อัปเดต 2025 “เลเซอร์รักษาหลุมสิว” มีกี่แบบ ทำงานยังไง

ในบทความนี้ หมอผึ้งได้รวบรวมเอาเรื่องควรรู้เกี่ยวกับ “เลเซอร์รักษาหลุมสิว” อย่าง Pico laser, Fractional CO2 laser, และ Fractional RF laser ซึ่งหมอได้สรุปวิธีการทำงาน ข้อดี และข้อจำกัดของเลเซอร์รักษาหลุมสิวแต่ละแบบ มาให้ทุกคนที่มีปัญหา “หลุมสิว” ได้อ่านก่อนตัดสินใจเลือกการรักษาค่ะ
สรุปใจความสำคัญ
- หลุมสิว คือรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว มีลักษณะเป็นแอ่งหรือหลุม ซึ่งรักษาได้ยาก
- เลเซอร์ เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาหลุมสิวที่ความเสี่ยงต่ำ และมีประสิทธิภาพสูง
- เลเซอร์รักษาหลุมสิวด้วยการใช้ความร้อนเพื่อกระตุ้นให้ผิวเข้าสู่กระบวนการสมานแผล ทำให้ผิวผลิตคอลลาเจนและเซลล์ผิวใหม่ออกมา ซึ่งช่วยทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น
- เลเซอร์ยังสามารถแก้ปัญหาผิวอื่น ๆ เช่น สิว ฝ้า กระ และช่วยปรับสีผิวให้เสมอกัน
- เลเซอร์รักษาหลุมสิวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันได้แก่ Venus Viva MD, Fractional RF, Frational CO2, Fotona, และ eMatrix ค่ะ
หลุมสิว คืออะไร

หลุมสิว (Atrophic acne scar) คือ แผลเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดที่มากับปัญหาสิว หลุมสิวเกิดจากการที่เซลล์ผิวไม่สามารถผลิตคอลลาเจนและเนื้อเยื่อมาทดแทนส่วนที่เป็นสิวอักเสบได้ จึงทิ้งเป็นรอยแผลเป็นที่มีลักษณะเหมือนรอยบุ๋มหรือหลุม และส่งผลให้ใบหน้าของเราดูไม่เรียบเนียนค่ะ
เราสามารถแบ่งประเภทของหลุมสิวออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้ค่ะ
- Ice pick หรือ หลุมสิวแบบจิก เป็นประเภทที่พบมากที่สุด (60-70% ของแผลเป็นจากสิว) และรักษายากที่สุด มีความลึกประมาณ 2 มิลลิเมตร ลักษณะจะเป็นแผลปากแคบ หลุมลึกและแหลม
- Rolling หรือ หลุมสิวแอ่งกระทะ มีลักษณะเป็นแอ่งตื้น ไม่มีขอบที่ชัดเจน มักเกิดที่บริเวณแก้ม และสามารถกินพื้นที่ได้ถึง 5 มิลลิเมตร หลุมสิวประเภทพบได้ไม่บ่อยเมื่อเทียบกับอีกสองประเภทแต่เป็นประเภทที่รักษาได้ง่ายที่สุด
- Boxcar หรือ หลุมสิวแบบกล่อง มีลักษณะเป็นกล่องหรือบ่อกว้างที่มีขอบชัดเจน ความกว้างอยู่ที่ 1.5 - 4 มิลลิเมตร ซึ่งนอกจากสิวแล้ว แผลจากตุ่มโรคอีสุกอีใสก็มักทำให้เกิดเป็นแผลแบบ Boxcar ได้
หลุมสิวหายได้ 100% ไหม
การรักษาหลุมสิวให้หาย 100% เป็นไปได้ยากค่ะ แต่สามารถรักษาให้ดูจางลง เพื่อให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้นได้ด้วยหัตถการอย่าง เลเซอร์หลุมสิว การฉีดกระตุ้นคอลลาเจน หรือ Subcision ค่ะ ซึ่งผลลัพธ์ของการรักษาก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล อัตราการสร้างคอลลาเจน (ขึ้นอยู่กับช่วงอายุและสุขภาพ) ความรุนแรงของหลุมสิว และการตอบสนองของร่างกายด้วยค่ะ อย่างไรก็ดี การปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก็จะสามารถช่วยให้เราวางแผนการรักษาที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพได้ค่ะ
เลเซอร์หลุมสิว เจ็บไหม
เลเซอร์หลุมสิว อาจทำให้รู้สึกระคายเคืองหรือเจ็บเล็กน้อยค่ะ โดยเลเซอร์แต่ละตัวจะมีระดับความเจ็บปวดที่ไม่เท่ากัน อาทิ เช่น Fractional CO2 จะทำให้รู้สึกระคายเคืองผิวหน้ามากกว่าเมื่อเทียบกับ Venus Viva MD เป็นต้นค่ะ

เลเซอร์รักษาหลุมสิว ทำงานอย่างไร ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้จริงไหม
หมอขอสรุปง่าย ๆ ว่า เลเซอร์รักษาหลุมสิวได้ด้วยการกระตุ้นกระบวนการสมานแผล (Wound Healing) ในร่างกายของเราค่ะ ซึ่งเรามีกลไกการทำงานได้คร่าว ๆ ดังนี้ค่ะ
- กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนด้วยความร้อน (Collagen Stimulation) : เมื่อแสงเลเซอร์ถูกส่งผ่านเข้าไปในขั้นผิวหนังแล้ว แสงเลเซอร์จะแปรเปลี่ยนเป็นความร้อน ซึ่งความร้อนนี้จะกระตุ้นให้เซลล์ผลิตคอลลาเจนมากขึ้นและเกิดการปรับโครงสร้างของเส้นใยคอลลาเจน (Collagen remodeling) ที่ช่วยให้ผิวเน้นฟูขึ้น และทำให้หลุมสิวเริ่มจางลง
- ทำลายเนื้อเยื่อส่วนแผลเป็น (Scar Tissue Vaporization) : เลเซอร์บางตัว เช่น เลเซอร์ CO2 สามารถทำให้เนื้อเยื่อแผลเป็นบางส่วน “ระเหย” หายไปได้ค่ะ ซึ่งการระเหยตรงนี้ก็จะทำให้เซลล์บริเวณนั้นเข้าสู่วงจรการผลัดเซลล์ผิว (Cell Turnover) ส่งผลให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้นค่ะ
- ขจัดผิวเก่าและเผยผิวใหม่ (Ablative Resurfacing) : เลเซอร์บางตัวที่มี Ablative technology จะสามารถขจัดเอาผิวชั้นนอกสุดออก ซึ่งช่วยให้ร่างกายได้ผลัดเซลล์ผิวและสร้างคอลลาเจนเพิ่ม ซึ่งจะช่วยเติมเต็มหลุมสิวและปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้นค่ะ
นอกจากนี้ เลเซอร์ยังรักษาได้มากกว่าหลุมสิว: เลเซอร์ที่ใช้รักษาหลุมสิวสามารถช่วยแก้ไขปัญหารอยดำ รอยแดง ริ้วรอยและปรับโทนสีผิวให้เสมอกันได้ด้วยค่ะ
และเมื่อเทียบกับทรีตเมนต์อื่นๆเลเซอร์รักษาหลุมสิว ถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย ทำได้ง่าย มีความเสี่ยงต่ำ และเห็นผลไวด้วยค่ะ
เลเซอร์รักษาหลุมสิว มีอะไรบ้าง

ในปัจจุบัน เทคโนโลยีเลเซอร์ให้เราเลือกอยู่มากมายค่ะ หมอผึ้งจึงขอยกตัวอย่าง 3 เลเซอร์รักษาหลุมสิวที่ได้รับความนิยมมาก มีประสิทธิภาพสูง พร้อมข้อดี-ข้อเสียของแต่ละตัวค่ะ
เลเซอร์รักษาหลุมสิว Venus Viva MD

เลเซอร์หลุมสิว Venus Viva MD เป็นการรักษาหลุมสิวด้วยเทคโนโลยี NanoFractional™ Radiofrequency ค่ะ ซึ่งเทคโนโลยีตัวนี้โดดเด่นในเรื่องของ Skin Resurfacing เจ้าเลเซอร์ตัวนี้รักษาหลุมสิวด้วย คลื่นความถี่วิทยุที่ส่งผ่านเข้าสู่ชั้นผิวด้วยเข็มที่มีขนาดเล็กเพียงประมาณ 300 นาโนเมตร (1 นาโนเมตร เท่ากับ 1 ในสิบล้านเซนติเมตร) ค่ะ
แล้วเข็มเล็กนาโนแบบนี้ดีอย่างไร เข็มขนาดเล็กเหล่านี้เข้าสู่ชั้นผิวได้ลึก (สูงสุดที่ความลึก 800 µm) กระจายคลื่นวิทยุเข้าสู่เนื้อเยื่อได้อย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพสูง โดยที่ไม่สร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง และยังไม่สร้างความเจ็บปวดระหว่างการรักษาด้วยค่ะ
Venus Viva MD การันตีเรื่องความสบายหน้าระหว่างการรักษาค่ะ โดยงานวิจัยของ Journal of Cosmetic Dermatology ในปี 2021 ระบุไว้ว่า ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว 30 คนที่ได้ทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวตัวนี้ ให้คะแนนความเจ็บปวดระหว่างการทำ เพียง 3 ใน 10 (0 =ไม่เจ็บเลย และ 10 = เจ็บมาก) และที่สำคัญ หลังการรักษาก็ไม่มีผลข้างเคียงระยะยาวใด ๆ ด้วยค่ะ
คลื่นวิทยุที่ถูกส่งผ่านเข้าไปในชั้นผิวด้วยเข็มขนาดเล็กเหล่านี้ จะทำความร้อนเป็นจุดเล็ก ๆ (เรียกว่า Microthermal zone) ซึ่งกระตุ้นกระบวนการสมานแผลของเซลล์ในบริเวณที่เราต้องการค่ะ
นอกจาก เทคโนโลยีเข็มจิ๋ว แล้วเลเซอร์รักษาหลุมสิว Venus Viva MD ยังมีเทคโนโลยี SmartScan™ ซึ่งจะสามารถปรับเปลี่ยนแพตเทิร์นในการปล่อยคลื่นวิทยุได้ตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล ทำให้เลเซอร์รักษาหลุมสิวตัวนี้มีความยืดหยุ่น ปลอดภัยต่อผู้รับการรักษามากขึ้น และยังลดโอกาสเกิดผิวไหม้คล้ำ (Hyperpigmentation) หลังทำเลเซอร์ด้วยค่ะ
ข้อดี:
- เหมาะกับหลุมสิวประเภท rolling และ boxcar
- จุดเด่นคือเป็น Fractional RF ชนิด Ablative ที่สร้างความร้อนถึงจุดที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวด้านบนได้ ทำให้ได้เซลล์ผิวใหม่ที่มาพร้อมกับ Skin Texture ที่ดีขึ้น
- ได้ในเรื่องของ Patient Comfort ระหว่างการรักษาเพราะปล่อยพลังงานจากหัว pin ขนาดจิ๋ว
- โอกาสการเกิดรอยไหม้ หรือ รอยคล้ำ หลังทำการรักษาต่ำ ด้วยเทคโนโลยี SmartScan™
- ปลอดภัยกับผิวทุกประเภท
ข้อเสีย:
- มีเวลาพักฟื้นประมาณ 2-3 วัน
- การปล่อยพลังงานจะเป็นการปล่อยผ่านหัว pin ซึ่งอาจจะทำให้พลังงานลงลึกเท่าเครื่องที่ใช้ Microneedle ปล่อยไม่ได้
เลเซอร์รักษาหลุมสิว Fractional RF

เลเซอร์หลุมสิว Fractional RF (Fractional Radiofrequency) คือการใช้คลื่นความถี่วิทยุในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ซึ่งคลื่นวิทยุนี้พอเข้าสู่ชั้นผิวแล้วจะทำให้เกิดความร้อน ซึ่งผลักดันให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนและเซลล์ผิวใหม่ โดยเลเซอร์ Fractional RF มีทั้งแบบ Ablative และ Non-Ablative ซึ่งแพทย์จะเป็นคนพิจารณาว่าจะใช้แบบไหนค่ะ
ที่ EY Clinic จะมีการใช้เลเซอร์ Fractional RF ชนิด Microneedling ค่ะ เทคนิคนี้คือ การใช้เข็มขนาดเล็ก (ขนาด 0.5-3 มิลลิเมตร ซึ่งใหญ่กว่าเข็มของ Venus Viva MD) ทิ่มเข้าไปในชั้นผิวเพื่อสร้างแผลเป็นจุดเล็ก ๆ ที่จะกระตุ้นกระบวนการสมานแผล และยังช่วยให้คลื่น RF เข้าสู่ชั้นผิวได้ลึกและทั่วถึงมากขึ้นด้วยค่ะ
ข้อดี:
- สามารถรักษาหลุมสิวในบริเวณที่ผิวมีความบอบบางได้ดี
- เทคนิค Microneedling ช่วยให้คลื่น RF เข้าสู่ชั้นผิวได้ลึกมากกว่า Pico laser
- ผลข้างเคียงน้อย เมื่อเทียบกับเลเซอร์ตัวอื่น
ข้อเสีย:
- ไม่เหมาะกับคนที่มีหลุมสิวที่ลึกและรุนแรง
- อาจต้องทำทรีตเมนต์หลายครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
บริการเลเซอร์รักษาหลุมสิว Fractional RF มีรายละเอียดดังนี้ค่ะ
- Fractional RF (size S) 1 ครั้ง ราคา 4,999.-
- Fractional RF (size M) 2 ครั้ง ราคา 8,999.-
- Fractional RF (size L) 3 ครั้ง ราคา 12,699.-
เลเซอร์รักษาหลุมสิว Fractional CO2

เลเซอร์หลุมสิว Fractional CO2 ปล่อยแสงเลเซอร์ที่ความยาวคลื่น 10,600 นาโนเมตร ใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นตัวกลางในการแทรกตัวเข้าสู่เซลล์ผิว ซึ่งที่ EY Clinic ก็มีบริการเลเซอร์หลุมสิว Fractional CO2 โดยใช้ชื่อว่า “Smooth X” ค่ะ
เลเซอร์รักษาหลุมสิว Fractional CO2 เป็นเลเซอร์ประเภท Ablative มีหลักการทำงานดังนี้ค่ะ:
เมื่อยิงเลเซอร์เข้าสู่ผิวหนังแล้ว ความร้อนของเลเซอร์จะเข้าไปทำให้น้ำในเนื้อเยื่อร้อนขึ้น ทำให้ร่างกายตอบสนองด้วยการผลิตคอลลาเจน ผลัดเซลล์ผิว และเร่งผลิตเซลล์ผิวใหม่ค่ะ ซึ่งเราก็ไม่ต้องกลัวว่า ผิวหน้าส่วนอื่นจะได้รับความร้อนสูงเข้าไปด้วย เพราะ Fractional CO2 จะให้ความร้อนเป็นจุดเล็ก ๆ และไม่ให้เนื้อเยื่อบริเวณรอบข้างเสียแน่นอนค่ะ
สำหรับที่ EY Clinic หลังทำเลเซอร์ Fractional CO2 เสร็จแล้ว บริเวณที่ทำจะมีแผลเล็ก ๆ พร้อมกับสะเก็ดแผลเล็กน้อย
ข้อดี:
- รักษาหลุมสิวที่ลึกได้ดี โดยเฉพาะหลุมสิวประเภท rolling และ boxcar
- มีความยืดหยุ่นในการรักษา แก้ไขปัญหาผิวได้หลากหลาย เช่น กระ สิวข้าวสาร สิวอุดตันหัวปิด และช่วยลบเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณ หน้าผาก รอบดวงตา แก้ม และรอบปากได้ด้วยค่ะ
- ช่วยกระชับรูขุมขน
ข้อเสีย:
- อาจมีผลข้างเคียงหลังทำเสร็จ (อาการบวมแดง หรือสะเก็ดแผล) ที่มากกว่าเมื่อเทียบกับเลเซอร์ตัวอื่น
- มีความเสี่ยงที่จะเกิดรอยคล้ำ (Hyperpigmentation) หลังทำ หากแพทย์ไม่มีความชำนาญหรือเครื่องมือไม่ได้มาตรฐาน
ซึ่งเลเซอร์รักษาหลุมสิว Smooth X ที่มีให้บริการที่ EY Clinic มีรายละเอียดราคาดังนี้ค่ะ
- SmoothX หลุมสิวที่แก้ม 3,499.- ต่อครั้ง และมีแพ็กเกจ 17,495.- ต่อ 6 ครั้ง
- SmoothX หลุมสิวทั่วหน้า 3,999.- ต่อครั้ง และมีแพ็กเกจ 19,995.- ต่อ 6 ครั้ง
เลเซอร์รักษาหลุมสิว Fotona

Fotona เป็นเลเซอร์ YAG ซึ่งเลเซอร์ YAG ใช้ในการรักษาหลุมสิวคือ Er:YAG มีกลไกในการกระตุ้นกระบวนการสมานแผล และช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนค่ะ ซึ่งเลเซอร์ Fotona ก็มีทั้งแบบ Ablative ที่ช่วยผลัดเซลล์ได้ และ Non-ablative ที่ไม่ทำให้หน้าบาง แต่การเลือกใช้ก็จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ผู้ดูแลค่ะ
ข้อดี:
- มีความแม่นยำ ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สามารถรักษาปัญหาผิวอื่น ๆ นอกจากหลุมสิวได้ เช่น ช่วยลบเลือนริ้วรอย
- ให้ผลลัพธ์ที่นาน
ข้อเสีย:
- หลังทำแล้ว ผิวอาจมีอาการบวมแดง ระคายเคือง หรือเกิดเป็นรอยคล้ำ (Hyperpigmentation)
เลเซอร์รักษาหลุมสิว eMatrix

eMatrix ใช้คลื่น RF ในการรักษาหลุมสิว เหมือนกับ Venus Via MD และ Fractional RF ค่ะ แต่ eMatrix จะใช้เทคโนโลยี Sublative™ ที่เป็นการโฟกัสคลื่นวิทยุไปยังผิวชั้นหนังแท้ เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนโดยจะปล่อยคลื่นออกมาในรูปแบบพีรามิด ที่ไม่ทำร้ายหรือผิวชั้นหนังกำพร้าค่ะ
ข้อดี:
- แก้ปัญหาผิวได้หลายข้อ เช่น จุดด่างดำ ริ้วรอย หรือ รอยดำจากแดด
- ไม่ทำให้หน้าบาง หรือเกิดรอยคล้ำไหม้
- ช่วยกระชับรูขุมขน และปรับสีผิวให้เสมอกันได้
ข้อเสีย:
- หัวของ eMatrix จะปล่อยพลังงานในรูปแบบ stamping ทำให้เกิดสะเก็ดที่ใหญ่ถึง 59,000 ไมครอน^2 ใหญ่กว่าของ Venus Viva ถึง 20 เท่า ตอนทำอาจจะรู้สึกเจ็บกว่า
- ความสามารถในการทะลุผ่านเนื้อเยื่อยังตื้นกว่าและมีความแม่นยำน้อยกว่า Venus Viva
- เห็นผลช้า อาจต้องทำทรีตเมนต์หลายครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
เลเซอร์รักษาหลุมสิว Pico

Pico laser น่าจะเป็นเลเซอร์รักษาหลุมสิวที่หลาย ๆ คนคุ้นชื่อ ซึ่ง ‘Pico’ นั้นมาจากคำว่า ‘Picosecond’ (แปลว่า 1ล้านล้านของวินาที) ซึ่งหมายถึง ความสามารถในการยิงแสงเลเซอร์ในจังหวะที่สั้นและเร็ว ลำแสงเลเซอร์พลังงานสูงจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในบริเวณที่ต้องการได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพค่ะ
โดยในปัจจุบัน Pico สามารถปล่อยเลเซอร์ได้ที่หลายความยาวคลื่น (532, 730, 755, 785 และ 1064 นาโนเมตร) ซึ่งแต่ละความยาวคลื่นก็จะมีข้อบ่งชี้ในการใช้ที่ต่างกันค่ะ
Pico laser หลุมสิว ยังเป็นเลเซอร์แบบ Non-ablative หรือก็คือ ไม่มีการลอกผิวชั้นนอก และยังขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการทำลายเม็ดสีเมลานิน ช่วยแก้ปัญหาฝ้ากระได้ดี และยังเป็นเลเซอร์ที่ใช้ลบรอยสักด้วยค่ะ
ข้อดี:
- ไม่ทำให้หน้าบางลง
- เห็นผลลัพธ์รวดเร็วและชัดเจนในกลุ่มคนที่ปัญหาหลุมสิวไม่รุนแรง
ข้อเสีย:
- ผิวหน้าอาจตกสะเก็ดหลังทำ
- ไม่เหมาะกับคนที่มีหลุมสิวจำนวนมากและรุนแรง
- Pico laser ถูกผลิตมาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องของเม็ดสี แต่มี side effects คือช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ถูกนำมารักษาหลุมสิวได้ แต่ผลอาจจะไม่สม่ำเสมอเท่าเครื่องอื่นๆ
- ด้วยต้นทุนที่สูง อาจทำให้มีราคาเริ่มต้นที่สูงเมื่อเทียบกับเลเซอร์รักษาหลุมสิวตัวอื่น ๆ
เลเซอร์รักษาหลุมสิวต้องทำกี่ครั้ง ถึงจะเห็นผล

โดยทั่วไปแล้ว ผลที่ชัดเจนที่สุดจะเห็นได้หลังทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวได้ 3-5 ครั้งค่ะ อย่างไรก็ดี จำนวนครั้งและผลลัพธ์ย่อมขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลและชนิดของหลุมสิวด้วยค่ะ
วิธีการเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์หลุมสิว

การทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว เราควรมีการวางแผนและเตรียมตัวดังนี้ค่ะ
- งดสครับผิวหน้า อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์
- งดใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Retinol, Glycolic acid, Salicylic acid หรือส่วนประกอบใดที่มีสรรพคุณในการผลัดเซลล์ผิว
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3-5 วัน ก่อนการทำเลเซอร์
- ไม่แต่งหน้าในก่อนเข้าทำเลเซอร์
- ศึกษาหาข้อมูล และรีวิวของคลินิกที่จะใช้บริการก่อนตัดสินใจทำเสมอ เพราะไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์รักษาหลุมสิว ฟิลเลอร์ หรือฉีดสิว ก็ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของเราค่ะ
วิธีการดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว

เมื่อทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวแล้ว เราควรมีการดูแลตัวเองเพื่อลดความรุนแรงของผลข้างเคียง และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ
- หลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่เพิ่งยิงเลเซอร์มาโดนน้ำเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง
- เมื่อผ่าน 24 ชั่วโมงไปแล้ว สามารถล้างหน้าได้ตามปกติ แต่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และกิจกรรมออกแดดในช่วง 24-48 ชั่วโมง หลังทำเสร็จ เนื่องจากเป็นช่วงที่ผิวจะคล้ำได้ง่ายกว่าปกติ
- งดการใช้เครื่องสำอางอย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังทำเลเซอร์เสร็จ
- งดสครับหน้าจนกว่าอาการบวมแดงหรือสะเก็ดจะหายไป
- หากมีสะเก็ดแผล ไม่ควรแกะหรือเกาเพราะอาจจะทำให้เกิดรอยแผลเป็น
- ทามอยเจอร์ไรเซอร์ และครีมกันแดด เพื่อบำรุงและสร้างเกราะป้องกันให้ผิว
รักษาหลุมสิวที่ EY Clinic ดีอย่างไร

อย่างที่กล่าวไปค่ะว่า ไม่ว่าจะเป็นหัตถการประเภทไหน เราก็ควรเลือกเข้ารับบริการกับคลินิกที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ และมีใบอนุญาตที่ถูกกฎหมาย ซึ่งหากคุณกำลังมองหาคลินิกที่จะช่วยดูแลสุขภาพผิวของคุณ เข้ามาพูดคุยกับเราที่ EY Clinic ได้ค่ะ เราคือผู้เชี่ยวชาญทางด้านสิว หลุมสิว และปัญหาผิวรอบด้าน นำทีมโดย นำทีมโดย หมอผึ้ง (พญ.พัจนภา เวชอนุรักษ์) เป็นแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง สถาบันโรคผิวหนัง เชี่ยวชาญด้าน Dermatosurgery โดยหมอจะมีการประเมินสภาพผิวและพูดคุยกับคุณก่อนที่จะวางแผนการรักษา เพื่อออกแบบทรีตเมนต์ให้ถูกต้องและเหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังมีการติดตามผลการรักษา ให้แน่ใจว่าได้ผลลัพธ์ที่คุณพึงพอใจค่ะ
สำหรับคนที่กำลังมองหาแพ็กเกจการรักษาหลุมสิว และฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน ที่ Ey Clinic มีแพ็กเกจให้บริการดังนี้ค่ะ
EY Clinic เป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านสิว หลุมสิว และ ชะลอวัย

เพราะเราคือทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์รวมกันมากกว่า 30 ปี นำทีมโดย หมอผึ้ง (พญ.พัจนภา เวชอนุรักษ์) แพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง สถาบันโรคผิวหนัง Board of Dermatology and Dermatosurgery และ หมอโบว์ (พญ. พันธลี ชื่นสัมพันธ์) เวชศาสตร์ชะลอวัย American Board of Anti-Aging & Regenerative Medicine แพทยศาสตร์บัณฑิตโรงพยาบาลรามาธิบดียินดี ให้คำปรึกษาและช่วยดูแลให้ผิวของคุณมีสุขภาพดีมากขึ้นค่ะ
หมอหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเลเซอร์รักษาหลุมสิวกับคนที่สนใจและต้องการดูแลผิวของตนเองได้ไม่มากก็น้อยค่ะ อย่างไรก็ดี หากมีข้อสงสัยสามารถแวะเข้ามาปรึกษาหมอผึ้งได้ที่ EY Clinic ค่ะ
อ้างอิงข้อมูล:
Arruda, Suleima, et al. (2021) Subject Satisfaction Following Treatment with Nanofractional Radiofrequency for the Treatment and Reduction of Acne Scarring and Rhytids: A Prospective Study, Journal of Cosmetic Dermatology: https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/34559923/
รีวิวจากผู้รับบริการจริง



