รักษาหลุมสิว
May 28, 2024
0
min read

อัปเดต 2025 “เลเซอร์รักษาหลุมสิว” มีกี่แบบ ทำงานยังไง

อัปเดต 2025 “เลเซอร์รักษาหลุมสิว” มีกี่แบบ ทำงานยังไง

ในบทความนี้ หมอผึ้งได้รวบรวมเอาเรื่องควรรู้เกี่ยวกับ “เลเซอร์รักษาหลุมสิว” อย่าง Pico laser, Fractional CO2 laser, และ Fractional RF laser ซึ่งหมอได้สรุปวิธีการทำงาน ข้อดี และข้อจำกัดของเลเซอร์รักษาหลุมสิวแต่ละแบบ มาให้ทุกคนที่มีปัญหา “หลุมสิว” ได้อ่านก่อนตัดสินใจเลือกการรักษาค่ะ

สรุปใจความสำคัญ

  • หลุมสิว คือรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว มีลักษณะเป็นแอ่งหรือหลุม ซึ่งรักษาได้ยาก
  • เลเซอร์ เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาหลุมสิวที่ความเสี่ยงต่ำ และมีประสิทธิภาพสูง
  • เลเซอร์รักษาหลุมสิวด้วยการใช้ความร้อนเพื่อกระตุ้นให้ผิวเข้าสู่กระบวนการสมานแผล ทำให้ผิวผลิตคอลลาเจนและเซลล์ผิวใหม่ออกมา ซึ่งช่วยทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น
  • เลเซอร์ยังสามารถแก้ปัญหาผิวอื่น ๆ เช่น สิว ฝ้า กระ และช่วยปรับสีผิวให้เสมอกัน
  • เลเซอร์รักษาหลุมสิวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันได้แก่ Venus Viva MD, Fractional RF, Frational CO2, Fotona, และ eMatrix ค่ะ

หลุมสิว คืออะไร

หลุมสิว (Atrophic acne scar) คือ แผลเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดที่มากับปัญหาสิว หลุมสิวเกิดจากการที่เซลล์ผิวไม่สามารถผลิตคอลลาเจนและเนื้อเยื่อมาทดแทนส่วนที่เป็นสิวอักเสบได้ จึงทิ้งเป็นรอยแผลเป็นที่มีลักษณะเหมือนรอยบุ๋มหรือหลุม และส่งผลให้ใบหน้าของเราดูไม่เรียบเนียนค่ะ

เราสามารถแบ่งประเภทของหลุมสิวออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้ค่ะ

  • Ice pick หรือ หลุมสิวแบบจิก เป็นประเภทที่พบมากที่สุด (60-70% ของแผลเป็นจากสิว) และรักษายากที่สุด มีความลึกประมาณ 2 มิลลิเมตร ลักษณะจะเป็นแผลปากแคบ หลุมลึกและแหลม
  • Rolling หรือ หลุมสิวแอ่งกระทะ มีลักษณะเป็นแอ่งตื้น ไม่มีขอบที่ชัดเจน มักเกิดที่บริเวณแก้ม และสามารถกินพื้นที่ได้ถึง 5 มิลลิเมตร หลุมสิวประเภทพบได้ไม่บ่อยเมื่อเทียบกับอีกสองประเภทแต่เป็นประเภทที่รักษาได้ง่ายที่สุด
  • Boxcar หรือ หลุมสิวแบบกล่อง มีลักษณะเป็นกล่องหรือบ่อกว้างที่มีขอบชัดเจน ความกว้างอยู่ที่ 1.5 - 4 มิลลิเมตร ซึ่งนอกจากสิวแล้ว แผลจากตุ่มโรคอีสุกอีใสก็มักทำให้เกิดเป็นแผลแบบ Boxcar ได้

หลุมสิวหายได้ 100% ไหม

การรักษาหลุมสิวให้หาย 100% เป็นไปได้ยากค่ะ แต่สามารถรักษาให้ดูจางลง เพื่อให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้นได้ด้วยหัตถการอย่าง เลเซอร์หลุมสิว การฉีดกระตุ้นคอลลาเจน หรือ Subcision ค่ะ ซึ่งผลลัพธ์ของการรักษาก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล อัตราการสร้างคอลลาเจน (ขึ้นอยู่กับช่วงอายุและสุขภาพ) ความรุนแรงของหลุมสิว และการตอบสนองของร่างกายด้วยค่ะ อย่างไรก็ดี การปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก็จะสามารถช่วยให้เราวางแผนการรักษาที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพได้ค่ะ

เลเซอร์หลุมสิว เจ็บไหม

เลเซอร์หลุมสิว อาจทำให้รู้สึกระคายเคืองหรือเจ็บเล็กน้อยค่ะ โดยเลเซอร์แต่ละตัวจะมีระดับความเจ็บปวดที่ไม่เท่ากัน อาทิ เช่น Fractional CO2 จะทำให้รู้สึกระคายเคืองผิวหน้ามากกว่าเมื่อเทียบกับ Venus Viva MD เป็นต้นค่ะ 

เลเซอร์รักษาหลุมสิว ทำงานอย่างไร ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้จริงไหม

หมอขอสรุปง่าย ๆ ว่า เลเซอร์รักษาหลุมสิวได้ด้วยการกระตุ้นกระบวนการสมานแผล (Wound Healing) ในร่างกายของเราค่ะ ซึ่งเรามีกลไกการทำงานได้คร่าว ๆ ดังนี้ค่ะ

  • กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนด้วยความร้อน (Collagen Stimulation) : เมื่อแสงเลเซอร์ถูกส่งผ่านเข้าไปในขั้นผิวหนังแล้ว แสงเลเซอร์จะแปรเปลี่ยนเป็นความร้อน ซึ่งความร้อนนี้จะกระตุ้นให้เซลล์ผลิตคอลลาเจนมากขึ้นและเกิดการปรับโครงสร้างของเส้นใยคอลลาเจน (Collagen remodeling) ที่ช่วยให้ผิวเน้นฟูขึ้น และทำให้หลุมสิวเริ่มจางลง
  • ทำลายเนื้อเยื่อส่วนแผลเป็น (Scar Tissue Vaporization) : เลเซอร์บางตัว เช่น เลเซอร์ CO2 สามารถทำให้เนื้อเยื่อแผลเป็นบางส่วน “ระเหย” หายไปได้ค่ะ ซึ่งการระเหยตรงนี้ก็จะทำให้เซลล์บริเวณนั้นเข้าสู่วงจรการผลัดเซลล์ผิว (Cell Turnover) ส่งผลให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้นค่ะ
  • ขจัดผิวเก่าและเผยผิวใหม่ (Ablative Resurfacing) : เลเซอร์บางตัวที่มี Ablative technology จะสามารถขจัดเอาผิวชั้นนอกสุดออก ซึ่งช่วยให้ร่างกายได้ผลัดเซลล์ผิวและสร้างคอลลาเจนเพิ่ม ซึ่งจะช่วยเติมเต็มหลุมสิวและปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้นค่ะ

นอกจากนี้ เลเซอร์ยังรักษาได้มากกว่าหลุมสิว: เลเซอร์ที่ใช้รักษาหลุมสิวสามารถช่วยแก้ไขปัญหารอยดำ รอยแดง ริ้วรอยและปรับโทนสีผิวให้เสมอกันได้ด้วยค่ะ

และเมื่อเทียบกับทรีตเมนต์อื่นๆเลเซอร์รักษาหลุมสิว ถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย ทำได้ง่าย มีความเสี่ยงต่ำ และเห็นผลไวด้วยค่ะ

เลเซอร์รักษาหลุมสิว มีอะไรบ้าง

ในปัจจุบัน เทคโนโลยีเลเซอร์ให้เราเลือกอยู่มากมายค่ะ หมอผึ้งจึงขอยกตัวอย่าง 3 เลเซอร์รักษาหลุมสิวที่ได้รับความนิยมมาก มีประสิทธิภาพสูง พร้อมข้อดี-ข้อเสียของแต่ละตัวค่ะ

เลเซอร์รักษาหลุมสิว Venus Viva MD

เลเซอร์หลุมสิว Venus Viva MD เป็นการรักษาหลุมสิวด้วยเทคโนโลยี NanoFractional™ Radiofrequency ค่ะ ซึ่งเทคโนโลยีตัวนี้โดดเด่นในเรื่องของ Skin Resurfacing เจ้าเลเซอร์ตัวนี้รักษาหลุมสิวด้วย คลื่นความถี่วิทยุที่ส่งผ่านเข้าสู่ชั้นผิวด้วยเข็มที่มีขนาดเล็กเพียงประมาณ 300 นาโนเมตร (1 นาโนเมตร เท่ากับ 1 ในสิบล้านเซนติเมตร) ค่ะ

แล้วเข็มเล็กนาโนแบบนี้ดีอย่างไร เข็มขนาดเล็กเหล่านี้เข้าสู่ชั้นผิวได้ลึก (สูงสุดที่ความลึก 800 µm) กระจายคลื่นวิทยุเข้าสู่เนื้อเยื่อได้อย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพสูง โดยที่ไม่สร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง และยังไม่สร้างความเจ็บปวดระหว่างการรักษาด้วยค่ะ

Venus Viva MD การันตีเรื่องความสบายหน้าระหว่างการรักษาค่ะ โดยงานวิจัยของ Journal of Cosmetic Dermatology ในปี 2021 ระบุไว้ว่า ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว 30 คนที่ได้ทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวตัวนี้ ให้คะแนนความเจ็บปวดระหว่างการทำ เพียง 3 ใน 10 (0 =ไม่เจ็บเลย และ 10 = เจ็บมาก) และที่สำคัญ หลังการรักษาก็ไม่มีผลข้างเคียงระยะยาวใด ๆ ด้วยค่ะ

คลื่นวิทยุที่ถูกส่งผ่านเข้าไปในชั้นผิวด้วยเข็มขนาดเล็กเหล่านี้ จะทำความร้อนเป็นจุดเล็ก ๆ (เรียกว่า Microthermal zone) ซึ่งกระตุ้นกระบวนการสมานแผลของเซลล์ในบริเวณที่เราต้องการค่ะ

นอกจาก เทคโนโลยีเข็มจิ๋ว แล้วเลเซอร์รักษาหลุมสิว Venus Viva MD ยังมีเทคโนโลยี SmartScan™ ซึ่งจะสามารถปรับเปลี่ยนแพตเทิร์นในการปล่อยคลื่นวิทยุได้ตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล ทำให้เลเซอร์รักษาหลุมสิวตัวนี้มีความยืดหยุ่น ปลอดภัยต่อผู้รับการรักษามากขึ้น และยังลดโอกาสเกิดผิวไหม้คล้ำ (Hyperpigmentation) หลังทำเลเซอร์ด้วยค่ะ

ข้อดี:

  • เหมาะกับหลุมสิวประเภท rolling และ boxcar
  • จุดเด่นคือเป็น Fractional RF ชนิด Ablative ที่สร้างความร้อนถึงจุดที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวด้านบนได้ ทำให้ได้เซลล์ผิวใหม่ที่มาพร้อมกับ Skin Texture ที่ดีขึ้น
  • ได้ในเรื่องของ Patient Comfort ระหว่างการรักษาเพราะปล่อยพลังงานจากหัว pin ขนาดจิ๋ว
  • โอกาสการเกิดรอยไหม้ หรือ รอยคล้ำ หลังทำการรักษาต่ำ ด้วยเทคโนโลยี SmartScan™
  • ปลอดภัยกับผิวทุกประเภท

ข้อเสีย:

  • มีเวลาพักฟื้นประมาณ 2-3 วัน
  • การปล่อยพลังงานจะเป็นการปล่อยผ่านหัว pin ซึ่งอาจจะทำให้พลังงานลงลึกเท่าเครื่องที่ใช้ Microneedle ปล่อยไม่ได้

เลเซอร์รักษาหลุมสิว Fractional RF

เลเซอร์หลุมสิว Fractional RF (Fractional Radiofrequency) คือการใช้คลื่นความถี่วิทยุในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ซึ่งคลื่นวิทยุนี้พอเข้าสู่ชั้นผิวแล้วจะทำให้เกิดความร้อน ซึ่งผลักดันให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนและเซลล์ผิวใหม่ โดยเลเซอร์ Fractional RF มีทั้งแบบ Ablative และ Non-Ablative ซึ่งแพทย์จะเป็นคนพิจารณาว่าจะใช้แบบไหนค่ะ 

ที่ EY Clinic จะมีการใช้เลเซอร์ Fractional RF ชนิด Microneedling ค่ะ เทคนิคนี้คือ การใช้เข็มขนาดเล็ก (ขนาด 0.5-3 มิลลิเมตร ซึ่งใหญ่กว่าเข็มของ Venus Viva MD) ทิ่มเข้าไปในชั้นผิวเพื่อสร้างแผลเป็นจุดเล็ก ๆ ที่จะกระตุ้นกระบวนการสมานแผล และยังช่วยให้คลื่น RF เข้าสู่ชั้นผิวได้ลึกและทั่วถึงมากขึ้นด้วยค่ะ

ข้อดี:

  • สามารถรักษาหลุมสิวในบริเวณที่ผิวมีความบอบบางได้ดี
  • เทคนิค Microneedling ช่วยให้คลื่น RF เข้าสู่ชั้นผิวได้ลึกมากกว่า Pico laser
  • ผลข้างเคียงน้อย เมื่อเทียบกับเลเซอร์ตัวอื่น

ข้อเสีย:

  • ไม่เหมาะกับคนที่มีหลุมสิวที่ลึกและรุนแรง
  • อาจต้องทำทรีตเมนต์หลายครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน

บริการเลเซอร์รักษาหลุมสิว Fractional RF มีรายละเอียดดังนี้ค่ะ

  • Fractional RF (size S) 1 ครั้ง ราคา 4,999.-
  • Fractional RF (size M) 2 ครั้ง  ราคา 8,999.- 
  • Fractional RF (size L) 3 ครั้ง ราคา 12,699.-

เลเซอร์รักษาหลุมสิว Fractional CO2

เลเซอร์หลุมสิว Fractional CO2 ปล่อยแสงเลเซอร์ที่ความยาวคลื่น 10,600 นาโนเมตร ใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นตัวกลางในการแทรกตัวเข้าสู่เซลล์ผิว ซึ่งที่ EY Clinic ก็มีบริการเลเซอร์หลุมสิว Fractional CO2 โดยใช้ชื่อว่า “Smooth X” ค่ะ

เลเซอร์รักษาหลุมสิว Fractional CO2 เป็นเลเซอร์ประเภท Ablative มีหลักการทำงานดังนี้ค่ะ:

เมื่อยิงเลเซอร์เข้าสู่ผิวหนังแล้ว ความร้อนของเลเซอร์จะเข้าไปทำให้น้ำในเนื้อเยื่อร้อนขึ้น ทำให้ร่างกายตอบสนองด้วยการผลิตคอลลาเจน ผลัดเซลล์ผิว และเร่งผลิตเซลล์ผิวใหม่ค่ะ ซึ่งเราก็ไม่ต้องกลัวว่า ผิวหน้าส่วนอื่นจะได้รับความร้อนสูงเข้าไปด้วย เพราะ Fractional CO2 จะให้ความร้อนเป็นจุดเล็ก ๆ และไม่ให้เนื้อเยื่อบริเวณรอบข้างเสียแน่นอนค่ะ

สำหรับที่ EY Clinic หลังทำเลเซอร์ Fractional CO2 เสร็จแล้ว บริเวณที่ทำจะมีแผลเล็ก ๆ พร้อมกับสะเก็ดแผลเล็กน้อย 

ข้อดี:

  • รักษาหลุมสิวที่ลึกได้ดี โดยเฉพาะหลุมสิวประเภท rolling และ boxcar
  • มีความยืดหยุ่นในการรักษา แก้ไขปัญหาผิวได้หลากหลาย เช่น กระ สิวข้าวสาร สิวอุดตันหัวปิด และช่วยลบเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณ หน้าผาก รอบดวงตา แก้ม และรอบปากได้ด้วยค่ะ
  • ช่วยกระชับรูขุมขน

ข้อเสีย:

  • อาจมีผลข้างเคียงหลังทำเสร็จ (อาการบวมแดง หรือสะเก็ดแผล) ที่มากกว่าเมื่อเทียบกับเลเซอร์ตัวอื่น
  • มีความเสี่ยงที่จะเกิดรอยคล้ำ (Hyperpigmentation) หลังทำ หากแพทย์ไม่มีความชำนาญหรือเครื่องมือไม่ได้มาตรฐาน

ซึ่งเลเซอร์รักษาหลุมสิว Smooth X ที่มีให้บริการที่ EY Clinic มีรายละเอียดราคาดังนี้ค่ะ

  • SmoothX หลุมสิวที่แก้ม 3,499.- ต่อครั้ง และมีแพ็กเกจ 17,495.- ต่อ 6 ครั้ง
  • SmoothX หลุมสิวทั่วหน้า 3,999.- ต่อครั้ง และมีแพ็กเกจ 19,995.- ต่อ 6 ครั้ง

เลเซอร์รักษาหลุมสิว Fotona

Fotona เป็นเลเซอร์ YAG ซึ่งเลเซอร์ YAG ใช้ในการรักษาหลุมสิวคือ Er:YAG มีกลไกในการกระตุ้นกระบวนการสมานแผล และช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนค่ะ ซึ่งเลเซอร์ Fotona ก็มีทั้งแบบ Ablative ที่ช่วยผลัดเซลล์ได้ และ Non-ablative ที่ไม่ทำให้หน้าบาง แต่การเลือกใช้ก็จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ผู้ดูแลค่ะ

ข้อดี:

  • มีความแม่นยำ ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • สามารถรักษาปัญหาผิวอื่น ๆ นอกจากหลุมสิวได้ เช่น ช่วยลบเลือนริ้วรอย
  • ให้ผลลัพธ์ที่นาน

ข้อเสีย:

  • หลังทำแล้ว ผิวอาจมีอาการบวมแดง ระคายเคือง หรือเกิดเป็นรอยคล้ำ (Hyperpigmentation)

เลเซอร์รักษาหลุมสิว eMatrix

eMatrix ใช้คลื่น RF ในการรักษาหลุมสิว เหมือนกับ Venus Via MD และ Fractional RF ค่ะ แต่ eMatrix จะใช้เทคโนโลยี Sublative™ ที่เป็นการโฟกัสคลื่นวิทยุไปยังผิวชั้นหนังแท้ เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนโดยจะปล่อยคลื่นออกมาในรูปแบบพีรามิด ที่ไม่ทำร้ายหรือผิวชั้นหนังกำพร้าค่ะ

ข้อดี:

  • แก้ปัญหาผิวได้หลายข้อ เช่น จุดด่างดำ ริ้วรอย หรือ รอยดำจากแดด
  • ไม่ทำให้หน้าบาง หรือเกิดรอยคล้ำไหม้
  • ช่วยกระชับรูขุมขน และปรับสีผิวให้เสมอกันได้

ข้อเสีย:

  • หัวของ eMatrix จะปล่อยพลังงานในรูปแบบ stamping ทำให้เกิดสะเก็ดที่ใหญ่ถึง 59,000 ไมครอน^2 ใหญ่กว่าของ Venus Viva ถึง 20 เท่า ตอนทำอาจจะรู้สึกเจ็บกว่า
  • ความสามารถในการทะลุผ่านเนื้อเยื่อยังตื้นกว่าและมีความแม่นยำน้อยกว่า Venus Viva
  • เห็นผลช้า อาจต้องทำทรีตเมนต์หลายครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน

เลเซอร์รักษาหลุมสิว Pico

Pico laser น่าจะเป็นเลเซอร์รักษาหลุมสิวที่หลาย ๆ คนคุ้นชื่อ ซึ่ง ‘Pico’ นั้นมาจากคำว่า ‘Picosecond’ (แปลว่า 1ล้านล้านของวินาที) ซึ่งหมายถึง ความสามารถในการยิงแสงเลเซอร์ในจังหวะที่สั้นและเร็ว ลำแสงเลเซอร์พลังงานสูงจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในบริเวณที่ต้องการได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพค่ะ

โดยในปัจจุบัน Pico สามารถปล่อยเลเซอร์ได้ที่หลายความยาวคลื่น (532, 730, 755, 785 และ 1064 นาโนเมตร) ซึ่งแต่ละความยาวคลื่นก็จะมีข้อบ่งชี้ในการใช้ที่ต่างกันค่ะ

Pico laser หลุมสิว ยังเป็นเลเซอร์แบบ Non-ablative หรือก็คือ ไม่มีการลอกผิวชั้นนอก และยังขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการทำลายเม็ดสีเมลานิน ช่วยแก้ปัญหาฝ้ากระได้ดี และยังเป็นเลเซอร์ที่ใช้ลบรอยสักด้วยค่ะ

ข้อดี:

  • ไม่ทำให้หน้าบางลง
  • เห็นผลลัพธ์รวดเร็วและชัดเจนในกลุ่มคนที่ปัญหาหลุมสิวไม่รุนแรง

ข้อเสีย:

  • ผิวหน้าอาจตกสะเก็ดหลังทำ
  • ไม่เหมาะกับคนที่มีหลุมสิวจำนวนมากและรุนแรง
  • Pico laser ถูกผลิตมาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องของเม็ดสี แต่มี side effects คือช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ถูกนำมารักษาหลุมสิวได้ แต่ผลอาจจะไม่สม่ำเสมอเท่าเครื่องอื่นๆ
  • ด้วยต้นทุนที่สูง อาจทำให้มีราคาเริ่มต้นที่สูงเมื่อเทียบกับเลเซอร์รักษาหลุมสิวตัวอื่น ๆ

เลเซอร์รักษาหลุมสิวต้องทำกี่ครั้ง ถึงจะเห็นผล

โดยทั่วไปแล้ว ผลที่ชัดเจนที่สุดจะเห็นได้หลังทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวได้ 3-5 ครั้งค่ะ อย่างไรก็ดี จำนวนครั้งและผลลัพธ์ย่อมขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลและชนิดของหลุมสิวด้วยค่ะ

วิธีการเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์หลุมสิว

การทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว เราควรมีการวางแผนและเตรียมตัวดังนี้ค่ะ

  • งดสครับผิวหน้า อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์
  • งดใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Retinol, Glycolic acid, Salicylic acid หรือส่วนประกอบใดที่มีสรรพคุณในการผลัดเซลล์ผิว
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3-5 วัน ก่อนการทำเลเซอร์
  • ไม่แต่งหน้าในก่อนเข้าทำเลเซอร์
  • ศึกษาหาข้อมูล และรีวิวของคลินิกที่จะใช้บริการก่อนตัดสินใจทำเสมอ เพราะไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์รักษาหลุมสิว ฟิลเลอร์ หรือฉีดสิว ก็ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของเราค่ะ

วิธีการดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว

เมื่อทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวแล้ว เราควรมีการดูแลตัวเองเพื่อลดความรุนแรงของผลข้างเคียง และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ

  • หลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่เพิ่งยิงเลเซอร์มาโดนน้ำเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง
  • เมื่อผ่าน 24 ชั่วโมงไปแล้ว สามารถล้างหน้าได้ตามปกติ แต่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และกิจกรรมออกแดดในช่วง 24-48 ชั่วโมง หลังทำเสร็จ เนื่องจากเป็นช่วงที่ผิวจะคล้ำได้ง่ายกว่าปกติ
  • งดการใช้เครื่องสำอางอย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังทำเลเซอร์เสร็จ
  • งดสครับหน้าจนกว่าอาการบวมแดงหรือสะเก็ดจะหายไป
  • หากมีสะเก็ดแผล ไม่ควรแกะหรือเกาเพราะอาจจะทำให้เกิดรอยแผลเป็น
  • ทามอยเจอร์ไรเซอร์ และครีมกันแดด เพื่อบำรุงและสร้างเกราะป้องกันให้ผิว

รักษาหลุมสิวที่ EY Clinic ดีอย่างไร

อย่างที่กล่าวไปค่ะว่า ไม่ว่าจะเป็นหัตถการประเภทไหน เราก็ควรเลือกเข้ารับบริการกับคลินิกที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ และมีใบอนุญาตที่ถูกกฎหมาย ซึ่งหากคุณกำลังมองหาคลินิกที่จะช่วยดูแลสุขภาพผิวของคุณ เข้ามาพูดคุยกับเราที่ EY Clinic ได้ค่ะ เราคือผู้เชี่ยวชาญทางด้านสิว หลุมสิว และปัญหาผิวรอบด้าน นำทีมโดย นำทีมโดย หมอผึ้ง (พญ.พัจนภา เวชอนุรักษ์) เป็นแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง สถาบันโรคผิวหนัง เชี่ยวชาญด้าน Dermatosurgery โดยหมอจะมีการประเมินสภาพผิวและพูดคุยกับคุณก่อนที่จะวางแผนการรักษา เพื่อออกแบบทรีตเมนต์ให้ถูกต้องและเหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังมีการติดตามผลการรักษา ให้แน่ใจว่าได้ผลลัพธ์ที่คุณพึงพอใจค่ะ

สำหรับคนที่กำลังมองหาแพ็กเกจการรักษาหลุมสิว และฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน ที่ Ey Clinic มีแพ็กเกจให้บริการดังนี้ค่ะ

EY Clinic เป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านสิว หลุมสิว และ ชะลอวัย

เพราะเราคือทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์รวมกันมากกว่า 30 ปี นำทีมโดย หมอผึ้ง (พญ.พัจนภา เวชอนุรักษ์) แพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง สถาบันโรคผิวหนัง Board of Dermatology and Dermatosurgery และ หมอโบว์ (พญ. พันธลี ชื่นสัมพันธ์) เวชศาสตร์ชะลอวัย American Board of Anti-Aging & Regenerative Medicine แพทยศาสตร์บัณฑิตโรงพยาบาลรามาธิบดียินดี ให้คำปรึกษาและช่วยดูแลให้ผิวของคุณมีสุขภาพดีมากขึ้นค่ะ

หมอหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเลเซอร์รักษาหลุมสิวกับคนที่สนใจและต้องการดูแลผิวของตนเองได้ไม่มากก็น้อยค่ะ อย่างไรก็ดี หากมีข้อสงสัยสามารถแวะเข้ามาปรึกษาหมอผึ้งได้ที่ EY Clinic ค่ะ

อ้างอิงข้อมูล: 

Arruda, Suleima, et al. (2021) Subject Satisfaction Following Treatment with Nanofractional Radiofrequency for the Treatment and Reduction of Acne Scarring and Rhytids: A Prospective Study, Journal of Cosmetic Dermatology: https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/34559923/ 

รีวิวจากผู้รับบริการจริง

acne & acne scar expert
เรามีทรีตเมนต์หลากหลายที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมสุขภาพโดยรวมของคุณ ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงโภชนาการ เรามีทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อให้คุณรู้สึกดีที่สุด