ไฮฟู ยกกระชับ

ยกกระชับย้อนวัยด้วยเทคโนโลยี hifu hi-queen
หลังทำ Ultraformer ควรดูแลตัวเองอย่างไร?
ไฮฟู ยกกระชับ
หลังทำ Ultraformer ควรดูแลตัวเองอย่างไร?
Ultraformer คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง หรือ HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) ค่ะ โดยคลื่นพลังงานเสียงที่ถูกปล่อยลงสู่ชั้นผิวจะเปลี่ยนเป็นความร้อน ซึ่งทำให้เนื้อเยื่อหดตัวและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ค่ะ ซึ่ง Ultraformer มีความโดดเด่นที่เทคโนโลยี MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) พร้อมหัวยิงพลังงานหลายขนาด ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแม่นยำให้การรักษามากขึ้นค่ะ Ultrafomer ทำงานได้ลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า ทำให้สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังส่งพลังงานได้ลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous fat) ซึ่งช่วยกระชับ เช่น บริเวณเหนียง แก้ม ต้นแขน และต้นขาได้ค่ะ

สรุปสาระสำคัญ

  • Ultraformer คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ หรือ HIFU
  • หลังทำ Ultraformer ผิวอาจรู้สึกปวด ตึง บวมแดง หรือไวต่อการสัมผัสเล็กน้อย
  • หลังทำ Ultraformer ครั้งแรก จะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลง 10-20% ได้ทันที 
  • หลังทำ Ultraformer ควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
  • หลังทำ Ultraformer ควรหลีกเลี่ยงการเลเซอร์ ซาวน่า และกิจกรรมที่ใช้ความร้อนเป็นเวลา 7–14 วัน 
  • ผลลัพธ์ของ Ultraformer อยู่ได้นาน 6 เดือน

ก่อนไปดูว่าหลังทำ Ultraformer มีข้อห้ามและวิธีดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง เรามาทบทวนกันก่อนค่ะ ว่า Ultraformer คืออะไร 

Ultraformer คืออะไร?

Ultraformer คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง หรือ HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) ค่ะ โดยคลื่นพลังงานเสียงที่ถูกปล่อยลงสู่ชั้นผิวจะเปลี่ยนเป็นความร้อน ซึ่งทำให้เนื้อเยื่อหดตัวและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ค่ะ 

ซึ่ง Ultraformer มีความโดดเด่นที่เทคโนโลยี MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) พร้อมหัวยิงพลังงานหลายขนาด ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแม่นยำให้การรักษามากขึ้นค่ะ 

Ultrafomer ทำงานได้ลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า ทำให้สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังส่งพลังงานได้ลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous fat) ซึ่งช่วยกระชับ เช่น บริเวณเหนียง แก้ม ต้นแขน และต้นขาได้ค่ะ

ประโยชน์ของ Ultraformer

Ultraformer ถือเป็นหัตถการที่เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ต้องการยกกระชับผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้าให้เรียว และยังช่วยกระชับสัดส่วนในบางจุดของร่างกายได้ด้วยค่ะ 

  • ยกกระชับผิวหน้า แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ด้วยการกระตุ้นคอลลาเจน 
  • ลดเลือนริ้วรอยในบริเวณที่ต้องการที่บอบบางได้ เช่น รอบดวงตา
  • สามารถกระตุ้นการสลายตัวของไขมันใต้ผิวหนังได้ ช่วยกระชับสัดส่วน เช่น บริเวณแก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา หรือหน้าท้อง
  • ปลอดภัย ไม่ทำให้ผิวไหม้ ไม่มีทิ้งแผล และไม่ต้องพักฟื้น
  • เห็นผลทันที 10-20% หลังทำ และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นใน 2-3 เดือน

หลังทำ Ultraformer มีผลข้างเคียงอย่างไร

หลังทำ Ultraformer III ผิวจะรู้สึกปวดหรือตึง ผิวอาจมีรอยแดง และในบางคนอาจมีอาการบวมเล็กน้อย หรือรู้สึกผิวไวต่อการสัมผัสค่ะ ซึ่งอาการเหล่านี้จะบรรเทาลงไปเองในช่วง 1-2 วัน และสามารถทานยาแก้ปวดเพื่อลดอาการได้ค่ะ

วิธีดูแลผิวและข้อห้ามหลังทำ Ultraformer 

หลังทำ Ultraformer III มีข้อห้ามและวิธีดูแลตัวเองเพื่อให้ช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วและเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนขึ้นดังนี้ค่ะ

  • ไม่นวด กด หรือเกาผิวแรง ๆ บริเวณที่ทำ
  • หากมีอาการปวดหรือตึงบริเวณผิวหลังทำ Ultraformer สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้
  • ทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน เพื่อป้องกันผิวจากแสงแดด
  • ทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำ เพื่อให้ความชุ่มชื้นกับผิวอย่างสม่ำเสมอ 
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เนื่องจากทั้งแอลกอฮอล์และนิโคตินมีผลเสียต่อกระบวนการผลิตคอลลาเจน
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและฟื้นตัวเร็วขึ้น
  • หลังทำ Ultraformer ควรหลีกเลี่ยงการเลเซอร์ ซาวน่า และกิจกรรมที่ใช้ความร้อน เป็นเวลา 7–14 วัน 

อย่างไรก็ดี สำหรับคนที่ทำ Ultraformer ร่วมกับหัตถการอื่น อย่าลืมปรึกษาแพทย์ในเรื่องของการเว้นระยะเวลาให้เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและความปลอดภัยนะคะ 

หลังทำ Ultraformer กี่วันเห็นผล

หลังทำ Ultraformer III จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีประมาณ 20% ค่ะ และผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 2–3 สัปดาห์ค่ะ

หลังทำ Ultraformer ผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม

ผลลัพธ์ของ Ultraformer III อยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือนค่ะ

หลังทำ Ultraformer ควรกลับมาทำซ้ำตอนไหน

โดยทั่วไปแล้ว หลังทำ Ultraformer ครั้งแรก แพทย์จะแนะนำให้ทำครั้งที่ 2 หลังจากผ่านไป 2-3 เดือนค่ะ จากนั้นสามารถทำซ้ำได้ทุก ๆ 6 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์ค่ะ

กระชับผิวด้วย Ultraformer ที่ EY Clinic

หลังทำ Ultraformer แล้วเราควรดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ งดเครื่องดื่มแอลกฮอล์และการสูบบุหรี่ และไม่ทำหัตถการที่ใช้ความร้อนในช่วง 2 สัปดาห์แรกค่ะ และถึงแม้ว่า Ultraformer จะเป็นหัตถการที่ปลอดภัย ไม่ทิ้งแผล และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือก็ยังเป็นเรื่องสำคัญเสมอค่ะ โดยเราควรเลือกคลินิกที่มีใบประกอบสถานพยาบาลชัดเจน มีแพทย์เป็นผู้ดำเนินการ และอย่าลืมอ่านรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงก่อนตัดสินใจเสมอค่ะ 

สำหรับคนที่สนใจยกกระชับผิวด้วย Ultraformer แต่ยังไม่มีคลินิกในใจ แวะมาปรึกษาหมอได่ที่ EY Clinic ค่ะ โดยเราพร้อมดูแลคุณอย่างใส่ใจในทุกขั้นตอนการรักษา มีการประเมินสภาพผิวและออกแบบแผนการรักษาให้เหมาะสมก่อนเริ่ม และไม่มีการยัดเยียดคอร์สที่ไม่จำเป็นแน่นอนค่ะ 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Ultraformer

Ultraformer ทำทุกกี่เดือน?

โดยทั่วไป ควรทำทุก 6 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์ค่ะ แต่หากเป็นการทำครั้งแรก แพทย์จะนัดติดตามผลการรักษาในช่วง 2-3 เดือนเพื่อประเมินและนัดทำหัตถการครั้งต่ออย่างเหมาะสมค่ะ

ทำ Ultraformer กี่ช็อตถึงจะเห็นผล?

จำนวนช็อตของ Ultraformer III ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำค่ะ โดยทั่วไปหากทำเฉพาะใบหน้าอาจใช้ประมาณ 200–400 ช็อต หากทำทั้งใบหน้าและลำคอจะใช้ 500–800 ช็อต ในขณะที่ส่วนร่างกาย เช่น แขน ขา หรือหน้าท้องจะใช้ 600–1500 ช็อตค่ะ

Ultraformer กับ HIFU ต่างกันอย่างไร?

Ultraformer III เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อจาก HIFU ค่ะ โดยใช้ทั้ง Micro และ Macro-Focused Ultrasound (MMFU) ทำให้ยิงพลังงานได้แม่นยำและปรับระดับความลึกได้หลากหลายกว่า HIFU ค่ะ

EY Clinic เป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านสิว หลุมสิว และ โรคผิวหนัง

ที่ ey clinic เราเชื่อว่าการดูแลผิวที่ดี เริ่มต้นจากความเข้าใจในปัญหาของแต่ละคน ทีมแพทย์ของเรานำโดย พญ.พัจนภา เวชอนุรักษ์ (หมอผึ้ง) แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง จากสถาบันโรคผิวหนัง พร้อมด้วยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์รวมกันมากกว่า 30 ปี* ในการดูแลปัญหาผิวหลากหลายรูปแบบ ทั้งสิว หลุมสิว ฝ้า ปรับรูปหน้า และ โรคผิวหนัง

เราให้ความสำคัญกับการวินิจฉัยอย่างแม่นยำ เพื่อออกแบบแนวทางการรักษาเฉพาะบุคคล โดยอิงจากหลักวิชาการทางการแพทย์เป็นหลัก ไม่ใช้การโฆษณาเกินจริง และไม่แนะนำสิ่งที่เกินความจำเป็น

คุณหมอและทีมให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา ดูแลอย่างต่อเนื่อง พร้อมติดตามผลเพื่อให้ผิวของคุณแข็งแรงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ภายใต้บรรยากาศที่เป็นกันเอง สะดวก และเชื่อถือได้

รูป B&A Ultraformer

หลังทำ Ultraformer ควรดูแลตัวเองอย่างไร?
Dr. Patnapa Vejanurug
Sep 11, 2025
Ultraformer vs Ulthera ต่างกันอย่างไร? อันไหนดีกว่ากัน?
ไฮฟู ยกกระชับ
Ultraformer vs Ulthera ต่างกันอย่างไร? อันไหนดีกว่ากัน?
ทั้ง Ultraformer และ Ulthera คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวที่ตอบโจทย์คนที่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่ต้องการใช้ตัวยา และต้องการหัตถการที่เห็นผลได้เร็วค่ะ ในบทความนี้เราจะมาสำรวจความเหมือนและความต่างของ Ultraformer vs Ulthera ไปเรียนรู้กันว่าตัวไหนโดดเด่นอย่างไร และเครื่องยกกระชับยี่ห้อไหน เหมาะกับเราที่สุดค่ะ

ทั้ง Ultraformer และ Ulthera คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวที่ตอบโจทย์คนที่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่ต้องการใช้ตัวยา และต้องการหัตถการที่เห็นผลได้เร็วค่ะ ในบทความนี้เราจะมาสำรวจความเหมือนและความต่างของ Ultraformer vs Ulthera ไปเรียนรู้กันว่าตัวไหนโดดเด่นอย่างไร และเครื่องยกกระชับยี่ห้อไหน เหมาะกับเราที่สุดค่ะ

สรุปสาระสำคัญ

  • Ultraformer และ Ulthera ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ (HIFU) ในการยกกระชับผิว
  • Ultraformer และ Ulthera ส่งพลังงานไปลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า
  • Ulthera มีเทคโนโลยี DeepSEE หรือหน้าจอแสดงระดับความลึกของผิวขณะรักษา
  • Ulthera ให้ผลลัพธ์ยาวนานถึง 12 เดือน ในขณะที่ Ultraformer ให้ผลลัพธ์ประมาณ 6 เดือน

Ultraformer คืออะไร?

Ultraformer คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัดที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงความเข้มข้นสูงแบบโฟกัส (High-Intensity Focused Ultrasound: HIFU) เพื่อส่งพลังงานความร้อนลงสู่ผิวชั้นลึก โดยเฉพาะชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวเดียวกับที่แพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า

กลไกการทำงานของ HIFU คือการปล่อยคลื่นเสียงแบบเฉพาะเจาะจงลงไปยังระดับความลึกที่กำหนด ทำให้เกิดความร้อนในจุดเล็ก ๆ (Thermal Coagulation Point) ส่งผลให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นหดตัวและกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว ซึ่งช่วยให้ผิวดูยกกระชับขึ้น ลดเลือนริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้ดูเรียวอย่างเป็นธรรมชาติ

Ultraformer โดดเด่นด้วยหัวที่สามารถปรับระดับความลึกได้หลายระดับ ตั้งแต่ผิวชั้นตื้นไปจนถึงชั้นลึก ทำให้สามารถดูแลผิวได้หลายปัญหาในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นความหย่อนคล้อย ริ้วรอย หรือไขมันสะสมบริเวณใบหน้าและลำคอ

Ulthera คืออะไร?

Ulthera หรือที่รู้จักในชื่อ Ultherapy คือเทคโนโลยียกกระชับผิว HIFU เหมือนกับ Ultraformer ค่ะ แต่จะมีความพิเศษที่เทคโนโลยี DeepSEE® หรือจอแสดงผลซึ่งทำให้สามารถเห็นภาพระดับความลึกของชั้นผิวได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้แพทย์มองเห็นโครงสร้างผิวได้ขณะรักษา และสามารถยิงพลังงานได้อย่างแม่นยำค่ะ Ulthera 

ในด้านของพลังงาน Ulthera ส่งคลื่นอัลตร้าซาวน์ลงสู่ชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนเหมือนกับ Ultraformer ค่ะ แต่จุดโฟกัสพลังงานของ Ulthera จะใหญ่กว่า ทำให้อาจรู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ เล็กน้อยขณะทำ อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่นานกว่าค่ะ

อายุผลลัพธ์ Ultraformer vs Ulthera

  • Ultraformer ให้ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน
  • Ulthera ให้ผลอยู่ได้ยาวนาน 10–12 เดือน

โดยเราจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้บางส่วนทันทีหลังทำเสร็จ และจะเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 2–3 เดือนค่ะ

Ultraformer vs Ulthera เหมือนกันอย่างไร?

  • ใช้เทคโนโลยี HIFU พลังงานลงลึกได้ถึงชั้น SMAS
    ทั้ง Ultraformer และ Ulthera ใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียงความเข้มข้นสูง หรือ HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เหมือนกัน สามารถกระตุ้นการยกกระชับผิวถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการศัลยกรรมดึงหน้า 
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยยกกระชับผิว และลดริ้วรอย
    ทั้ง Ultraformer และ Ulthera ส่งความร้อนไปถึงผิวชั้น SMAS ทำให้คอลลาเจนเกิดการหดตัวและกระตุ้นให้เกิดการสร้างใหม่ 
  • ปลอดภัย ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น
    สามารถใช้ได้กับหลากหลายบริเวณ เช่น ใบหน้า ลำคอ หน้าท้อง หรือต้นแขน โดยไม่ต้องพักฟื้น ไม่ทำให้ผิวไหม้ และไม่มีรอยแผล

Ultraformer vs Ulthera ต่างกันอย่างไร?

  • Ulthera มีจุดโฟกัสพลังงานที่ใหญ่กว่า Ultraformer 
  • Ulthera มีเทคโนโลยี DeepSEE ที่แสดงรายละเอียดของชั้นผิวแบบเรียลไทม์ เหมาะกับการรักษาที่ต้องการความแม่นยำและละเอียด เช่น รอบดวงตา หรือรอบปาก
  • Ulthera ให้ผลลัพธ์ยาวนานกว่า Ultraformer
  • ระหว่างการรักษา Ulthera จะมีความเจ็บปวดกว่า Ultraformer เล็กน้อย 
  • Ultraformer เหมากับการดูแลบริเวณใหญ่ เช่น ใบหน้า ลำคอ หรือส่วนอื่นของร่างกาย ในขณะที่ Ulthera จะเน้นการยกกระชับใบหน้าโดยเฉพาะ

Ultraformer vs Ulthera อันไหนเหมาะกับใคร

ทั้ง Ultraformer และ Ulthera เป็นทางเลือกการยกกระชับที่เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการผ่าตัด หรือใช้หัตถการตัวยาอย่างฟิลเลอร์และโบท็อกซ์ค่ะ แต่ทั้งสองตัวก็มีความต่างกันอยู่อย่างชัดเจน เราสามารถสรุปได้กลุ่มคนที่เหมาะกับ Ultraformer กับ Ulthera ได้คร่าว ๆ ดังนี้ค่ะ

Ultraformer เหมาะกับใคร?

  • คนที่อยากยกกระชับทั้งใบหน้าและลำคอ เพราะเครื่องนี้มีหัวยิงหลายขนาด ใช้ได้กับผิวบริเวณที่กว้างและลึก
  • คนที่ต้องการสลายไขมันที่สะสมบริเวรแก้ม เหนียง หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น ต้นแขน ต้นขา
  • คนที่มีงบประมาณจำกัด โดย Ultraformer มีราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่า Ulthera

Ulthera เหมาะกับใคร?

  • คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย โดยเฉพาะในคนอายุ 30 ปีขึ้นไป
  • คนที่มีปัญหาริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อยในจุดที่ต้องการความละเอียด และแม่นยำ เช่น รอบดวงตา หรือรอบปาก
  • คนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน โดยไม่ต้องเข้าทำหัตถการหลายครั้ง

Ultraformer vs Ulthera: เครื่องยกกระชับ อันไหนดีกว่า? 

หมอขอสรุปว่า

  • Ultraformer เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับอย่างรวดเร็ว โดยเหมาะกับบริเวณใหญ่กรอบหน้า แก้ม ลำคอ หรือต้นแขน และมีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า
  • Ulthera เหมาะกับการรักษาในบริเวณที่ต้องการความแม่นยำ เช่น รอยดวงตา และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าค่ะ

อย่างไรก็ดี หากอยากให้แน่ใจว่า เครื่องยกกระชับตัวไหนดีที่สุดหรือเหมาะกับเราที่สุด สามารถเข้ามาปรึกษาหมอได้ที่ EY Clinic ค่ะ โดยเราจะมีการประเมินสภาพผิวและออกแบบการรักษาก่อนเริ่มทุกครั้ง ไม่มีการยัดเยียดคอร์สที่ไม่จำเป็น และพร้อมอยู่กับคุณในทุกชั้นตอนด้วยความใส่ใจค่ะ 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Ultraformer และ Ulthera

ทำ Ultraformer กับ Ulthera มีผลข้างเคียงหรือไม่?

ทั้ง Ultraformer III และ Ulthera อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ผิวบวมแดง ช้ำ หรือรู้สึกปวดตึง ๆ ค่ะ แต่ไม่เป็นอันตราย และมักหายเองภายใน 2-3 วันค่ะ

ทำ Ultraformer กับ Ulthera หน้าบวมไหม และกี่วันเห็นผล?

หลังทำ Ultraformer III กับ Ulthera อาจมีอาการบวมแดงหรือปวดตึงเล็กน้อย ซึ่งสามารถประคบเย็นและทานยาแก้ปวดเพื่อลดอาการได้ค่ะ โดยอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปเองภายใน 2-3 วัน สำหรับผลลัพธ์ Ultraformer III จะเห็นได้ทันที 10-20% หลังทำครั้งแรกและชัดเจนขึ้นภายใน 2–3 เดือนค่ะ ส่วน Ulthera จะเห็นผลเริ่มต้นราว 20% เช่นกันและชัดเจนขึ้นภายใน 1–2 เดือนค่ะ

ทำ Ultraformer กับ Ulthera ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?

Ultraformer III ให้ผลลัพธ์นานประมาณ 6 เดือน ส่วน Ulthera ให้ผลลัพธ์ยาวนานถึง 12 เดือนค่ะ

ทำ Ultraformer กับ Ulthera เจ็บไหม?

ระหว่างทำ Ultraformer III และ Ulthera อาจรู้สึกเจ็บดีด ๆ หรืออุ่นผิวเล็กน้อยค่ะ ซึ่งโดยทั่วไป Ulthera จะรู้สึกเจ็บมากกว่า Ultraformer III เพราะใช้จุดโฟกัสพลังงานที่ใหญ่กว่าค่ะ

EY Clinic เป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านสิว หลุมสิว และ โรคผิวหนัง

ที่ ey clinic เราเชื่อว่าการดูแลผิวที่ดี เริ่มต้นจากความเข้าใจในปัญหาของแต่ละคน ทีมแพทย์ของเรานำโดย พญ.พัจนภา เวชอนุรักษ์ (หมอผึ้ง) แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง จากสถาบันโรคผิวหนัง พร้อมด้วยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์รวมกันมากกว่า 30 ปี* ในการดูแลปัญหาผิวหลากหลายรูปแบบ ทั้งสิว หลุมสิว ฝ้า ปรับรูปหน้า และ โรคผิวหนัง

เราให้ความสำคัญกับการวินิจฉัยอย่างแม่นยำ เพื่อออกแบบแนวทางการรักษาเฉพาะบุคคล โดยอิงจากหลักวิชาการทางการแพทย์เป็นหลัก ไม่ใช้การโฆษณาเกินจริง และไม่แนะนำสิ่งที่เกินความจำเป็น

คุณหมอและทีมให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา ดูแลอย่างต่อเนื่อง พร้อมติดตามผลเพื่อให้ผิวของคุณแข็งแรงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ภายใต้บรรยากาศที่เป็นกันเอง สะดวก และเชื่อถือได้

แวะเข้ามาปรึกษาคุณหมอ ได้ที่ EY Clinic หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ @EYClinicTH ค่ะ 

Ultraformer และ Ulthera

B&A Ultraformer

Ultraformer vs Ulthera ต่างกันอย่างไร? อันไหนดีกว่ากัน?
Dr. Patnapa Vejanurug
Sep 11, 2025
เปรียบเทียบ HIFU vs Ultraformer สองเทคโนโลยียกกระชับต่างกันอย่างไร?
ไฮฟู ยกกระชับ
เปรียบเทียบ HIFU vs Ultraformer สองเทคโนโลยียกกระชับต่างกันอย่างไร?
HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่มีความเข้มข้นสูงค่ะ โดยเมื่อยิงพลังงานจะทำให้เกิดความร้อนในจุดเล็ก ๆ (Thermal Coagulation Point) ส่งผลให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นหดตัวและกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับและเรียบเนียนยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดค่ะ HIFU เป็นหัตถการยกกระชับที่ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่สร้างแผล และไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและความเสี่ยงต่ำมาก ๆ ทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดูแลผิวและเสริมความมั่นใจที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจค่ะ

สรุปสาระสำคัญ

  • HIFU คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่มีความเข้มข้นสูง
  • พลังงานคลื่นเสียงทำให้คอลลาเจนและเส้นใยต่าง ๆ ในชั้นผิวหดตัว และเกิดการกระตุ้นให้ผลิตคอลลาเจนใหม่
  • Ultraformer คือ HIFU ที่ได้รับการพัฒนาแล้ว โดยเรียกว่าเทคโนโลยี MMFU ซึ่งมีความแม่นยำและเสถียรกว่า HIFU 
  • Ultraformer ช่วยกระชับสัดส่วนได้ โดยการส่งคลื่นพลังงานไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
  • Ultraformer ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนานกว่า HIFU 

HIFU คืออะไร

HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่มีความเข้มข้นสูงค่ะ โดยเมื่อยิงพลังงานจะทำให้เกิดความร้อนในจุดเล็ก ๆ (Thermal Coagulation Point) ส่งผลให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นหดตัวและกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับและเรียบเนียนยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดค่ะ 

HIFU เป็นหัตถการยกกระชับที่ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่สร้างแผล และไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและความเสี่ยงต่ำมาก ๆ ทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดูแลผิวและเสริมความมั่นใจที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจค่ะ

HIFU เหมาะกับใคร

  • คนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป และเริ่มมีปัญหาริ้วรอย หรือผิวหย่อนคล้อย
  • คนที่ต้องการให้กรอบหน้าที่เรียวและชัดขึ้น
  • คนที่ไม่ต้องการผ่าตัด หรือไม่ต้องการหัตถการที่ต้องพักฟื้นนาน

Ultraformer คืออะไร

Ultraformer คือ เครื่อง HIFU ประเภทหนึ่งที่ได้รับการพัฒนาขึ้นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ โดยใช้เทคโนโลยี MMFU หรือ Micro & Macro Focused Ultrasound ที่ส่งพลังงานได้ลึกและแม่นยำลงสู่ชั้นผิวที่ต้องการ เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ยกกระชับผิว อีกทั้งสลายไขมันใต้ผิวหนังซึ่งช่วยให้ปรับได้ทั้งรูปหน้าและสรีระบางส่วนค่ะ

จุดเด่นของ Ultraformer ก็อยู่ที่ความแม่นยำที่มากกว่า HIFU ค่ะ โดยหัวปล่อยพลังงานที่มีหลายขนาด สามารถปรับระดับความลึกและพลังงานให้เหมาะกับบริเวณที่รักษาได้ อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า HIFU ค่ะ

Ultraformer เหมาะกับใคร

  • คนที่มีผิวหย่อนคล้อย รูขุมขนกว้าง และมีปัญหาริ้วรอย
  • คนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว หรือเป็นทรง V-shape
  • คนที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด และต้องการกระชับสัดส่วน เช่น เหนียง ต้นแขน ต้นขา

HIFU กับ Ultraformer ทำงานกับผิวชั้นไหน

ทั้ง HIFU และ Ultraformer เป็นเทคโนโลนีที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงเข้มข้นยิงไปยังชั้นเนื้อเยื้อใต้ผิวเพื่อให้ยกกระชับผิวค่ะ โดยชั้นเนื้อเยื่อที่ทั้งสองหัตถการเข้าถึงได้แก่: ผิวชั้นหนังแท้ และชั้น SMAS ซึ่งความแตกต่างของหัตถการทั้งสองตัวนี้อยู่ที่ความแม่นยำ ความลึกของการยิง และความหลากหลายของการรักษาค่ะ

  • ชั้นหนังแท้ (Dermis): ความลึก 1.5 - 3.0 mm

ถึอเป็นความลึกมาตรฐานที่ใช้ในการยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณใบหน้าค่ะ โดยทั้ง HIFU และ Ultraformer จะกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นนี้ด้วยพลังงานคลื่นเสียงที่แปรเปลี่ยเป็นความร้อน มวลคอลลาเจนที่มีอยู่จะเกิดการหดตัว และเข้าสู่กระบวนการผลิตคอลลาเจนใหม่ ซึ่งช่วยให้ผิวกระชับ พร้อมลดเลือนริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ เช่น ริ้วรอยรอบดวงตาได้ค่ะ

  • ชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System): ความลึก 4.5 mm 

ชั้น SMAS เป็นผิวชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า (Facelift) ค่ะ โดยเป็นชั้นพังผืดที่อยู่ใต้มัดกล้ามเนื้อ เมื่อยิงคลื่นเสียงลงไปแล้ว ก็จะเกิดการหดตัว ซึ่งช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล่อยได้ดี เช่น ช่วยลดเลือนร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และลิฟต์กรอบหน้าให้เรียวขึ้นค่ะ

  • ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat Tissue): ความลึก 6.0 -13.0 mm

เป็นชั้นที่มีสะสมไขมันตามชื่อเลยค่ะ โดยทั่วไปจะมีเฉพาะ Ultraformer ที่มีหัวยิงที่ความลึกระดับนี้ พลังงานที่ถูกส่งเข้าไปจะทำให้ไขมันเกิดการสลายตัวเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ และถูกกำจัดไปทางระบบขับถ่ายค่ะ Ultraformer จึงช่วยยกกระชับได้ทั้งผิวบริเวณใบหน้าและสัดส่วนของร่างกาย เช่น ต้นแขน ต้นขา และหน้าท้องค่ะ 

HIFU vs Ultraformer ต่างกันอย่างไร

HIFU กับ Ultraformer ต่างกันที่ความแม่นยำและความสามารถในการรักษาค่ะ โดยทั้งสองตัวเป็นตัวเลือกการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องใช้เข็ม ไม่มีการฉีดตัวยา และไม่ต้องผ่าตัดเหมือนกัน เพียงแต่ Ultraformer เป็นเวอร์ชันที่ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพและความหลากหลายในการรักษามากขึ้น รวมถึงมีระดับความลึกที่ปรับให้เหมาะสมกับพื้นที่ได้ และมีผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าค่ะ

  • Ultraformer ยิงได้ทั้งลึกและกว้าง HIFU ด้วยเทคโนโลยี MMFU ให้พลังงานสม่ำเสมอและแม่นยำกว่า
  • HIFU มีจำนวนหัวจำกัด เหมาะกับการรักษาบริเวณกว้าง เช่น กรอบหน้าและแก้ม ในขณะที่ Ultraformer มีหัวหลายขนาด รองรับจุดเล็ก เช่น ใต้ตาหรือรอบปากได้ดีกว่า
  • Ultraformer สามารถทำได้ทั้งยกกระชับได้ทั้งใบหน้า ลำคอ ต้นแขน ต้นขา และหน้าท้อง 

ซึ่งหากต้องสรุปจริง ๆ หมอคิดว่า HIFU เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย ริ้วรอยไม่ลึกมาก และมีงบประมาณจำกัดให้กับหัตถการ ในขณะที่ Ultraformer เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน คงอยู่นาน และกระชับสัดส่วนค่ะ

HIFU vs Ultraformer: ผลลัพธ์และระยะเวลาเห็นผล

  • HIFU: เห็นผลบางส่วนหลังทำ และค่อย ๆ ชัดเจนขั้นภายใน 2–3 เดือน อายุของผลลัพธ์อยู่ 3–4 เดือน
  • Ultraformer: เห็นผล 10-20% ทันทีหลังทำ โดยผลลัพธ์ที่ชัดเจนเห็นได้ภายใน 2–3 เดือน และมีอายุราว ๆ 6 เดือน

ตารางเปรียบเทียบ HIFU vs Ultraformer

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ HIFU และ Ultraformer

Ultraformer III เหมาะกับใคร?

Ultraformer III เหมาะกับคนที่มีปัญหาริ้วรอยเล็กน้อยถึงปานกลาง และต้องการยกกระชับผิวแบบไม่ผ่าตัดค่ะ  ลดเลือนริ้วรอย โดยเฉพาะผู้ที่มีเวลาน้อยและไม่อยากพักฟื้นนานค่ะ

HIFU กับ Ultraformer III ต่างกันอย่างไร?

ทั้ง HIFU และ Ultraformer III ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อยกกระชับผิว แต่แตกต่างกันที่เทคโนโลยีและความแม่นยำ โดย Ultraformer III เป็นรุ่นที่สามารถปรับระดับความลึกได้แม่นยำกว่าและรักษาปัญหาผิวได้หลากหลายกว่าค่ะ

ทำ Ultraformer แล้วสามารถทำ HIFU ต่อได้ไหม?

ทำ Ultraformer แล้วทำ HIFU ต่อได้ค่ะ แต่ควรเว้นระยะให้ผิวฟื้นตัวอย่างน้อย 3–6 เดือน เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของหัตถการค่ะ

HIFU vs Ultraformer อันไหนดีกว่า ปรึกษาได้ที่ EY Clinic

หากถามว่า HIFU กับ Ultraformer อันไหนดีกว่า สรุปว่าขึ้นอยู่กับ ปัญหาผิว ความต้องการ และงบประมาณของแต่ละคนค่ะ เพราะถึง Ultraformer จะเป็นเครื่อง HIFU ที่มีเทคโนโลยีเสริมทำให้มีความหลากหายในการรักษามากกว่า แต่หากเรามีงบประมาณจำกัด HIFU ก็ถือเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยเช่นกันค่ะ 

อย่างไรก็ดี ทั้งสองหัตถการนี้สามารถทำควบคู่กับหัตการอื่น เช่น ฟิลเลอร์กรอบหน้า หรือโบท็อกซ์ได้ค่ะ โดยควรมีแพทย์เป็นผู้ดูแลอยู่เสมอ ใครที่กำลังมองหาคลินิกจะแก้ปัญหาผิวได้ตรงจุด สามารถเข้ามาปรึกษาหมอที่ EY Clinic ได้ค่ะ 

EY Clinic เป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านสิว หลุมสิว และ โรคผิวหนัง

ที่ ey clinic เราเชื่อว่าการดูแลผิวที่ดี เริ่มต้นจากความเข้าใจในปัญหาของแต่ละคน ทีมแพทย์ของเรานำโดย พญ.พัจนภา เวชอนุรักษ์ (หมอผึ้ง) แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง จากสถาบันโรคผิวหนัง พร้อมด้วยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์รวมกันมากกว่า 30 ปี* ในการดูแลปัญหาผิวหลากหลายรูปแบบ ทั้งสิว หลุมสิว ฝ้า ปรับรูปหน้า และ โรคผิวหนัง

เราให้ความสำคัญกับการวินิจฉัยอย่างแม่นยำ เพื่อออกแบบแนวทางการรักษาเฉพาะบุคคล โดยอิงจากหลักวิชาการทางการแพทย์เป็นหลัก ไม่ใช้การโฆษณาเกินจริง และไม่แนะนำสิ่งที่เกินความจำเป็น

คุณหมอและทีมให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา ดูแลอย่างต่อเนื่อง พร้อมติดตามผลเพื่อให้ผิวของคุณแข็งแรงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ภายใต้บรรยากาศที่เป็นกันเอง สะดวก และเชื่อถือได้

แวะเข้ามาปรึกษาคุณหมอ ได้ที่ EY Clinic หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ @EYClinicTH ค่ะ

B&A  HIFU และ Ultraformer

B&A  HIFU

B&A Ultraformer

เปรียบเทียบ HIFU vs Ultraformer สองเทคโนโลยียกกระชับต่างกันอย่างไร?
Dr. Patnapa Vejanurug
Sep 11, 2025
acne & acne scar expert
เรามีทรีตเมนต์หลากหลายที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมสุขภาพโดยรวมของคุณ ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงโภชนาการ เรามีทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อให้คุณรู้สึกดีที่สุด

คุณสมบัติ

HIFU

Ultraformer

เทคโนโลยี

คลื่นอัลตราซาวนด์

MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound)

ความลึกในการยิง

ชั้นผิวทั่วไป

มีประสิทธิภาพถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง

ความเสถียรและแม่นยำ

น้อยกว่า

สูงกว่า

หัวยิงพลังงาน

จำนวนน้อย ใช้ได้จำกัด

หลากหลาย ครอบคลุมจุดบอบบางได้ เช่น ใต้ตา

ความเจ็บปวดระหว่างรักษา

อาจรู้สึกตึงๆ หรือปวดหน่วงๆ ใต้ผิวขณะทำ บางเครื่องอาจรู้สึกเจ็บมากกว่า 

Ultraformer โดยทั่วไปเจ็บน้อยกว่า HIFU ทั่วไป (โดยเฉพาะ Ultraformer MPT ที่มีโหมด Micro Pulse ช่วยลดความเจ็บ) 

ระยะเวลาที่ผลลัพธ์อยู่

3-4 เดือน

6 เดือน

ราคา

เข้าถึงง่าย ประหยัดกว่า

ราคาสูงกว่า แต่เห็นผลชัดและนาน