแซมเซลล์ผิว และหากอยากให้เห็นผลก็ควรกินอาหารเสริมเป็นประจำเพื่อที่รอยดำรอยแดงจากสิวจะได้จางลงได้อย่างรวดเร็ว

การป้องกันการเกิดรอยแดงจากสิวทำอย่างไร?

หากสาวๆ คนไหนอยากตัดไฟตั้งแต่ต้นลมด้วยการเลือกที่จะป้องกันไม่ให้เกิดรอยดำรอยแดงจากสิว เราก็ยินดีที่จะบอกถึง 6 ข้อควรปฏิบัติหากคุณไม่อยากให้สิวที่เกิดบนใบหน้าทิ้งรอยสิวเอาไว้

  • ห้ามแกะ บีบ หรือเกาสิวเอง

เชื่อว่าไม่ทุกคนที่เคยมีปัญหาเรื่องสิวล้วนผ่านการแกะ บีบ หรือเกาสิวจนหลุดออกมาด้วยตัวเองกันหมดแล้ว แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการทำแบบนั้นจะไปกระตุ้นให้เนื้อเยื่อบริเวณผิวหนังและรูขุมขนเกิดการอักเสบมากขึ้น จนเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นแผลเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นก็เพราะว่ามือและเล็บที่คุณใช้บีบ แกะ เกาสิวนั้นอาจมีเชื้อโรคสะสมอยู่ ส่งผลให้ผิวเกิดการระคายเคือง ติดเชื้อ และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยแดงบนใบหน้าขึ้นมาได้ ดังนั้นงดบีบสิว สครับ และขัดหน้าก่อนจะดีที่สุด

  • ทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว

ใครที่ไม่ค่อยได้ทาครีมกันแดดเมื่อออกนอกบ้าน ขอบอกว่าคุณมีความเสี่ยงที่รอยสิวจะกลายเป็นรอยแดงและรอยดำมากขึ้นกว่าปกติ เพราะรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่อยู่ในแสงแดดจะเข้าไปกระตุ้นให้ผิวสร้างเม็ดสีเมลานินจนผิวของคุณหมองคล้ำขึ้น โดยเฉพาะบริเวณรอยแดงรอยดำที่เดิมก็บอบบางอยู่แล้ว จะยิ่งมีความแดงและดำมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นหากเป็นไปได้ให้คุณทาครีมกันแดดที่ใบหน้าเพื่อปกป้องผิวของคุณจากแสงแดดเป็นประจำทุกวัน 

  • ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในแต่ละวัน

การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยลดโอกาสที่รอยสิวจะกลายเป็นรอยดำรอยแดงที่เข้มขึ้นกว่าเดิมได้ เพราะหากร่างกายขาดน้ำผิวก็จะแห้งและทำการผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนจนกลายเป็นสิวในที่สุด ดังนั้นแนะนำให้ดื่มน้ำให้เพียงพอแล้วผิวของคุณจะมีความชุ่มชื้นและลดโอกาสการเกิดสิว แถมยังช่วยขับสารพิษและช่วยให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย

  • กินอาหารเสริมเพื่อช่วยบำรุงผิว

บางคนไม่ค่อยได้กินผักผลไม้ในมื้ออาหารเท่าไหร่ จึงส่งผลให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นในแต่ละวัน ไม่เพียงเท่านี้ยังทำให้ผิวอ่อนแอลงเมื่อเจอกับมลภาวะภายนอกบ้าน นั่นหมายความว่าคุณควรกินอาหารเสริมอย่างบรรดาวิตามินบำรุงผิว เช่น วิตามินซี วิตามินบี หรือแม้แต่คอลลาเจน ก็ล้วนช่วยป้องกันไม่ให้เกิดรอยดำรอยแดงหลังจากที่เพิ่งหายจากสิวได้

  • ใช้สกินแคร์ให้กับเหมาะสภาพผิว

เมื่อดื่มน้ำ กินอาหารเสริมที่ช่วยให้ทุกอย่างพร้อมจากภายในร่างกายแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องเลือกสกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณเอง นั่นก็เพราะว่าถ้าใช้สกินแคร์ที่ถูกกับผิวจะช่วยให้ผิวของคุณฟื้นฟูตัวเองได้ไวและลดโอกาสที่จะเกิดสิวได้พร้อมกัน ซึ่งวิธีเลือกก็เพียงดูสกินแคร์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน ไม่สร้างความระคายเคืองต่อผิว มีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบ และสามารถช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวให้กลับมาแข็งแรงกว่าเดิม

  • ปรึกษาและรับคำแนะนำจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ

มาปิดท้ายกันด้วยวิธีที่ง่ายและได้ผลดีอย่างการเข้าไปปรึกษาคุณหมอที่เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยตรง ซึ่งใครที่มีรอยดำรอยแดงจากสิวค่อนข้างมากจะยิ่งช่วยให้คุณกลับมามีใบหน้าที่กระจ่างใสไร้จุดด่างดำได้เร็วขึ้น เพราะคุณหมอสามารถวินิจฉัยถึงสาเหตุของการเกิดสิว รวมถึงให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับการดูแลผิวที่เป็นสิวอย่างถูกต้อง และส่งผลให้รอยดำรอยแดงบนใบหน้าของคุณจางลงได้อย่างรวดเร็ว

รีวิวการแก้รอยดำรอยแดงจากสิวจากผู้มีปัญหาตัวจริง

หากคุณลองใช้วิธีธรรมชาติเพื่อแก้ปัญหารอยดำรอยแดงจากสิวแล้วแต่ยังไม่ได้ผล ก็สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสิวและผิวหนังของเรา เพื่อดูว่าปัญหารอยดำรอยแดงบนใบหน้าของคุณสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีไหนได้บ้าง และนี่คือรีวิวจากคนที่เราเคยช่วยเปลี่ยนใบหน้าให้กลับมาเรียบเนียนใสกว่าเดิม

แก้ไขปัญหารอยแดงหรือรอยดำจากสิวแบบเห็นผลได้เร็วที่ EY Clinic

วิธีลดรอยดำรอยแดงจากสิว สาเหตุของการเกิด รวมถึงวิธีลดรอยและการป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นทั้งหมดนี้ จะช่วยให้คุณสามารถกลับมามีใบหน้าที่เรียบเนียนสว่างใสได้เหมือนเดิม สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาการมีสิวอักเสบหรือมีรอยดำรอยแดง คุณสามารถปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและเวลล์เนสที่มีประสบการณ์รวมกว่า 30 ปีของ EY Clinic ได้ ซึ่งคุณจะได้รับคำแนะนำดีๆ ที่ช่วยให้คุณกลับมามีใบหน้าอันไร้รอยสิวได้อย่างแน่นอน ติดต่อเราได้ที่ไลน์ @EYClinicTH

เราอยากให้คุณดูดี และรู้สึกดีทุกวัน
เรามีทรีตเมนต์หลากหลายที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมสุขภาพโดยรวมของคุณ ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงโภชนาการ เรามีทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อให้คุณรู้สึกดีที่สุด