รักษาหลุมสิว
Sep 23, 2024
0
min read

เป็นสิว ต้องดูแลอย่างไร: 5 วิธีป้องกันหลุมสิว สำหรับผิวเป็นสิวง่าย

เป็นสิว ต้องดูแลอย่างไร: 5 วิธีป้องกันหลุมสิว สำหรับผิวเป็นสิวง่าย

หมอคิดว่า ปัญหาที่น่าหนักใจพอ ๆ กับสิวก็คงไม่พ้น หลุมสิว ที่ทำให้หน้าของเราดูไม่เรียบเนียน ไม่สม่ำเสมอค่ะ ในบทความนี้ หมอเลยอยากจะพูดถึง 5 วิธีป้องกันหลุมสิวที่เราสามารถทำได้ และให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดหลุมสิวที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ค่ะ

สรุปใจความสำคัญ

  • หลุมสิว คือ รอยแผลจากสิวอักเสบ เกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถผลิตเซลล์และคอลลาเจนมาทดแทน เนื้อเยื่อส่วนที่ถูกทำลายระหว่างการอักเสบได้
  • การแกะหรือบีบสิว และการปล่อยให้สิวหายเอง จะเพิ่มโอกาสของการเกิดหลุมสิว
  • หลักการของการป้องกันหลุมสิว คือ รักษาอาการอักเสบให้ได้มากที่สุดเมื่อเป็นสิว และบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการช่วยให้ผิวได้ฟื้นฟูและสมานแผลอย่างเต็มที่

หลุมสิว เกิดจากอะไร

หลุมสิว (Atrophic scars) คือ รอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวอักเสบ (Inflammatory acnes) ซึ่งมีระนาบที่ยุบต่ำลงกว่าผิวส่วนอื่น รอยแผลเป็นประเภทหลุมสิวเกิดจากการที่เนื้อเยื่อและคอลลาเจนในส่วนที่เป็นสิวถูกทำลายระหว่างกระบวนการอักเสบค่ะ และเมื่อสิวหายแล้ว ร่างกายก็ดันผลิตเซลล์และคอลลาเจนชุดใหม่ออกมาไม่เพียงพอที่จะเติมเต็มเนื้อส่วนที่หายไป ทำให้เกิดเป็นรอยแผลในลักษณะของหลุมหรือแอ่งค่ะ

และสาเหตุที่ทำให้ร่างกายไม่สามารถสมานแผลได้อย่างเต็มที่ก็คือ การแกะหรือบีบสิว และการปล่อยให้สิวหายเองค่ะ เนื่องจากการแกะและบีบสิวเป็นการทำร้ายผิว ซึ่งจะยิ่งทำให้การอักเสบรุนแรงมากขึ้นได้อีก และการปล่อยให้สิวหายเองโดยไม่ใช้ยาแต้ม ก็เหมือนเป็นการปล่อยให้การอักเสบลุกลามไปเรื่อย ๆ ทำให้เนื้อเยื่อและคอลลาเจนถูกทำร้ายมากขึ้นค่ะ

ตัวอย่างของประเภทสิวอักเสบที่มักนำไปสู่หลุมสิว มีดังนี้ค่ะ

  • สิวตุ่มแดง (Papule) มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง แข็ง สัมผัสแล้วรู้สึกเจ็บ
  • สิวหัวหนอง (Pustule) ลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง มีหัวหนองสีขาว
  • สิวหัวช้าง (Nodule) - ตุ่มแดงขนาดใหญ่ แข็งเป็นไต อาจมีหัวปิดหรือหัวเปิดเป็นหนอง (Cystic acne) ซึ่งมีรากการอักเสบที่ลึกและรุนแรง

หมอขอเสริมสักหน่อยว่า เราทุกคนจะมีโอกาสการเกิดหลุมสิวที่ไม่เท่ากันค่ะ โดยบางคนอาจมีรอยแผลจากสิวเป็นในลักษณะของรอยดำ-รอยแดง และบางคนอาจจะเป็นหลุมสิวได้ง่าย ตรงนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนค่ะ

หลุมสิว มีกี่ประเภท

เราสามารถแบ่งประเภทของหลุมสิวตามลักษณะทางกายภาพได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ หลุมจิก Ice pick, หลุมคลื่น Rolling, และหลุมกล่อง Boxcar ค่ะ

  • Ice pick หรือ หลุมสิวแบบจิก เป็นหลุมสิวที่พบมากที่สุด (60-70% ของแผลเป็นจากสิว) มีลักษณะเป็นรูปตัว V หรือเป็นหลุมปากแคบที่ลึกค่ะ ซึ่งหลุมอาจมีความลึกได้ถึง 2 มิลลิเมตร ทำให้เป็นหลุมสิวประเภทที่รักษาได้ยาก และไม่ค่อยตอบสนองต่อการรักษาทั่วไปค่ะ
  • Boxcar หรือ หลุมสิวแบบกล่อง มีลักษณะคล้ายบ่อกว้างที่มีขอบชัดเจน ความกว้างอยู่ที่ 1.5 - 4 มิลลิเมตร และมักจะไม่ลึกมาก ตอบสนองต่อการรักษาอย่าง เลเซอร์หลุมสิว ได้ดีค่ะ
  • Rolling หรือ หลุมสิวแอ่งกระทะ มีลักษณะเป็นแอ่งตื้น ไม่มีขอบที่ชัดเจน และอาจกว้างถึง 5 มิลลิเมตรค่ะ หลุมสิวประเภท Rolling จะพบได้น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับอีกสองประเภท และเป็นประเภทที่รักษาได้ง่ายที่สุดค่ะ

เป็นสิวต้องดูแล้วอย่างไร: 5 วิธีป้องกันหลุมสิว เมื่อเป็นสิวอักเสบ

อย่างที่ได้อธิบายกันไปแล้วว่า หลุมสิว เกิดจากกระบวนการอักเสบของสิวและการสมานแผลที่ไม่เพียงพอ ฉะนั้น สิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อป้องกันหลุมสิว ก็คือ พยายามลดอาการอักเสบให้ได้มากที่สุด และหาวิธีบำรุงเพื่อให้ช่วยให้ผิวสามารถสมานแผลได้อย่างเต็มที่ค่ะ โดยวิธีป้องกันหลุมสิวที่เราสามารถทำได้ง่าย ๆ มีดังนี้ค่ะ

  1. ไม่แกะ หรือ บีบสิว

หมอเข้าใจว่า สิวอักเสบ เป็นสิวที่ทั้งเจ็บทั้งแดง จนเราอยากบีบมันให้จบ ๆ ไปค่ะ แต่การบีบหรือแกะสิวนั้นเป็นการทำร้ายผิวค่ะ ซึ่งนอกจากจะสร้างแผลมากขึ้นแล้ว ยังจะทำให้การอักเสบของสิวรุนแรงมากขึ้นอีกด้วย ฉะนั้น ไม่ว่าสิวจะเจ็บ คัน หรือเม็ดใหญ่แค่ไหน ให้เลือกรักษาด้วยการใช้ยาแต้มสิว หรือการฉีดสิว และไม่แกะหรือบีบเองจะดีกว่าค่ะ

  1. ไม่ปล่อยให้สิวหายเอง

ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตันหรือสิวอักเสบ การปล่อยให้สิวหายเองโดยไม่แกะและไม่บีบ ก็ใช่ว่าจะเป็นวิธีการป้องกันหลุมสิวที่ดีค่ะ เพราะ สิวอุดตันสามารถพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบได้ และสิวอักเสบตุ่มเล็กก็สามารถอักเสบมากขึ้นจนกลายเป็นสิวเม็ดใหญ่ที่รุนแรงมากกว่าเดิมได้ การปล่อยให้สิวหายเองจึงเป็นเหมือนกันปล่อยให้เซลล์เกิดการอักเสบไปเรื่อย ๆ ซึ่งทำให้โอกาสการเกิดหลุมสิวมากขึ้นด้วยค่ะ

  1. เลือกใช้ยาแต้มสิว

เมื่อเป็นสิวขึ้นมาแล้ว วิธีป้องกันหลุมสิวที่ทำได้ง่ายที่สุด ก็คือ ใช้ยาแต้มสิว เช่น Benzyl peroxide, Salicylic acid, หรือยาปฏิชีวนะอย่าง Clindamycin เพื่อรักษาการอักเสบให้เร็วที่สุดค่ะ โดยยาเหล่านี้ เราสามารถซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป แล้วขอคำแนะนำการใช้จาเภสัชกรประจำร้านได้ค่ะ ซึ่งการใช้ยาแต้มสิวจะได้ผลดีที่สุดกับสิวอักเสบแบบ Papule ที่เป็นตุ่มนูนแดงไม่ใหญ่มาก และสิวอักเสบหัวหนองแบบ Pustule ค่ะ

  1. เลือกรักษาสิวด้วยการฉีดสิว

การฉีดสิว ถือเป็นวิธีจัดการสิวไต สิวหัวช้าง และสิวซีสต์ที่มีประสิทธิภาพค่ะ เพราะสิวเหล่านี้มีรากของการอักเสบที่ลึก รุนแรง และไม่ค่อยตอบสนองต่อยาแต้มสิวค่ะ โดยการฉีดสิวจะเป็นการฉีดตัวยา Cortisone ซึ่งออกฤทธิ์ลดการอักเสบ ซึ่งจะทำให้สิวที่อักเสบรุนแรงมีอาการดีขึ้นภายใน 3-4 วัน ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดหลุมสิวได้ค่ะ

  1. บำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง

การบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะตอนที่เรามีปัญหาสิว เป็นวิธีป้องกันหลุมสิวสำคัญมาก ๆ ค่ะ โดยการบำรุงด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์จะเป็นการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ซึ่งจะช่วยส่งเสริมกระบวนการสมานแผลได้ค่ะ

อย่างไรก็ดี สำหรับคนที่มีปัญหาสิว หรือเป็นสิวอักเสบบ่อย ๆ หมอแนะนำว่า ให้เข้าปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางเพื่อหาวิธีรับมือและรักษาอย่างเหมาะสมค่ะ เนื่องจากสาเหตุของการเกิดสิวมีอยู่มากมาย หากเราแก้ไขอย่างไม่ถูกวิธี ก็อาจนำไปสู่การปัญหาสิวที่รุนแรงกว่าเดิมได้ค่ะ

รักษาหลุมสิว ที่ EY Clinic

ปัญหาหลุมสิว เป็นอะไรที่ทำให้หลาย ๆ คน หมดความมั่นใจไปได้ง่าย ๆ เพราะไม่ว่าจะแต่งหน้าเยอะแค่ไหน เราก็ยังรู้สึกว่าผิวหน้าไม่เรียบเนียน และขรุขระอยู่ดี แต่อย่างไรก็ดี เราก็มีหัตถการอยู่มากมายที่จะช่วยแก้ปัญหาและคืนความมั่นใจให้ตัวเองได้ค่ะ

โดยตัวเลือกการรักษาหลุมสิวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่ เลเซอร์ Fractional CO2, เลเซอร์ RF, การตัดพังผืด และการแต้มกรด TCA ค่ะ ซึ่งหัตถการแต่ละตัวจะมีข้อดี-ข้อเสียที่ต่างกันออกไป สำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าวิธีการรักษาแบบไหนจะเหมาะกับตัวเองที่สุด สามารถเข้ามาปรึกษากับเราที่ EY Clinic ได้ค่ะ โดยเรามีโปรแกรมการรักษาหลุมสิวที่ทันสมัย และมีการวางแผนเพื่อให้คุณได้รับการรักษาที่เหมาะสมที่สุด และได้ผลลัพธ์น่าพึงพอใจที่สุดค่ะ

EY Clinic เป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านสิว หลุมสิว และ ชะลอวัย


เพราะเราคือทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์รวมกันมากกว่า 30 ปี นำทีมโดย หมอผึ้ง (พญ.พัจนภา เวชอนุรักษ์) แพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง สถาบันโรคผิวหนัง Board of Dermatology and Dermatosurgery และ หมอโบว์ (พญ. พันธลี ชื่นสัมพันธ์) เวชศาสตร์ชะลอวัย American Board of Anti-Aging & Regenerative Medicine แพทยศาสตร์บัณฑิตโรงพยาบาลรามาธิบดียินดี ให้คำปรึกษาและช่วยดูแลให้ผิวของคุณมีสุขภาพดีมากขึ้นค่ะ

แวะเข้ามาพูดคุยกับเราได้ที่ EY Clinic หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ @EYClinicTH ค่ะ

รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง

acne & acne scar expert
เรามีทรีตเมนต์หลากหลายที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมสุขภาพโดยรวมของคุณ ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงโภชนาการ เรามีทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อให้คุณรู้สึกดีที่สุด